6 เดือนดึงลงทุน 1.5 แสนล. กนอ.ปรับเป้ายอดขาย ลุยนิคมฯ BCG
การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กำลังจะก้าวเข้าสู่ปีที่ 52 หลังจากที่ได้เริ่มก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2515 มีพันธกิจหลักในการจัดหาที่ดินและพัฒนาเพื่อจัดตั้งเป็นนิคมอุตสาหกรรม สนับสนุน และให้บริการอนุมัติ อนุญาต และกำกับดูแลการประกอบกิจการของผู้ประกอบการ เป็นต้น
“ฐานเศรษฐกิจ” สัมภาษณ์ “นายวีริศ อัมระปาล” ผู้ว่าการ กนอ.ถึงแนวทางในการดำเนินนโยบายและการดำเนินงานเพื่อให้สอดรับกับกระแสเศรษฐกิจ การค้า การลงทุนของโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วอย่างไรบ้าง
สร้างพื้นที่การลงทุนศักยภาพ
นายวีริศ ระบุว่า ลำดับแรก กนอ. ได้มีการปรับภาพลักษณ์องค์กรใหม่ด้วยการรีแบรนด์ ( Rebrand) ให้เป็นองค์กรที่มีความทันสมัย เข้าถึงง่าย โปร่งใส เป็นธรรม ดูแลสังคม และสิ่งแวดล้อม รวมถึงมีมาตรการและมาตรฐานชัดเจนที่จะช่วยดึงดูดนักลงทุนทั้งชาวไทยและต่างชาติให้มาเข้ามาประกอบกิจการในนิคมอุตสาหกรรมของ กนอ.และนิคมฯร่วมดำเนินการกับภาคเอกชนมากขึ้น
อีกทั้งยังมีการพัฒนาพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมให้เป็นพื้นที่การลงทุนที่มีศักยภาพ เพื่อส่งเสริมการลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดย กนอ. จะคำนึงถึงปัจจัยสำคัญ 3 ประการ ได้แก่ 1.ความสะดวกและรวดเร็วในการดำเนินการให้กับนักลงทุน ,2.ให้ความสำคัญกับคุณภาพของระบบสาธารณูปโภคและการบริการ และ 3.มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
เคลื่อนเป็นกลางทางคาร์บอน
นอกจากนี้ กนอ. จะมุ่งเน้นการพัฒนานิคมอุตสาหกรรม และการบริการ โดยนำเทคโนโลยี นวัตกรรม และดิจิทัล ให้เข้ามาช่วยบริหารจัดการ เพื่อยกระดับการทำงานและสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันให้แก่นักลงทุน โดยได้ดำเนินการในรูปแบบต่าง ๆ ประกอบด้วย
- INFRASTRUCTURE พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภคในนิคมอุตสาหกรรม ส่งเสริมการลดใช้พลังงานและการนำพลังงานทดแทนมาใช้ในพื้นที่ มุ่งเน้นจัดการกากของเสียให้มีประสิทธิภาพ พัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมอัจฉริยะ และโครงข่ายการคมนาคมให้เข้าถึงทุกพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการนำระบบ Digital Twin มาใช้ในการบริหารจัดการนิคมอุตสาหกรรมได้ทุกที่ทุกเวลา
- SERVICE STANDARD อำนวยความสะดวกให้กับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ แบบ one stop service รวดเร็ว ลดขั้นตอนที่ซํ้าซ้อน และเพิ่มความสะดวกสบายให้การทำธุรกิจเป็นเรื่องง่าย ส่งเสริมการทำนิคมอุตสาหกรรมอัจฉริยะ (Smart I.E.) รวมถึงผลักดันสิทธิประโยชน์ในการลดหย่อนภาษี เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันให้แก่นักลงทุน
RELATIONSHIP มุ่งพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ ภายใต้การยึดหลักธรรมาภิบาลสิ่งแวดล้อม และการบริหารจัดการที่มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ สร้างความสมดุลระหว่างสิ่งแวดล้อมกับสังคม ตลอดจนสร้างการยอมรับจากทุกภาคส่วน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับชุมชนโดยรอบนิคมอุตสาหกรรม รวมถึงลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและขับเคลื่อนนิคมอุตสาหกรรมสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality)
เล็งปรับเป้าขาย/เช่า 4,500 ไร่
ขณะเดียวกัน กนอ. อยู่ระหว่างพิจารณาปรับเป้าหมายยอดขาย/เช่าพื้นที่ในนิคมฯปีนี้ใหม่ โดยคาดจะปรับเป็นระดับ 4,500 ไร่ จากผลการดำเนินงานช่วง 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2567 (ต.ค. 2566-มี.ค. 2567) พบว่า มียอดขาย/เช่าพื้นที่นิคมฯ 3,946 ไร่ แบ่งเป็นพื้นที่ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) 3,472 ไร่ และนอกพื้นที่อีอีซี 474 ไร่ คิดเป็นมูลค่าการลงทุน 158,372 ล้านบาท ซึ่งเกินกว่าเป้าหมายของปีงบประมาณ 2567 ที่ตั้งเป้ายอดขาย/เช่าตลอดทั้งปีไว้ที่ 3,000 ไร่แล้ว
“การปรับเป้าไม่สูงมากเพราะต้องประเมินปัจจัยความเสี่ยงอย่างใกล้ชิด และให้เป้าหมายเป็นไปได้มากที่สุด จากสถานการณ์โลกปัจจุบันมีภาวะสงครามระหว่างประเทศ ที่กระทบต่อเนื่องไปถึงภาวะเศรษฐกิจโลก คาดว่าใช้เวลาพิจารณา 1 เดือนจากนี้”
นอกจากนี้ กนอ.ยังเตรียมจัดตั้งนิคมใหม่อีก 2 แห่ง ในอีอีซี และที่จังหวัดลำพูน รวม 1,295 ไร่ และมีนิคมฯขอขยายพื้นที่อีกจำนวนหนึ่ง รวมพื้นที่ใหม่ 1,444 ไร่ มูลค่าการลงทุนประมาณ 43,000 ล้านบาท ขณะเดียวกันยังอยู่ระหว่างศึกษานิคมใหม่เกี่ยวกับอุตสาหกรรมฮาลาล ในโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งเพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ หรือโครงการแลนด์บริดจ์ เพื่อเชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน คาดว่าจะได้ข้อสรุปในช่วง 3-4 เดือนข้างหน้า