นายวิจักษณ์ ประดิษฐวณิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปี 2566 บริษัทมีรายได้รวม 12,101 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,649 ล้านบาท คิดเป็น 28% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยปัจจัยหลักที่ทำให้รายได้เพิ่มขึ้นมาจากธุรกิจที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวที่มีรายได้เพิ่มขึ้น จากการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติและมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวของภาครัฐ ส่งผลให้ภาพรวมรายได้และกำไรสุทธิของเอ็ม บี เค ปรับตัวดีขึ้นโดยเฉพาะธุรกิจศูนย์การค้า โรงแรมและสนามกอล์ฟ
ทั้งนี้ ธุรกิจศูนย์การค้ามีรายได้รวม 3,300 ล้านบาท เพิ่มจากปี 2565 ประมาณ 1,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 49% จากปีก่อน เนื่องจากการกลับมาของนักท่องเที่ยว ส่งผลให้มีลูกค้าเพิ่มขึ้นและมีผู้เช่าพื้นที่เพิ่มขึ้นตามแผนที่วางไว้
ส่วนธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยว รายได้รวม 1,300 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ประมาณ 57% ปัจจัยหลักมาจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น จึงทำให้มีอัตราการเข้าพักและราคาห้องพักเพิ่มสูงขึ้น
ธุรกิจกอล์ฟ มีรายได้รวม 530 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ประมาณ 32% ปัจจัยหลักมาจากนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะสนามกอล์ฟ เรด เมาท์เทิน กอล์ฟ คลับ และสนามกอล์ฟ ล็อค ปาล์ม คลับ ในจังหวัดภูเก็ต
ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ รายได้ลดลงจากปีก่อน สาเหตุหลักมาจาก เอ็ม บี เค คงมาตรการระมัดระวังในการดำเนินธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ แต่ก็ยังมุ่งมั่นพัฒนาโครงการในที่ดินที่บริษัทเป็นเจ้าของและขายโครงการในที่ดินของเอ็ม บี เค อย่างต่อเนื่อง
ธุรกิจอาหาร รายได้เพิ่มขึ้นจากปริมาณการขายข้าวในประเทศที่เพิ่มขึ้น แต่ปริมาณการส่งออกลดลงมาจากการชะลอคำสั่งซื้อจากประเทศสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ตามธุรกิจศูนย์อาหารของบริษัททั้ง 2 แห่ง ได้แก่ ศูนย์การค้า เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ และสามย่านมิตรทาวน์ มีผลประกอบการที่ดีขึ้นจากจำนวนคนที่มาใช้บริการมากขึ้น
ธุรกิจการเงิน มีรายได้เพิ่มขึ้นจากการลงทุนในหุ้นทุนธนชาติ (TCAP) จนมีสัดส่วนการลงทุนเข้าเกณฑ์การเป็นบริษัทร่วมทำให้มีการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรเข้ามา ทำให้ธุรกิจการเงินมีรายได้เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ในช่วงปี 2566 ที่ผ่านมา พาราไดซ์ พาร์ค ศูนย์การค้าในเครือเอ็ม บี เค มีการปรับปรุงครั้งใหญ่ด้วยงบประมาณ 1,000 ล้านบาท บนพื้นที่ 84,000 ตารางเมตร พร้อมปรับโฉมใหม่เปลี่ยนทั้งไลฟ์สไตล์และประสบการณ์ใหม่ของพาราไดซ์ พาร์ค ให้กลายเป็นศูนย์กลางการให้บริการด้านสุขภาพแบบองค์รวม
ทั้งรักษา บำบัด ส่งเสริมและป้องกัน แบบครบวงจรในย่านศรีนครินทร์ ภายใต้คอนเซ็ปต์ กินดี อยู่ดี สุขภาพดี Living in Harmony ตลอดจนการเพิ่มเติมร้านค้าและบริการที่เกี่ยวกับสุขภาพและความงามครบวงจร อาทิ ร้านอาหารและร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ศูนย์รวมจำหน่ายอุปกรณ์การแพทย์ และคลินิกเฉพาะทาง เป็นต้น
กลุ่มบริษัท เอ็ม บี เค ร่วมมือกับคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดให้บริการศูนย์ดูแลสุขภาพครบวงจร ในเดือนธันวาคม 2566 เป็นคลินิกพรีเมี่ยมรามาธิบดีเฮลธ์สเปช แอท พาราไดซ์ พาร์ค บนพื้นที่ขนาด 1,818 ตารางเมตร โดยผู้เชี่ยวชาญหลากหลายสาขา อาทิ อายุรกรรม กุมารเวช กระดูกและข้อ สูติ-นรีเวช เวชศาสตร์ฟื้นฟู แพทย์แผนทางเลือก เป็นต้น
นอกจากนี้เดือนธันวาคม 2566 ที่ผ่านมาบริษัท เอ็ม บี เค เปิดดำเนินการโรงแรมทินิดี เทรนดี้ กรุงเทพ ข้าวสาร ตั้งอยู่บนถนนรามบุตรี ติดกับถนนข้าวสาร เป็นอาคารสูง 9 ชั้น มีห้องพักจำนวน 215 ห้อง พร้อมสระว่ายน้ำและที่จอดรถ ถึง 150 คัน
นายวิจักษณ์ กล่าวอีกว่า หลังปลดล็อกจากสถานการณ์โควิด-19 ธุรกิจของเอ็ม บี เค มีผลประกอบการฟื้นตัวดีขึ้นตามลำดับ พร้อมเดินหน้าตาแผนกลยุทธ ทั้งการบริหารข้อมูลลูกค้า การบริหารข้อมูลด้านการตลาด และใช้กลยุทธ์ด้านการตลาดอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะธุรกิจที่อยู่ในบริเวณพื้นที่ ริเวอร์เดล ดิสทริค ซึ่งเป็นทรัพย์สินขนาดใหญ่ของเอ็ม บี เค กรุ๊ป มีพื้นที่ประมาณ 1,500 ไร่ เป็นการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบมิกซ์ยูส ( Mixed-Use)
คือนำธุรกิจในเครือเอ็ม บี เค ทั้ง 6 กลุ่มธุรกิจเข้าไปจัดสรรในพื้นที่ ยกเว้นธุรกิจการเงิน พร้อมวางระบบความปลอดภัยที่ดีเยี่ยม ส่วนโครงการที่พักอาศัยระดับหรูอย่าง พาร์ค ริเวอร์เดล และเดอะ ริเวอร์เดล เรสซิเด้นท์ ตอนนี้อยู่ระหว่างการศึกษาเพื่อดำเนินการต่อยอด โครงการพาร์ค ริเวอร์เดล 2 ทั้งนี้เป้าหมายของการขับเคลื่อนธุรกิจที่อยู่ในบริเวณพื้นที่ ริเวอร์เดล ดิสทริค เราคาดหวังผลตอบแทนในระยะยาว และมีการซื้อที่ดินเพิ่มเติม รวมถึงพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน โดยการคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน