ลานประมูลคาด “คุณสู้ เราช่วย” ทำรถถูกยึดน้อยลง ดันรถมือสองราคาพุ่ง

12 ธ.ค. 2567 | 14:42 น.
อัปเดตล่าสุด :12 ธ.ค. 2567 | 14:55 น.

สยามอินเตอร์การประมูลคาดมาตรการ “คุณสู้ เราช่วย” ช่วยเหลือลูกหนี้ ทำตลาดรถมือสองปี 2568 ราคาพุ่ง เหตุยอดรถถูกยึดลดลง 20% ดันราคาขยับ 5-10% เปิดสถิติล่าสุดรถกระบะถูกยึดพุ่งสูงสุด สะท้อนปัญหาผู้ประกอบการรายย่อย

นายสิทธิศักดิ์ มหาสิทธิวัฒน์ ผู้ก่อตั้งและที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ด้านการตลาด บริษัท สยามอินเตอร์การประมูล จำกัด เปิดเผยในรายการ "เข้าเรื่อง" เผยแพร่ทางยูทูปช่องฐานเศรษฐกิจ เกี่ยวกับสถานการณ์รถถูกยึด และตลาดรถมือสองว่า ในปี 2568 รถถูกยึดอาจมีจำนวนลดลงประมาณ 20% เนื่องจากมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ของภาครัฐที่ออกมาล่าสุด โครงการ "คุณสู้ เราช่วย" ซึ่งจะทำให้ราคาของรถมือสองในตลาดอาจขยับเพิ่มขึ้นอีก 5-10%

พร้อมระบุว่า มาตรการของรัฐบาลจะช่วยชะลอการยึดรถออกไปอีก 3-4 ปี เพื่อให้เศรษฐกิจฟื้นตัวและประชาชนมีความสามารถในการผ่อนชำระดีขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม หากในช่วง 3 ปีนี้เศรษฐกิจไม่ดีขึ้น ปัญหาการยึดรถก็อาจจะกลับมาอีกครั้งในปีที่ 4

ทั้งนี้ จากข้อมูลการยึดรถในช่วงที่ผ่านมา พบว่ารถกระบะที่ถูกยึดมีสัดส่วนเพิ่มขึ้น จากเดิมที่มีสัดส่วน 30-40% เพิ่มขึ้นเป็น 55-60% ของรถที่ถูกยึดทั้งหมด ขณะที่รถเก๋งมีสัดส่วนลดลงเหลือ 40-45% สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาของผู้ประกอบการรายย่อยที่ใช้รถกระบะในการประกอบอาชีพ ซึ่งได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ

 

ในขณะที่รถยนต์ไฟฟ้า (EV) พบว่ามีสัดส่วนการถูกยึดน้อยมาก โดยคิดเป็นเพียง 1 คันต่อรถน้ำมัน 10 คัน เนื่องจากผู้ซื้อรถ EV ส่วนใหญ่อยู่ในเมืองและมีฐานะการเงินที่มั่นคง ประกอบกับการที่รถ EV ยังมีจำนวนน้อยในตลาด

ด้านราคารถในตลาดประมูล พบว่าราคาเฉลี่ยได้ปรับตัวลดลงจาก 270,000 บาทในช่วงต้นปี เหลือ 170,000 บาท ซึ่งเป็นผลมาจากการปรับราคาลงของรถยนต์ไฟฟ้าที่ส่งผลกระทบต่อตลาดรถมือสองโดยรวม อย่างไรก็ตาม ในช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม ราคาได้ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 190,000-200,000 บาท เนื่องจากมีผู้สนใจเข้าร่วมประมูลเพิ่มขึ้นจาก 400-500 คน เป็น 800 คนต่อครั้ง โดยเฉพาะในช่วงไฮซีซั่นปลายปีที่ประชาชนอาจได้รับโบนัส หรือมีแผนที่จะหาซื้อรถไว้ใช้งานมากขึ้น

เมื่อถามถึงธูรกิจเต็นท์รถมือสอง นายสิทธิศักดิ์กล่าวถึงสถานการณ์ในปัจจุบันว่า มีจำนวนผู้ประกอบการลดลงจาก 20,000 ราย เหลือประมาณ 15,000 ราย แต่ยังถือเป็นธุรกิจที่น่าสนใจ เนื่องจากมีอัตรากำไรสูงถึง 50% ต่อปี โดยผู้ประกอบการที่ปรับตัวเข้าสู่ตลาดออนไลน์ได้ดีจะมีโอกาสเติบโตแบบก้าวกระโดด ขณะที่ผู้ประกอบการที่ไม่สามารถปรับตัวได้จะประสบปัญหา เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป สามารถซื้อขายรถข้ามจังหวัดผ่านช่องทางออนไลน์ได้มากขึ้น

นอกจากนี้ ธุรกิจนายหน้าซื้อขายรถมือสองในตลาดประมูลยังสร้างรายได้ดี โดยนายหน้าที่มีความเชี่ยวชาญสามารถทำรายได้ 200,000-300,000 บาทต่อเดือน จากการประมูลรถและส่งต่อให้เต็นท์รถมือสอง

สุดท้ายเมื่อมองเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศ ยังถือว่าน่าเป็นห่วงเพราะมีสัดส่วนหนี้ครัวเรือนที่สูง ดยเฉพาะปัญหาหนี้เสียที่มีมูลค่าสูงถึง 2.2 ล้านล้านบาท มีบัญชีที่เป็นหนี้เสีย 1.2 ล้านบัญชี ดังนั้นแม้รัฐบาลจะออกมาตรการช่วยเหลือ แต่ประชาชนเองก็ต้องระมัดระวังในการใช้จ่ายและการก่อหนี้