นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า การปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำตามที่ประชุมคณะกรรมการค่าจ้างชุดที่ 22 หรือ ไตรภาคี ครั้งที่ 11/2567 มีมติเอกฉันท์ ปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 7-55 บาททั่วประเทศ แบ่งเป็น 17 อัตรา สูงสุดวันละ 400 บาท ได้แก่ “ภูเก็ต-ฉะเชิงเทรา-ชลบุรี-ระยอง-เกาะสมุย” ต่ำสุดวันละ 337 บาท แต่ยังไม่ทราบรายละเอียดแต่ละจังหวัดเท่าไหร่
ทั้งนี้ สินค้าที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ คือ กลุ่มสินค้าที่ใช้แรงงาน แรงงานฝีมือ และสินค้าอุปโภคบริโภค อาทิ ปลากระป๋อง อาหารทะเล และอาหารตามสั่ง เป็นต้น อย่างไรก็ดี ยังต้องดูปัจจัยต้นทุน โครงสร้างราคาสินค้าอื่นประกอบด้วย เพราะไม่ใช่เรื่องของค่าแรงเพียงอย่างเดียว
ขณะเดียวกัน ค่าแรงขั้นต่ำที่ปรับขึ้นจะกระทบเงินเฟ้อ ยังต้องมีหลายปัจจัยประกอบการพิจารณา ส่วนจะมีให้ปรับขึ้นราคาสินค้ามองว่ายังไม่มีเหมาะสม และยังไม่ใช่ข้อกังวลที่จะเป็นปัจจัยประกอบการในการขึ้นราคาสินค้า ทั้งนี้ รัฐบาลจะติดตามดูแลสินค้าอย่างใกล้ชิด ไม่ให้จากปัจจัยค่าแรงส่งผลกระทบต่อประชาชน ผู้บริโภครวมไปถึงผู้ประกอบการ
นอกจากนี้ ในส่วนสินค้าอุปโภคบริโภค ทางกรมการค้าภายในจะติดตาม เพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับผลกระทบ อย่างไรก็ตามกรมการค้าภายใน อีกทั้งจะพูดคุยกับผู้ประกอบการที่ได้รับผลทบเพื่อคุมเข้ม ไม่อนุญาติปรับขึ้นราคาสินค้า
ส่วนบัญชีรายการสินค้าควบคุม เบื้องต้นยังปกติไม่มีการปรับเปลี่ยนรายการสินค้าควบคุม ซึ่งกรมการค้าภายในจะมีการติดตามและดำเนินการอย่างใกล้ชิดต่อไป