“นฤมล” ถกม็อบหนี้สินกองทุนฟื้นฯฟู จบด้วยดี สลายตัวกลับบ้านแล้ว

12 ธ.ค. 2567 | 19:25 น.
อัปเดตล่าสุด :13 ธ.ค. 2567 | 10:25 น.

“นฤมล” ดับไฟร้อนสลายม็อบหนี้สินกองทุนฟื้นฯฟู จบด้วยดี ยืนยัน ครม.อนุมัติโครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินให้เกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟูฯ ล่าสุดม็อบยุติการชุมนุม กลับบ้านเรียบร้อย

ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ตนและนายอิทธิ ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ลงพื้นที่ไปเพื่อพบปะ พูดคุย และให้กำลังใจกลุ่มผู้ชุมนุมสหพันธ์เกษตรกรแห่งประเทศไทย (สกท.)จำนวนประมาณ 500 คน ที่ชุมนุมอยู่หน้ากระทรวงการคลัง ซึ่งเดินทางมาเพื่อหารือเกี่ยวกับปัญหาหนี้สินที่เกษตรกร และเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือในการแก้ไขปัญหาหนี้สินที่เกิดจากการกู้ยืมจากสถาบันการเงินต่าง ๆ ของรัฐ

“นฤมล” ถกม็อบหนี้สินกองทุนฟื้นฯฟู จบด้วยดี สลายตัวกลับบ้านแล้ว

"ได้นำความตั้งใจและความปรารถนาดีของรัฐบาลที่นำโดย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มาแจ้งให้กับพี่น้องเกษตรกรกลุ่มกองทุนฟื้นฟูฯ ที่ปักหลักกันอยู่ โดยเมื่อวันที่ 11 ธันวาคมที่ผ่านมา ในการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้รายงานผลการดําเนินงาน และขอปรับปรุงแนวทางการดําเนินงานตามโครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร กรณีลูกหนี้ธนาคารของรัฐ 4 แห่ง ประกอบด้วย โดย 4 แบงก์รัฐ ประกอบด้วย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารออมสิน, ธนาคารอาคารสงเคราะห์,  ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank ได้สิทธิ์ปรับโครงสร้างหนี้"

ที่ประชุม ครม.ได้มีมติเห็นชอบให้เกษตรกรที่ประสงค์เข้าร่วมโครงการเพิ่มเติม จํานวน 16,794 ราย และที่แจ้งเพิ่มเติมภายหลังที่มีคุณสมบัติขึ้นทะเบียนหนี้กับ กฟก.ครบถ้วนแล้วและเป็นหนี้ NPL ตามเกณฑ์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกําหนด ให้ได้รับสิทธิเข้าร่วมโครงการทดแทนเกษตรกรกลุ่มเป้าหมายเดิมที่ไม่ใช้สิทธิ์และไม่ประสงค์ร่วมโครงการ

 

 

“เรานำมติ ครม.ตรงนี้มาชี้แจงและทำความเข้าใจกับกลุ่มเกษตรกรอย่างจริงใจ เพื่อให้เขาสบายใจขึ้น และกลับไปยังภูมิลำเนาประกอบอาชีพได้อย่างไม่ต้องวิตกกังวล ซึ่งเท่าที่พูดคุยก็ได้ผลตอบรับที่ดี และได้รับรายงานว่า กลุ่มผุ้ชุมนุมได้ยุติการชุมนุมเดินทางกลับภูมิลำเนาไปส่วนหนึ่งแล้ว และอีกส่วนหนึ่งจะเดินทางกลับในวันพรุ่งนี้“ ศ.ดร.นฤมล กล่าว