"สุชาติ" ถกทูตลักเซมเบิร์ก ชวนขยายการลงทุนในไทย ดันการเจรจา FTA ไทย-อียู

24 พ.ค. 2567 | 09:38 น.
อัปเดตล่าสุด :24 พ.ค. 2567 | 09:50 น.

"สุชาติ" รมช.พาณิชย์ ถกทูตรัฐลักเซมเบิร์กประจำประเทศไทย หาแนวทางส่งเสริมการค้าและการลงทุน ผลักดันการเจรจา FTA ไทย-อียู

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตนได้รับมอบหมายจากนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้พบหารือกับนายแพทริก เฮมเมอร์ (H.E. Mr. Patrick Hemmer) เอกอัครราชทูตราชรัฐลักเซมเบิร์กประจำประเทศไทย  

จากการหารือพบว่า ทั้งสองฝ่ายเห็นยังถึงโอกาสทางการค้าและการลงทุนระหว่างสองประเทศให้มากยิ่งขึ้น โดยตนได้เชิญชวนให้ลักเซมเบิร์ก ซึ่งเป็นประเทศที่มีจุดแข็งในการให้บริการทางด้านการเงินและการธนาคาร เทคโนโลยีขั้นสูง และเป็นแหล่งเงินทุนสำคัญของยุโรป 

ซึ่งปัจจุบันมีการลงทุนในไทยหลายอุตสาหกรรม เช่น โลจิสติกส์ (Cargolux) ดาวเทียม (SES) เหล็ก (AcelorMittal) ขยายการลงทุนในไทย โดยไทยมีความพร้อมทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐานและแรงงานที่มีฝีมือตลอดจนมาตรการส่งเสริมการลงทุนต่าง ๆ เพื่อรองรับการลงทุนที่เพิ่มขึ้นจากลักเซมเบิร์ก

ทั้งนี้ เอกอัครราชทูตลักเซมเบิร์กได้แจ้งเกี่ยวกับการเยือนไทยของนายซาวีเยร์ เบตแตล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ การค้าต่างประเทศ และความร่วมมือเพื่อการพัฒนาลักเซมเบิร์ก พร้อมกับคณะนักธุรกิจในช่วงปลายปีนี้ โดยในเบื้องต้นลักเซมเบิร์กสนใจร่วมมือกับไทยในสาขาเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น การพิมพ์ 3D อุปกรณ์เซนเซอร์รถยนต์ และนวัตกรรมการเปลี่ยนผ่านสู่สีเขียว

นอกจากนี้ ยังได้ขอให้ลักเซมเบิร์กในฐานะประเทศสมาชิกของสหภาพยุโรป (อียู) สนับสนุนการเจรจา FTA ไทย-อียู เพื่อให้สามารถสรุปผลการเจรจาได้โดยเร็ว โดยเห็นว่าจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ ขยายโอกาสทางการค้าและการลงทุนระหว่างไทยกับประเทศสมาชิกอียู 27 ประเทศ รวมถึงลักเซมเบิร์กด้วย รวมทั้งขอให้สนับสนุนการยกเว้นการตรวจลงตราเชงเกนสำหรับหนังสือเดินทางบุคคลธรรมดา ซึ่งเอกอัครราชทูตลักเซมเบิร์กได้แจ้งพร้อมให้การสนับสนุนในทั้งสองประเด็นดังกล่าว

\"สุชาติ\" ถกทูตลักเซมเบิร์ก ชวนขยายการลงทุนในไทย ดันการเจรจา FTA ไทย-อียู

ในปี 2566 ลักเซมเบิร์กเป็นคู่ค้าอันดับที่ 155 ของไทย การค้ารวมมีมูลค่า 21.61 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นสัดส่วน 0.0038% ของการค้าไทยในตลาดโลก ลดลงจากปีก่อนหน้า 18.16% ไทยส่งออกสินค้าไปลักเซมเบิร์กมีมูลค่า 8.03 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนของการส่งออกของไทยไปตลาดโลก 0.0028% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 15.64%

ขณะที่นำเข้าสินค้าจากลักเซมเบิร์กมีมูลค่า 13.58 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนของการนำเข้าของไทยจากตลาดโลก 0.0047% ลดลงจากปี 2565 30.22% โดยไทยเสียเปรียบดุลการค้า 5.55 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

 สินค้าส่งออกสำคัญ 

  • เครื่องจักรกลและส่วนประกอบของเครื่องจักรกล 
  • หลอดไฟฟ้า
  •  เครื่องยนต์สันดาปภายในแบบลูกสูบและส่วนประกอบ 
  • เครื่องสำอาง สบู่ และผลิตภัณฑ์รักษาผิว 
  •  สินค้าอุตสาหกรรมอื่น ๆ 
  • อัญมณีและเครื่องประดับ 
  • เครื่องใช้สำหรับเดินทาง 
  • เครื่องดื่ม 
  • ยานพาหนะอื่น ๆ และส่วนประกอบ 
  • ประทีปโคมไฟ 

สินค้านำเข้าสำคัญ  

  • เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ 
  • เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ 
  • เคมีภัณฑ์ 
  • ผลิตภัณฑ์ทำจากพลาสติก 
  • เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ 
  • กระจก แก้ว และผลิตภัณฑ์ 
  • ผ้าผืน 
  • เครื่องมือเครื่องใช้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ การแพทย์ 
  • กระดาษ และผลิตภัณฑ์กระดาษ 
  • ผลิตภัณฑ์โลหะ