ขุดลึก “บอสพอล” พร้อมผู้ถือหุ้น “ดิไอคอนกรุ๊ป” โกยเงินปันผล ปี 66 อู้ฟู่

ประเด็นร้อน “บอสพอล” หรือ วรัตน์พล วรัทย์วรกุล ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพและความงาม ถูกกล่าวหาว่าการดำเนินธุรกิจอาจเข้าข่ายการหลอกลงทุนในลักษณะแชร์ลูกโซ่

โดยมีผู้เสียหายรวมตัวกันนำหลักฐานการร่วมลงทุนมายื่นเรื่องร้องเรียนต่อกองบังคับการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) ตรวจสอบว่าบริษัทแห่งนี้เข้าข่ายความผิดหรือไม่ 

จนล่าสุด พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ประชุมด่วนหลังพูดคุยกับผู้เสียหายที่มาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน และแจ้งว่าเตรียมทำหนังสือถึง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. ขออายัดทรัพย์เจ้าของ The iCon Group ทั้งหมดเอาไว้ก่อน

สำหรับการดำเนินธุรกิจของบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด นั้น ที่ผ่านมา ฐานเศรษฐกิจได้เปิดข้อมูลเกี่ยวกับอาณาจักร “บอสพอล” ไปแล้ว พบว่า เขาเป็นผู้บริหารในบริษัทต่าง ๆ อย่างน้อย 5 แห่งที่ยังมีสถานะดำเนินกิจการ โดยเฉพาะบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด มีข้อมูลผลดำเนินงาน 5 ปีที่ผ่านมา มีรายได้หลักหมื่นล้านบาท โดยเฉพาะในปี 2564 ถือว่าเป็นปีทอง นั่นเพราะ ดิไอคอนกรุ๊ป โกยรายได้เฉียด 5 พันล้านบาท และมีผลประกอบการเป็นกำไรกว่า 813 ล้านบาท

 

 

ฐานเศรษฐกิจ ยังได้ตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับงบการเงินของบริษัท อ้างอิงข้อมูลจากหมายเหตุประกอบงบการเงินของบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2566 และปี 2565 ที่รายงานต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบข้อมูลน่าสนใจเกี่ยวกับการจัดสรรกำไรและเงินปันผลจ่ายของบริษัท ตามมติที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2566 

ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด ครั้งที่ 1/2566 อนุมัติให้จ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นจากผลกำไรสะสมของบริษัทฯ ในอัตราหุ้นละ 1,080 บาท จำนวน 80,000 หุ้น และในอัตราหุ้นละ 270 บาท จำนวน 420,000 หุ้น รวมเป็นเงินจำนวน 199.80 ล้านบาท และจัดสรรเงินสำรองตามกฎหมายจำนวน 5 ล้านบาท

ทั้งนี้จากการตรวจสอบโครงสร้างของผู้ถือหุ้นบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด พบข้อมูลรายชื่อผู้ถือหุ้น ด้วยกัน 3 ราย ประกอบด้วย

1. “บอสพอล” หรือ นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล ถือหุ้นใหญ่สุดในสัดส่วน 75% จำนวน 374,999 หุ้น 
2. น.ส.จินดา แซ่ก๊อก ถือหุ้นรองลงมาในสัดส่วน 21% จำนวน 105,000 หุ้น 
3. น.ส.ปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพร ถือหุ้นสัดส่วน 4% จำนวน 105,000 หุ้น

 

 

จากการคำนวณการจ่ายเงินปันผลแยกเป็นรายบุคคล พบว่า ผู้ถือหุ้นบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด ทั้ง 3 รายได้รับเงินปันผล ดังนี้

1. “บอสพอล” หรือ นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล : ได้เงินปันผลรวม 162 ล้านบาท แยกเป็น

• ส่วนแรก : หมายเลขหุ้น 00001-74999 จำนวน 74,999 หุ้น ได้รับเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 1,080 บาท รวมเป็นเงิน 80,998,920  บาท 
• ส่วนที่สอง : หมายเลขหุ้น 80001-380000 จำนวน 300,000 หุ้น ได้รับเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 270 บาท รวมเป็นเงิน 81 ล้านบาท

2. น.ส.จินดา แซ่ก๊อก : ได้เงินปันผลรวม 36 ล้านบาท แยกเป็น

• ส่วนแรก : หมายเลขหุ้น 75000-79999 จำนวน 5,000 หุ้น ได้รับเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 1,080 บาท รวมเป็นเงิน 9,040,000  บาท 
• ส่วนที่สอง : หมายเลขหุ้น 380001-480000 จำนวน 100,000 หุ้น ได้รับเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 270 บาท รวมเป็นเงิน 27 ล้านบาท

3. น.ส.ปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพร : ได้เงินปันผลรวม 5.4 ล้านบาท แยกเป็น

• ส่วนแรก : หมายเลขหุ้น 80000 จำนวน 1 หุ้น ได้รับเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 1,080 บาท รวมเป็นเงิน 1,080  บาท 
• ส่วนที่สอง : หมายเลขหุ้น 480001-500000 จำนวน 20,000 หุ้น ได้รับเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 270 บาท รวมเป็นเงิน 5.4 ล้านบาท

ข้อมูลบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด

บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด จดทะเบียนเมื่อ 1 มิ.ย.2561 แจ้งดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการขายปลีกทางอินเทอร์เน็ต มีทุนจดทะเบียนปัจจุบัน 50 ล้านบาท และมีมูลค่าบริษัทปัจจุบันอยู่ที่ 848 ล้านบาท

สำหรับงบการเงินนำส่งล่าสุด ปี 2566 พบว่า บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด มีสินทรัพย์รวม 2,402,677,947 บาท หนี้สินรวม 1,554,377,393 บาท มีรายได้รวม 1,891,032,251 บาท รายจ่ายรวม 1,862,137,799 บาท เสียภาษีเงินได้ 9,113,250 บาท กำไรสุทธิ 19,777,855 บาท

ส่วนข้อมูลกรรมการ บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด พบว่า มีชื่อของ "บอสพอล" วรัตน์พล วรัทย์วรกุล เป็นกรรมการรายเดียว ส่วนรายชื่อผู้ถือหุ้น มีด้วยกัน 3 ราย คือ วรัตน์พล วรัทย์วรกุล ถือหุ้นใหญ่สุดในสัดส่วน 75% , จินดา แซ่ก๊อก ถือหุ้นสัดส่วน 21% และปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพร ถือหุ้นสัดส่วน 4%

ขณะเดียวกันยังพบข้อมูลว่า บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด ยังถือหุ้นในบริษัทอื่นอีก 3 แห่ง ประกอบด้วย บริษัท ดิ ไอคอน เวลเนส จำกัด สัดส่วน 50% , บริษัท ดิไอคอนการบัญชี จำกัด สัดส่วน  50% และบริษัท เฟรนด์ชิป ฟูลฟิลเม้นท์ จำกัด สัดส่วน 33%