ผู้ค้าข้าวโอด ขาดทุนยับบาทผันผวนจี้รัฐรับมืออินเดียคัมแบ็กส่งออกข้าว

27 พ.ค. 2567 | 15:59 น.
อัปเดตล่าสุด :27 พ.ค. 2567 | 15:59 น.

“บาทผันผวน” ทิศทางแข็งค่าพ่นพิษ ส่งออกข้าวป่วนทำขาดทุน จับตาครึ่งหลัง“อินเดีย” เลิกแบนส่งออกข้าวขาว ฉุดราคาข้าวโลกร่วง สวนทางไทยผลผลิตมาก เตือนรัฐรับมือ ขณะล่าสุดส้มหล่น บราซิลนํ้าท่วมใหญ่ คู่ค้าเบนเข็มซื้อข้าวไทยเพิ่ม “เอเซีย โกลเด้นไรซ์” ยังแชมป์ส่งออก 3 เดือนแรก

สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย ปรับเป้าหมายการส่งออกข้าวไทยปี 2567 จาก 7.5 ล้านตัน (เมื่อ 31 ม.ค.67) เป็น 8.03 ล้านตัน มีปัจจัยบวกจากช่วงไตรมาสแรก ส่งออกได้ 2.60 ล้านตัน เพิ่มขึ้นประมาณ 30% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และจากที่อินโดนีเซียประกาศจะส่งออกข้าวปี 2567 ที่ 3.60 ล้านตันข้าวสารเท่ากับปี 2566 เป็นแรงส่งให้ช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2567 ไทยจะสามารถส่งออกข้าวได้ดีต่อเนื่อง

ผู้ค้าข้าวโอด ขาดทุนยับบาทผันผวนจี้รัฐรับมืออินเดียคัมแบ็กส่งออกข้าว

นายเจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า แม้ทิศทางส่งออกข้าวไทยยังขยายตัวดีต่อเนื่อง แต่เวลานี้หลายรายประสบปัญหาขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาเงินบาทได้แข็งค่าขึ้นประมาณ 1 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ผู้ค้าข้าวขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนอย่างไรก็ดีคำสั่งซื้อข้าวยังมีเข้ามาต่อเนื่อง และมีผลทำให้ราคาข้าวในประเทศปรับตัวสูงขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากบราซิล ซึ่งเป็นอีกผู้ผลิตข้าวรายใหญ่ประสบปัญหานํ้าท่วมใหญ่ในรอบ 80 ปี คาดจะใช้เวลาฟื้นฟูพอสมควร ในเวลานี้จึงมีคำสั่งซื้อข้าวไทยจากบราซิล รวมถึงเปรู เอกวาดอร์ เม็กซิโก มายังประเทศไทยเพิ่มขึ้น ดังนั้นในแง่คำสั่งซื้อยังไปได้ดี มีความกังวลเพียงค่าเงินบาทที่ผันผวน เพราะมีผลต่อกำไรหรือขาดทุน

 

 

“ปีนี้ฝนเริ่มมาแล้ว ดังนั้นควรที่จะหาทางเก็บกักนํ้าไว้ เช่น ขุดบ่อนํ้าขนาดเล็ก หรือทำอย่างไรที่ฝนตกลงมาเก็บไว้ใช้ไม่ระบายนํ้าลงทะเลทั้งหมด และพันธุ์ข้าวที่รับรองไป 10 พันธุ์จะต้องได้ผลผลิตต่อไร่สูง มีต้นทุนการผลิตตํ่า และสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้”

 

ผู้ค้าข้าวโอด ขาดทุนยับบาทผันผวนจี้รัฐรับมืออินเดียคัมแบ็กส่งออกข้าว

 

สำหรับสถานการณ์ส่งออกข้าวในครึ่งปีหลัง ประเด็นที่กังวลมากที่สุดคือ หลังจากอินเดียเลือกตั้งทั่วไปเสร็จแล้ว หากอินเดียเลิกแบน และกลับมาส่งออกข้าวขาวตามปกติ จะทำให้ข้าวทั้งโลกราคาลดลง จากในปีนี้อินเดียปีนี้มีสต๊อกข้าวมากกว่าปกติ 3 เท่า และปีนี้ไทยฝนมาเร็ว และมีแนวโน้มที่ดี ขณะที่คาดอินเดีย ปากีสถาน รวมถึงประเทศผู้ผลิตข้าวอื่น ๆ ก็คาดว่าผลผลิตจะมีมาก ดังนั้นรัฐบาลต้องเตรียมว่าจะมีมาตรการรองรับอย่างไรเพื่อให้ราคาข้าวในประเทศมีเสถียรภาพ และชาวนาไม่เดือดร้อน

 

นายเจริญ กล่าวถึง เรื่องปุ๋ยคนละครึ่ง ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์กำลังผลักดันว่า ควรใช้ปุ๋ยสั่งตัด จะดีกว่าเพราะมีหมอดินทั่วประเทศทุกตำบล ที่สามารถให้ความรู้แก่เกษตรกรในการใช้ปุ๋ยได้อย่างถูกต้องตามสภาพพื้นที่ เพื่อให้ได้ผลผลิตข้าวสูง และในเรื่องปุ๋ยที่ใช้ได้ผลชาวนาส่วนใหญ่ก็รู้ดีอยู่แล้ว หากรัฐบาลนำปุ๋ยมาให้ไม่ทราบว่าชาวนาจะใช้หรือไม่ ดังนั้นควรปล่อยให้เลือกเอง หรือให้เงินให้เปล่า แบบจ่ายไร่ละ 1,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 20 ไร่จะดีกว่า

ด้านแหล่งข่าววงการค้าข้าว เผยถึง ผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ในกลุ่ม 10 อันดับแรก ช่วง 3 เดือนแรกปี 2567 อันดับ 1 ยังเป็นกลุ่มเอเซีย โกลเด้น ไรซ์ ส่งออกได้ 367,244 ตัน มากกว่าปี 2566 ที่ส่งออกได้ 261,140 ตัน อันดับ 2 กลุ่มนครหลวงค้าข้าว ส่งออกได้ 367,244 ตัน จากช่วงเดียวกันปีที่แล้วส่งออกได้ 132,753 ตัน และขยับขึ้นมาจากลำดับที่ 4 อันดับ 3 บจก.โกลเด้น แกรนารี่ ส่งออก 161,508 ตัน มากกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วที่ส่งออก 115,712 ตัน โดยขยับขึ้นมาจากอันดับที่ 5  อันดับ 4 กลุ่มไร้ซ์แลนด์อินเตอร์เนชั่นแนล ส่งออกได้ 151,402 ตัน มากกว่า ปี 2566 ที่ส่งออกได้ 63,106 ตัน และอันดับ 5.บจก.ธนสรรไรซ์ ส่งออกได้136,803 ตัน ลดลงจากช่วงเดียวกันปีที่แล้วที่ส่งออกได้ 181,255 ตัน (ดูกราฟิกประกอบ)