นายกฯ ยันไม่มีการปรับขึ้นภาษี VAT 15%

06 ธ.ค. 2567 | 15:27 น.
อัปเดตล่าสุด :07 ธ.ค. 2567 | 06:48 น.
1.8 k

นายกฯ ยันไม่มีการปรับขึ้นภาษี VAT 15% หลังโพสข้อความผ่านทวิตเตอร์จากการหารือร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และคณะที่ปรึกษานโยบาย

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ทวิตข้อความผ่าน X ถึงข้อกังวลใจต่อเรื่องการปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) เป็น 15% โดยระบุว่า 

วันนี้ได้หารือในประเด็นดังกล่าวร่วมกับ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วยคณะที่ปรึกษานโยบายของนายกรัฐมนตรีแล้ว เพื่อความชัดเจน จึงขอสรุป 
เพื่อชี้แจงดังนี้ 

  • ไม่มีการปรับ VAT เป็น 15% 
     
  • กระทรวงการคลัง กำลังศึกษาการปรับโครงสร้างภาษี ซึ่งต้องมองทั้งระบบให้ครบทุกมิติและเป็นธรรม เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
  • การปรับโครงสร้างภาษีของประเทศอื่นๆ ใช้เวลาศึกษาและปรับตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป บางประเทศใช้เวลาปรับเปลี่ยนกว่า 10 ปี
  • นโยบายหลักของรัฐบาล คือการลดรายจ่ายของประชาชน ลดรายจ่ายและเพิ่มประสิทธิภาพของภาครัฐ ควบคู่ไปกับการหาโอกาสจากการสร้างรายได้ใหม่ให้ประชาชน ทั้งหมดนี้ เพื่อชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของพี่น้องประชาชนคนไทยค่ะ 

ขอให้ประชาชนมั่นใจว่า การทำงานของรัฐบาลดำเนินการด้วยความรัดกุม รับฟังทุกภาคส่วน และยึดประโยชน์ของพี่น้องประชาชนเป็นที่ตั้ง เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทย

นายกฯ หารือ รมว.คลัง และ ทปษ.นโยบาย ย้ำไม่มีการปรับภาษีมูลค่าเพิ่ม “VAT” เป็น 15% แน่นอน ย้ำรัฐบาลทำงานด้วยความรัดกุมยึดผลประโยชน์ส่วนรวมเป็นสำคัญ ขอประชาชนมั่นใจนับจากนี้ จะเดินหน้า เร่งกระตุ้นเศรษฐกิจไทยให้ได้ในทุกมิติ

 

นายกฯ ยันไม่มีการปรับขึ้นภาษี VAT 15%

 

ขณะเดียวกันเว็บไซต์ทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า วันนี้ (6 ธันวาคม 2567) เวลา 14.30 น. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เชิญผู้เกี่ยวข้องหารือในกรณีที่มีข่าวว่า รัฐบาลจะขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มหรือVAT เป็น15%

ซึ่งประกอบไปด้วยนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ร่วมกับคณะที่ปรึกษานโยบายของนายกรัฐมนตรี  โดยได้ข้อสรุปดังนี้ นายกรัฐมนตรียืนยันว่า

1. ไม่มีการปรับภาษีมูลค่าเพิ่มหรือ VAT เป็น 15% 

2. กระทรวงการคลังซึ่งกำลังศึกษาการปรับโครงสร้างภาษีของประเทศไทย ซึ่งต้องมองทั้งระบบให้ครบทุกมิติและเป็นธรรม เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศ

3. ที่ผ่านมาแต่ละประเทศในโลกหากจะมีการปรับโครงสร้างภาษีของประเทศอื่นๆนั้นต้องใช้เวลาศึกษาและปรับตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปบางประเทศใช้เวลาปรับเปลี่ยนกว่า 10 ปี

4. นโยบายหลักของรัฐบาลคือ การลดรายจ่ายของประชาชน เพิ่มรายได้ขยายโอกาส และลดรายจ่ายภาครัฐ และเพิ่มประสิทธิภาพของภาครัฐ ควบคู่กันไป กับการหาโอกาสจากการสร้างรายได้ใหม่ๆให้ประชาชน ทั้งหมดนี้ เพื่อชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของพี่น้องประชาชนคนไทย

 “ขอให้พี่น้องประชาชนมั่นใจค่ะว่า การทำงานของรัฐบาล เราดำเนินการด้วยความรัดกุม รับฟังทุกภาคส่วน และยึดประโยชน์ของพี่น้องประชาชนเป็นที่ตั้ง เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยของเราทุกคนค่ะ”   นายกรัฐมนตรีกล่าว

 

ที่มา : ทำเนียบรัฐบาล