ออนิกซ์ฯ ชู 3 เรือธง ‘อมารี-โอโซ่-ชามา’ บุกเอเชียแปซิฟิก

22 พ.ค. 2567 | 11:45 น.
อัปเดตล่าสุด :22 พ.ค. 2567 | 11:49 น.

ท่องเที่ยวฟื้นตัวแรง “ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป” รุกขยายโรงแรม “อมารี-โอโซ่-ชามา” ทั้งในและต่างประเทศ 9 แห่งรวดภายในปี 2568 มั่นใจสิ้นปีนี้กวาดรายได้ทะลุ 9,400 ล้านบาท พร้อมขยายโรงแรมและที่พักครบ 70 แห่งในปี 2571

นายยุทธชัย จรณะจิตต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป หนึ่งในบริษัทหลักภายใต้กลุ่มบริษัทอิตัลไทย ผู้บริหารโรงแรม รีสอร์ต เซอร์วิส อพาร์ตเมนต์และที่พักอาศัยหรูในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค ภายใต้แบรนด์ อมารี (Amari) โอโซ่ (OZO) ชามา (Shama) และโอเรียนเต็ล เรสซิเดนซ์ (Oriental Residence) เปิดเผยว่า ภาพรวมของออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป ในไตรมาสแรกที่ผ่านมาพบว่า มีการเติบโต 29% โดยได้อานิสงส์จากการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว

รวมถึงจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมากขึ้น ทำให้ขณะนี้จีนกลับมาเป็นประเทศที่ทำรายได้อันดับ 1 ของบริษัท นับเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่การแพร่ระบาดของโควิด ส่วนประเทศไทยยังคงเป็นประเทศอันดับ 2 เนื่องจากแบรนด์ของ ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป ยังคงได้รับความนิยมในหมู่คนไทยด้วยเช่นกัน ตามด้วย รัสเซีย ซึ่งเป็นตลาดสำคัญสำหรับรีสอร์ตในภูเก็ตและพัทยา และตลาดอื่นๆ เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี และอินเดีย

ออนิกซ์ฯ ชู 3 เรือธง ‘อมารี-โอโซ่-ชามา’ บุกเอเชียแปซิฟิก

โดยในปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะมีรายได้ 9,463 ล้านบาท เติบโตขึ้นกว่า 19% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และ 23% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนการระบาดของโควิด-19 โดยมีอมารีและโอโซ่ เป็นแบรนด์สำคัญในการขับเคลื่อนรายได้ ขณะที่ชามามีทิศทางการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่องจากดีมานด์ในตลาดที่เพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป มีโรงแรม รีสอร์ต และเซอร์วิส อพาร์ตเมนต์ ครอบคลุมทั้งในประเทศไทย มาเลเซีย จีน

รวมไปถึง ฮ่องกง บังกลาเทศ และสปป.ลาว และกำลังขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องอีกหลายแห่งทั้งในประเทศ และต่างประเทศ โดยนับจากปีนี้ จนถึงปี 2568 มีโครงการที่เตรียมเปิดให้บริการกว่า 9 แห่ง ได้แก่ ในประเทศมาเลเซีย 3 แห่ง จีนและฮ่องกง 2 แห่ง ไทย 2 แห่ง สปป.ลาว 1 แห่ง และ ศรีลังกา 1 แห่ง เป็นต้น

“ในมาเลเซีย จะมีการขยายโรงแรมใหม่ 3 แห่งได้แก่ โอโซ่ เมดินิ, ชามา เมดินิ และชามา ซัวซานา ยะโฮร์ บาห์รู ส่งผลให้มีโรงแรมในมาเลเซียรวมทั้งสิ้น 7 แห่ง ถือเป็นประเทศแรกนอกเหนือจากไทยที่มีแบรนด์ ออนิกซ์ ครบทั้งอมารี โอโซ่ และ ชามา ด้วยศักยภาพการท่องเที่ยวและชื่อเสียงด้านวัฒนธรรมและธรรมชาติ รวมถึงการจัดประชุมขนาดใหญ่ รองรับตลาด MICE ตอบโจทย์นักเดินทางทั่วโลกที่แสวงหาประสบการณ์ใหม่ๆ และเพื่อธุรกิจได้ดี”

ออนิกซ์ฯ ชู 3 เรือธง ‘อมารี-โอโซ่-ชามา’ บุกเอเชียแปซิฟิก

ขณะที่ภายใต้แบรนด์อมารี ซึ่งเป็นโรงแรมระดับ Upper Upscale มุ่งเน้นตลาดกลุ่ม City MICE, Urban MICE และรีสอร์ต มีแผนเปิดตัวโรงแรมใหม่ 3 แห่ง ได้แก่ อมารี โคลัมโบ ประเทศศรีลังกา เป็นอาคารสูง 27 ชั้น มีห้องพักและห้องสวีท 167 ห้อง จะเปิดให้บริการในไตรมาส 4/2567, อมารี เวียงจันทน์ สปป. ลาว โรงแรมแห่งที่ 2 ต่อจากอมารี วังเวียง มีห้องพัก 248 ห้อง จะเปิดให้บริการในไตรมาส 4/2567 เช่นกัน

และอมารี เดอะไทด์ บางแสน ประเทศไทย มีจำนวนห้องพัก 154 ห้อง จะเปิดให้บริการในปี 2568 นอกจากนี้บริษัทยังได้รีโนเวทโรงแรมอมารี กรุงเทพฯ และเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น “อมารี วอเตอร์เกท กรุงเทพฯ” พร้อมเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปลายปีนี้ด้วย

นายยุทธชัย กล่าวอีกว่า แต่ละแบรนด์ของออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป ต่างมีการเติบโตที่น่าพอใจ เช่น “ชามา” ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนที่พักมากกว่า 2,500 ยูนิตจากทั้งหมด 20 แห่ง โดยเฉพาะประเทศไทย ที่มีการเติบโต 200% ภายใน 5 ปี ขณะที่ “โอโซ่” เป็นอีกหนึ่งแบรนด์เรือธงของบริษัท ซึ่งล่าสุดเตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนมิถุนายนนี้ และมีแผนเปิดตัว OZO medini ที่ประเทศมาเลเชีย ในไตรมาส 2/2567 ซึ่งนับเป็น โรงแรมโอโซ่ แห่งที่ 5 ต่อจากโอโซ่ พัทยา, โอโซ่ ภูเก็ต, โอโซ่ สมุยและโอโซ่ จอชทาวน์ ปีนัง

ออนิกซ์ฯ ชู 3 เรือธง ‘อมารี-โอโซ่-ชามา’ บุกเอเชียแปซิฟิก

“การลงทุนโรงแรมใหม่ๆ และการพัฒนาตามแผนเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ของบริษัทที่มุ่งขับเคลื่อนการขยายธุรกิจที่สำคัญในธุรกิจโรงแรม รีสอร์ต และเซอร์วิส อพาร์ตเมนต์ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยความพยายามที่จะบรรลุวิสัยทัศน์โดยรวมในการก้าวเป็น “The Best Medium-sized Hospitality Management Company in Southeast Asia” บริษัทกำลังเดินตามแผนการดำเนินงานที่จะมีโรงแรมและที่พักภายใต้การบริหารมากกว่า 50 แห่งภายในปี 2568 และตั้งเป้าหมายให้ได้ 70 แห่งภายในปี 2571 ด้วย”

 

หน้า 16 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 44 ฉบับที่ 3,993 วันที่ 19 - 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2567