“พิชัย” ชี้อีสานหนี้เรื้อรัง รายได้ต่ำ ขนาดเศรษฐกิจไม่ถึง 10%ของจีดีพี

20 ธ.ค. 2567 | 14:36 น.
อัปเดตล่าสุด :20 ธ.ค. 2567 | 14:40 น.

“พิชัย ชุณหวชิร” รองนายกฯ และรมว.คลัง เผยภาคอีสาน เป็นหนี้เรื้อรัง รายได้ต่อหัวต่ำ ขนาดเศรษฐกิจไม่ถึง 10%ของจีดีพีประเทศ ชูมาตรการปรับโครงสร้างหนี้ “คุณสู้เราช่วย” ชี้โอกาสคมนาคม หนุนเศรษฐกิจโต

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า การจะพลิกฟื้นอีสาน ไปสู่อนาคตที่ดี คนต้องมีความพร้อมก่อน และต้องได้รับการแก้ไขปัญหาเรื่องหนี้เรื้อรังที่มีอยู่เดิมให้ลุล่วง ซึ่งภาคอีสานมีเนื้อที่ใหญ่ มีกว่า 20 จังหวัด เฉพาะนครราชสีมา หรือโคราช มีประมาณ 22 ล้านไร่ ใหญ่กว่ากรุงเทพ 22 เท่า ซึ่งมีอยู่ประมาณ 1 ล้านไร่

ขณะที่เศรษฐกิจประเทศไทยอยู่ที่ 19 ล้านล้านบาท แต่เศรษฐกิจอีสานมีเพียง 9% ไม่ถึง 10%ของขนาดเศรษฐกิจประเทศ และในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจประเทศไทยไม่ได้เติบโตดีเท่าที่ควร อยู่ที่ 1.9% เมื่อเทียบกับเพื่อนบ้าน ทำให้ยิ่งมีปัญหาใหญ่ จึงขอเรียนว่าในเชิงของประชากร อีสานมีทั้งหมด 18 ล้านคน และอยู่ในโคราช 2.6 ล้านคน  ฉะนั้น มีประชากร 27% ของทั้งประเทศ เฉพาะโคราชอย่างเดียว มี 3-4%

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบขนาดรายได้ต่อหัวแล้ว โคราชมีรายได้ต่อหัวเพียงครึ่งเดียวของค่าเฉลี่ยทั้งประเทศ จากรายได้เฉลี่ยของ 1 คนในประเทศ จะอยู่ที่ 2.5 แสนบาทต่อคนต่อหัว ขณะที่ทั้งภาคอีสานมีรายได้ต่อหัวอยู่ 37%เท่านั้น มากกว่า 1 ใน 3 เล็กน้อย ซึ่งหมายความว่ามีปัญหา แต่สามารถอธิบายได้ เพราะท่านอยู่ในภูมิประเทศที่อยู่ห่างไกลทะเล  

นายพิชัย กล่าวว่า รัฐบาลได้พยายามแก้ไขหนี้ครัวเรือน ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 16 ล้านล้านบาท ขณะที่ขนาดเศรษฐกิจ 19 ล้านล้านบาท แปลว่าทุกคนเป็นหนี้ 90% ของขนาดเศรษฐกิจ ถือว่าเยอะไป มองว่าควรอยู่ที่ระดับ 70% เท่านั้น นอกจากนี้ ยังเผชิญปัญหาเมื่อครบกำหนดชำระ ไม่สามารถชำระได้ด้วย จึงมีปัญหากับสถาบันการเงิน

“ยอดที่ไม่สามารถชำระได้มีถึง 1 ล้านล้านบาท โดยวิธีแก้ไขเดิม เราจะบอกสถาบันการเงิน โดยเฉพาะภาคเกษตรกร พักหนี้ไว้ก่อน 1-2 ปี ขณะที่ดอกเบี้ยยังเดินอยู่ จึงทำให้เงินต้นไปลด อย่างไรก็ตาม รัฐบาลเห็นแล้วว่าควรทำอย่างไร จึงออกมาตรการ “คุณสู้ เราช่วย” ซึ่งมีผู้เข้าข่ายกว่า 8 แสนบัญชี”

สำหรับมาตรการดังกล่าว รัฐบาลพักดอกเบี้ยให้ 3 ปี และคนกลุ่มเหล่านั้นต้องมาลงทะเบียน และให้จ่ายเงินต้นน้อยกว่าปกติ ปีแรก 50% ปีต่อมา 70% และปีสุดท้าย 90% เมื่อครบ 3 ปี แล้ว จะยกดอกเบี้ยที่พักให้ทั้งหมด ซึ่งรัฐบาลเข้าไปช่วยครึ่งหนึ่ง และสถาบันการเงินช่วยครึ่งหนึ่ง เม็ดเงินการช่วยเหลือรวมกว่า 2.4 แสนล้านบาท

ทั้งนี้ เมื่อปัญหาหนี้ได้รับการแก้ไขแล้ว หากถามว่ามีโอกาสเศรษฐกิจภาคอีสานจะฟื้นหรือไม่ ก็ขอให้ดูภาพรวม แม้เราอยู่ในพื้นที่ที่ลึกกว่าทะเล แต่วันนี้เงื่อนไขเปลี่ยน มีการเปลี่ยนแปลงทวีปเอเชียอย่างใหญ่ ขณะนี้จีน เป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่อันดับ 2 ของโลก และเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดของโลก โดยมีเส้นทางที่จะส่งออกผ่านไปยังจุดต่างๆ ของโลก

นายพิชัย กล่าวว่า มีเส้นทางสายไหม ซึ่งมีเส้นหนึ่งที่จีนอยากไปอันดามัน โดยเส้นทางที่เขามองมากที่สุด คือ จากจีน วิ่งเข้าลาว ผ่านเวียงจันทร์ มาหนองคาย วิ่งเลาะมายังอุดร ขอนแก่น และผ่านนครราชสี มายังกรุงเทพ ต่อไปทางใต้ ทะลุไปมาเลเซีย และสิงคโปร์

“แปลว่าสินค้าตอนนี้ที่ส่งออกจากตลาดจีน สู่ตลาดโลกจะต้องมาผ่านที่โคราช ซึ่งเส้นทางนี้จะหนาแน่นทั้งสินค้าส่งออก และนำเข้าวัตถุดิบ นั่นคือโอกาสที่กำลังมาแล้ว

และอีกเส้นหนึ่ง คือ เส้นที่มาจากฝั่งพม่าที่ติดกับทะเลอันดามัน วิ่งไปสู่อินเดีย และสหรัฐอเมริกา โดยวิ่งมาจากพม่าเข้าไป โดยผ่านอีสานอีกแล้ว คือ  กาฬสินธุ์ และขอนแก่น เป็นต้น ฉะนั้น ทั้งเหนือใต้จากจีน มีความพร้อมแล้ว ซึ่งที่ใดก็ตามมีเส้นทางขนส่งผ่าน ก็แปลว่ามีความพร้อมเพื่อให้เกิดความเจริญ

ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคม ได้เตรียมแผนให้รถไฟมีเวลาหยุดนานขึ้น และวิ่งได้เร็วขึ้น ส่อให้เห็นว่าเราจะประสบความสำเร็จ จากรถไฟรางคู่ รวมแล้วเกือบ 2,000 กิโลเมตร และจะมีคลังสินค้าตามระยะทาง จุดแปรพักสินค้า

นอกจากนี้ ยังมีอีกเส้นหนึ่ง คือ รถไฟความเร็วสูง ขณะนี้ดำเนินการได้แล้ว 37% คาดเฟสแรกแล้วเสร็จใน 4 ปีข้างหน้า และเฟส 2 จะต่อไปขอนแก่น อุดร หนองคาย และเชื่อมลาว ขณะที่ทางด่วนสายพิเศษ อยู่ระหว่างเปิดให้ทดลองใช้อยู่ เชื่อมั่นว่าเมื่อสำเร็จแล้ว