นายภาวุธ พงษ์วิทยภานุ ซีอีโอ กลุ่มบริษัท efrastructure Group ผู้บุกเบิกวงการอีคอมเมิร์ซ และการตลาดดิจิทัลเมืองไทย กล่าวกับ”ฐานเศรษฐกิจ”ว่ากระแสการต่อต้านแอป Temu เริ่มจุดติด หลังจากที่รัฐบาลมีการตอบสนองรวดเร็ว
โดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้มีการสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกรมสรรพากร กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หาทางรับมือการเข้ามาของแอป Temu
อย่างไรก็ตามล่าสุดกรมสรรพากร ออกมาระบุว่าสถานะของ Temu นั้น ยังไม่เข้าข่ายตามกฎหมายการจดทะเบียนเป็นผู้ประกอบการที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (Vat) ในประเทศไทย เพราะฉะนั้นทำให้ไม่สามารถบังคับให้เขามาจดทะเบียน Vat ได้ ทำให้เริ่มเกิดกระแสการต่อต้าน Temu เริ่มมีมากขึ้นเป็นโลกโซเชียล
โดยมีติดแฮชแทค #แบนTemu รวมถึงคอมเม้นท์เชิงต่อต้านบนเพจ Temu Thailand อาทิ “ไม่สนับสนุนของจีน โดยที่ไทยไม่ได้ประโยชน์อะไรและมีแต่เงินไหลออกประเทศอย่างเดียว” หรือ ควรผ่าน มาตรฐานไทย เช่น มอก อย และจ่ายภาษีให้ครบ แล้วค่อยเข้ามาขาย
นายภาวุธ กล่าวต่อไปอีกว่าขณะนี้สังคมไทยเริ่มตื่นตัว และรับรู้ผลกระทบจากการเข้ามาของ Temu ที่เป็นช่องทางสำคัญในการหลั่งไหลเข้ามาจากสินค้าจีน ทำให้เงินไหลออกและส่งผลกระทบกับผู้ประกอบการไทย อย่างไรก็ตามเชื่อว่าคนไทยไม่สนับสนุนธุรกิจที่ไม่ถูกต้องที่เข้ามาทำธุรกิจในไทย โดยไม่ปฎิบัติตามกฎหมายได้