ซินเจนทา ปลื้ม “เพาะดี กินดี” ผลผลิตเกษตรกรพุ่ง 2 เท่า ส่งขายแล้ว 14 ตัน

07 มิ.ย. 2567 | 18:15 น.
อัปเดตล่าสุด :07 มิ.ย. 2567 | 18:31 น.

ซินเจนทา เผย โครงการ “เพาะดี กินดี” คืบหน้า รับวันความปลอดภัยทางอาหารโลก เกษตรกรเข้าร่วมโครงการแล้ว 4 กลุ่ม ได้ผลผลิตเกินคาดเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าตัว ส่งขายแล้วกว่า 14 ตัน สร้างความมั่นคง และปลอดภัยทางอาหารยั่งยืน

เนื่องในวันความปลอดภัยทางอาหารโลก (World Food Safety Day) 7 มิถุนายน 2567  ซินเจนทา ประเทศไทย เผยความคืบหน้าโครงการนำร่อง “เพาะดี กินดี” มีความคืบหน้าอย่างมีนัยสำคัญ

นางสาววรรณภร วัฒนาเกษมสัตย์ ผู้อำนวยการฝ่ายความยั่งยืนทางธุรกิจ บริษัท ซินเจนทา ครอป โปรเทคชั่นจำกัด เปิดเผยว่า โครงการ “เพาะดี กินดี” (ภายใต้เสาหลักกลยุทธ์ความยั่งยืนทางเกษตรกรรมผ่านเครือข่ายเกษตรกรเพื่ออาหารปลอดภัย) เป็นโครงการที่ซินเจนทาได้ริเริ่มขึ้น ซึ่งเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของอาหาร นับเป็นจุดเริ่มต้นของการส่งเสริม และสนับสนุนให้เกษตรกรได้ทําการเกษตรแบบปลอดภัยตั้งแต่ต้นน้ำของการผลิตพืชไปจนถึงผู้บริโภค โดยได้ยึดตามมาตรฐานของ GAP (Good Agricultural Practices) ที่เป็นมาตรฐานสากล

วรรณภร วัฒนาเกษมสัตย์ ผู้อำนวยการฝ่ายความยั่งยืนทางธุรกิจ บริษัท ซินเจนทา ครอป โปรเทคชั่น

ทั้งนี้การปลูกพืชภายใต้มาตรฐาน GAP ส่งผลดีกับสิ่งแวดล้อม เพราะเป็นการบริหารจัดการดูแลแปลงให้มีการใช้สารอารักขาพืชในปริมาณที่เหมาะสม และปลอดภัยไม่ใช้เกินความจําเป็น โดยทางบริษัทมีทีมผู้เชี่ยวชาญคอยให้ความรู้และคำปรึกษาแก่เกษตรกร มีเทคนิคการผลิตอาหารปลอดภัย การใช้เมล็ดพันธุ์ที่มีคุณภาพ การป้องกันกำจัดศัตรูพืช ตลอดจนเชื่อมโยงเกษตรกรกับกลุ่มผู้บริโภค มุ่งหวังที่จะพัฒนาศักยภาพของเกษตรกรไทย ให้สามารถผลิตอาหารที่มีคุณภาพ มีโภชนาการที่ดีและปลอดภัย ตรงตามความต้องการของผู้บริโภค

ซินเจนทา ปลื้ม “เพาะดี กินดี” ผลผลิตเกษตรกรพุ่ง 2 เท่า ส่งขายแล้ว 14 ตัน

นายดิเรก เครือจินลิ ผู้ประสานงานโครงการสิ่งแวดล้อมภาคเหนือ มูลนิธิรักษ์ไทย กล่าวว่า จากที่ได้ร่วมมือกัน ทำให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน จากเกษตรกรที่มีการรวมตัวกันเป็นวิสาหกิจชุมชนมากยิ่งขึ้น จากเดิมต่างคนต่างทำ และเผชิญปัญหาของตนเอง เวลานี้สามารถแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกันได้ นับเป็นเรื่องที่ดีที่เกิดขึ้นจากตัวโครงการฯ ที่ช่วยพัฒนาเกษตรกรให้มีความรู้ตั้งแต่เรื่องการเพาะปลูก ไปจนถึงสามารถจัดการผลผลิตให้ออกได้ตามปริมาณความต้องการของตลาดรับซื้อ และผลผลิตที่ได้ยังมีคุณภาพได้รับคําชมจากผู้รับซื้อปลายทางอีกด้วย

ซินเจนทา ปลื้ม “เพาะดี กินดี” ผลผลิตเกษตรกรพุ่ง 2 เท่า ส่งขายแล้ว 14 ตัน

“เกษตรกรพึงพอใจในการเข้าร่วมโครงการนี้ เพราะทำให้คุณภาพชีวิตเขาดีขึ้น มีรายได้ที่ดีขึ้น เวลานี้ในโครงการฯ เราส่งผักทั้งหมดขายไปแล้วกว่า 14 ตัน และกำลังวางแผนผักที่จะปลูกต่อไป เช่น ผักสลัด ข้าวโพดหวาน ถั่วลายเสือ กลุ่มผักหัว ผักใบ เช่น กะหล่ำปลี ผักกาดขาว และตระกูลกล้วยน้ำหว้า ซึ่งเป็นกลุ่มหลัก ๆ ที่เกษตรกรมองว่ามีทักษะ มีศักยภาพ และพื้นที่ที่เหมาะสมสามารถปลูกได้ทั้งปี”

ซินเจนทา ปลื้ม “เพาะดี กินดี” ผลผลิตเกษตรกรพุ่ง 2 เท่า ส่งขายแล้ว 14 ตัน

นายธิติพันธ์ บุญมี ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คิว บ็อคซ์ พอยท์ จำกัด กล่าวว่า ผักเป็นพืชที่มีความต้องการการบริโภคอย่างต่อเนื่องในทุกๆวัน แต่การผลิตยังไม่เพียงพอ หากเกษตรกรสามารถผลิตในเชิงอุตสาหกรรมเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของตลาดได้ และผลิตได้อย่างแม่นยำก็จะสามารถแข่งขันหรือต่อรองกับตลาดได้ ยิ่งถ้าสร้างมูลค่าของสินค้าได้ มีมาตรฐานเกษตรปลอดภัยด้วยแล้ว ก็จะทําให้ผู้บริโภคเชื่อมั่นในตัวสินค้ามากยิ่งขึ้น

"ในฐานะที่เราเป็นแพลตฟอร์มทางธุรกิจเกษตรที่ช่วยเชื่อมโยงผลผลิตจากเกษตรกรไปสู่ผู้ประกอบการหรือตลาดที่ต้องการผลผลิต จึงเข้ามาช่วยแมทชิ่งให้เกษตรกรได้ผลิตสินค้าตรงกับความต้องการของตลาด สามารถวางแผนการผลิตได้ล่วงหน้า เพื่อช่วยแก้ปัญหาราคาผลผลิตต่ำ ให้เกษตรกรสามารถจัดการการผลิตและทำธุรกิจเกษตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งกับเกษตรกร ที่เข้าร่วมโครงการนี้"

ซินเจนทา ปลื้ม “เพาะดี กินดี” ผลผลิตเกษตรกรพุ่ง 2 เท่า ส่งขายแล้ว 14 ตัน

ด้านนายปรีดา สมวถา ประธานกลุ่มวิสาหกิจผักปลอดภัยช่างเคิ่งบน และตัวแทนกลุ่มเกษตรกร กล่าวว่า ได้เข้าร่วมโครงการฯ ตั้งแต่แรกเริ่มต้นปี 2567 ก่อนหน้านี้ปลูกพืชทั่วไป ได้ราคาแพงบ้างถูกบ้างเป็นไปตามกลไกของตลาดในช่วงนั้นๆ แต่พอมาเข้าโครงการฯ ได้มีการตั้งราคาที่หน้าฟาร์ม เป็นราคาที่ตกลงกันได้ รู้ล่วงหน้า ทำให้เราวางแผนการปลูกได้ดีขึ้น รายได้ดีขึ้น แน่นอน มั่นคงกว่าเดิม และผักที่ปลูกเป็นไปตามมาตรฐาน GAP เวลานี้พืชที่ปลูกได้แก่ ผักเคล ผักสลัด เช่น กรีนโอ๊ค เรดโอ๊ค เรดคอรัล มะเขือยาว มะเขือเจ้าพระยา มีราคารับซื้อที่เป็นธรรม

“ส่วนตัวมองว่าโครงการนี้ดี ทำให้เกษตรกรเข้าใจในการทําเกษตรอย่างปลอดภัย ทำให้สุขภาพของตนเองและครอบครัวปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ไม่ใช้สารเคมีเกินตามมาตรฐาน GAP ผลผลิตดีเพิ่มขึ้น ทำให้มีรายได้ที่มั่นคงมาจุนเจือครอบครัว และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นด้วย”

ซินเจนทา ปลื้ม “เพาะดี กินดี” ผลผลิตเกษตรกรพุ่ง 2 เท่า ส่งขายแล้ว 14 ตัน

นางสาววรรณภร วัฒนาเกษมสัตย์ ผู้อำนวยการฝ่ายความยั่งยืนทางธุรกิจ บริษัท ซินเจนทา ครอป โปรเทคชั่นจำกัด  กล่าวเสริมอีกว่า ปัจจุบันมีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการ “เพาะดี กินดี” แล้วจำนวน 19 ราย บนพื้นที่ 15 ไร่  ประกอบด้วย  4 กลุ่มอำเภอ  ได้แก่ 1. กลุ่มเกษตรกรบ้านช่างเคิ่ง อ.แม่แจ่ม 2. กลุ่มเกษตรกรบ้านแม่ปานสันเกี๋ยง อ.แม่แจ่ม  3. กลุ่มเกษตรกรบ้านห้วยบง นากลาง อ.แม่แจ่ม 4. กลุ่มเกษตรกรบ้านห้วยตอง อ.แม่วาง จังหวัดเชียงใหม่

สำหรับโครงการ “เพาะดี กินดี” เป็นการดำเนินโครงการร่วมกันระหว่างบริษัท ซินเจนทา ครอป โปรเทคชั่น จำกัด ร่วมกับมูลนิธิรักษ์ไทย, บริษัท คิวบ็อคซ์ พอยท์ จำกัด ผู้ผลิตแอพลิเคชั่น ฟาร์มบุ๊ค, เทศบาลตำบลแม่แจ่ม และองค์การบริหารส่วนตำบลแม่ศึก โดยความร่วมมือกันในครั้งนี้ถือเป็นความมุ่งมั่นร่วมกันในการยกระดับอุตสาหกรรมเกษตรในประเทศไทย สร้างความมั่นคงทางอาชีพ และส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับเกษตรกรอย่างยั่งยืน โดยเริ่มโครงการนำร่องที่ อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่  และขยายสู่เครือข่ายเกษตรกรในจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่านและลำพูน ระยะเวลาตั้งแต่เดือนมกราคม 2567 ถึงกันยายน 2569