“พิพัฒน์” บินด่วนอิสราเอล เจรจาเงินค่าจ้างค้างจ่าย เพิ่มโควต้าแรงงานไทย

26 พ.ค. 2567 | 12:15 น.
อัปเดตล่าสุด :26 พ.ค. 2567 | 12:21 น.

รมว.แรงงาน “พิพัฒน์ รัชกิจประการ” เดินทางไปอิสราเอล ติดตามสถานการณ์แรงงานไทย พร้อมเจรจาเร่งรัดเงินค่าจ้างค้างจ่าย ขอเพิ่มโควต้า พร้อมเร่งจ่ายเงินเยียวยา 50,000 บาท ภายในมิถุนายน 2567 นี้

นายภูมิพัฒน์ เหมือนจันทร์ โฆษกกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ในระหว่างวันที่ 26 - 29 พฤษภาคม 2567 นี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และคณะ จะเดินทางไปอิสราเอล ตามคำเชิญของเอกอัครราชทูตรัฐอิสราเอลประจำประเทศไทย เพื่อไปติดตามสถานการณ์การช่วยเหลือแรงงานไทยที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศอิสราเอล 

โดยจะขอให้อิสราเอลดูแลความปลอดภัยแรงงานไทยให้ทำงานในพื้นที่สีเขียวเท่านั้น และช่วยเร่งรัดการจ่ายค่าจ้างค้างจ่าย หรือเงินปิซูอิม ให้แก่แรงงานไทยที่ครบกำหนดสัญญาการทำงานและที่เดินทางกลับประเทศไทยจากภาวะสงคราม การเพิ่มโควต้าแรงงานไทยในภาคเกษตรและการจัดตั้ง Deposit Fund เพื่อสร้างหลักประกันให้กับแรงงานภาคเกษตรที่สิ้นสุดสัญญาจ้าง รวมทั้งขอโอกาสในการจัดส่งแรงงานก่อสร้างไปทำงานในอิสราเอลด้วย 

โดยทางคณะจะได้พบหารือกับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทของอิสราเอล ผู้แทนสำนักงานประชากรและตรวจคนเข้าเมืองอิสราเอล และบริษัทนายจ้างของอิสราเอลอีกด้วย

"เมื่อสัปดาห์ที่แล้วกระทรวงแรงงานได้ประกาศยกเลิกการชะลอการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานในรัฐอิสราเอลแล้ว เพราะทางการอิสราเอลให้ความเชื่อมั่นกับไทยและมีความต้องการแรงงานไทยมากถึงกว่า 20,000 อัตรา ส่วนแรงงานไทยก็มีความประสงค์จะไปทำงานในอิสราเอลเช่นกัน ซึ่งการเดินทางไปอิสราเอลครั้งนี้ จะเป็นการยืนยันและสร้างความมั่นใจให้กับแรงงานไทย หากมีความไม่ปลอดภัยหรือมีข้อติดขัดอะไรต้องรีบแก้ไข เพื่อคุ้มครองดูแลแรงงานไทยให้ดีที่สุด"

ส่วนความคืบหน้าการช่วยเหลือแรงงานไทย โดยการจ่ายเงินช่วยเหลือตามโครงการเยียวยา 50,000 บาท ให้แก่ผู้มีสิทธิและทายาทนั้น ล่าสุดกระทรวงแรงงาน ได้จ่ายเงินช่วยเหลือแล้วแล้ว 9,309 คน จากจำนวนผู้ที่ยื่นขอรับเงินทั้งหมด 9,384 คน หรือคิดเป็น 99.34% รวมเป็นเงิน 465,450,000 บาท 

รวมทั้งจ่ายเงินจากกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศแล้ว 9,892 คน จากผู้ยื่นขอรับเงิน 11,101 คน หรือคิดเป็น 97.93% รวมเป็นเงิน 144,270,000 บาท 

ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างดำเนินการด้านเอกสารและรออนุมัติ นอกจากนี้ ผู้ที่ได้รับผลกระทบจะได้รับเงินช่วยเหลือจากสถาบันประกันภัยแห่งชาติอิสราเอลอีกด้วย สำหรับตัวเลขล่าสุดมีแรงงานไทยเสียชีวิต 41 คน  และยังมีตัวประกันที่ถูกจับตัวอยู่อีก 6 คน โดยรายที่เสียชีวิตและมีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือจากกองทุนประกันสังคมจำนวน 35 ราย ทางสำนักงานประกันสังคมได้จ่ายเงินช่วยเหลือให้แก่ทายาทแล้ว 1,367,860.70 บาท 

ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้กำชับให้ทุกหน่วยเร่งดำเนินการจ่ายเงินหรือประสานผู้เกี่ยวข้อง เพื่อให้ทุกอย่างเรียบร้อยภายในเดือนมิถุนายน 2567 นี้