อีสท์ วอเตอร์-ประปาส่วนภูมิภาคขพัทยา แก้ปัญหา "ภัยแล้ง" ยั่งยืน

07 พ.ค. 2567 | 15:55 น.
อัปเดตล่าสุด :07 พ.ค. 2567 | 15:55 น.

อีสท์ วอเตอร์-ประปาส่วนภูมิภาคขพัทยา แก้ปัญหา "ภัยแล้ง" ยั่งยืน พร้อมเดินหน้าลงทุนวางท่อส่งน้ำสายหลักเพิ่มเติมอีก 2 แห่ง โครงการก่อสร้างท่อส่งน้ำดิบคลองหลวง และโครงการก่อสร้างท่อส่งน้ำดิบมาบตาพุต-สัตหีบ

อีสท์ วอเตอร์ ได้ดำเนินการร่วมมือกับการประปาส่วนภูมิภาค และเมืองพัทยา ส่งรถน้ำประปาเข้าช่วยเหลือประชาฃนในพื้นที่ชลบุรี ทั้งบนฝั่ง และบนเกาะ ยืนยันพร้อมสนับสนุนทุกหน่วยงาน เพื่อบรรเทาปัญหาภัยแล้ง แม้คืนท่อส่งน้ำสายหลักแล้ว ยังคงมุ่งมั่นในการบริหารจัดการน้ำภาพรวม และความสำคัญของผู้ใช้น้ำเป็นหลัก 

จากเหตุการณ์วันที่ 3 พฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมากรณีเกิดปัญหาภัยแล้งในพื้นที่ชลบุรี อีสท์ วอเตอร์ ได้หามาตรการเพื่อช่วยเหลือปัญหาภัยแล้ง ซี่งเป็นปัญหาที่สำคัญระดับประเทศ และสนับสนุนทุกหน่วยงานเพื่อบรรเทาปัญหาในระยะสั้น รวมถึงวางแผนการแก้ปัญหาในระยะยาว 

โดยอีสท์ วอเตอร์ ได้วางแผน และเข้าบรรเทาปัญหาระยะสั้น ตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคม 2567 ในพื้นที่ชลบุรี ประกอบด้วย 

  • พื้นที่เกาะล้าน ปัจจุบันได้รับสัมปทาน และผลิตน้ำได้ 300 ลบ.ม.ต่อวัน เดินเครื่องเต็มกำลังการผลิต โดยน้ำประปาดังกล่าวใช้น้ำทะเลมาผลิตให้เป็นน้ำจืด พร้อมสนับสนุนเมืองพัทยาในการขยายกำลังการผลิตให้เป็น 3,000 ลบ.ม.ต่อวัน ในส่วนความเดือดร้อนจากปัญหาภัยแล้ง อีสท์ วอเตอร์ ได้ร่วมกับเมืองพัทยา และหัวหน้าชุมชนในพื้นที่เกาะล้าน จัดหาน้ำประปาใส่เรือไปให้บนเกาะล้าน สนับสนุนรถน้ำประปาบนเกาะล้าน และนำน้ำไปแจกจ่ายให้ประชาชน

อีสท์ วอเตอร์-ประปาส่วนภูมิภาคขพัทยา แก้ปัญหา "ภัยแล้ง" ยั่งยืน

  • พื้นที่เทศบาลนครแหลมฉบัง พื้นที่เทศบาลเมืองศรีราชา พื้นที่เทศบาลเมืองพัทยา ปัจจุบันการประปาส่วนภูมิภาคสาขาแหลมฉบัง การประปาส่วนภูมิภาคสาขาศรีราชา และการประปาส่วนภูมิภาคสาขาพัทยาชั้นพิเศษเป็นผู้ให้บริการผลิตน้ำประปา โดยมีอีสท์ วอเตอร์ จัดหาน้ำดิบจากเอกชน ซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากการส่งคืนมอบท่อให้แก่กรมธนารักษ์บ้าง ในส่วนความเดือดร้อนจากปัญหาภัยแล้ง อีสท์ วอเตอร์ได้ร่วมมือกับการประปาส่วนภูมิภาคทั้ง 3 สาขา จัดหาน้ำประปาเพิ่มเติมเพื่อแจกจ่ายให้แก่ประชาชนที่เดือดร้อน 

เมื่อโครงการท่อส่งน้ำดิบหนองปลาไหล - หนองค้อ - แหลมฉบัง ในพื้นที่จังหวัดระยอง และจังหวัดชลบุรีแล้วเสร็จจะสามารถแก้ปัญหาน้ำแล้งในจังหวัดชลบุรีได้ทันที รวมถึงยังเพิ่มศักยภาพในการส่งน้ำไปให้พื้นที่ชลบุรีได้อย่างเพียงพอ เพื่อรองรับความต้องการน้ำที่เพิ่มขึ้น และจะสามารถแก้ปัญหาภัยแล้งของพื้นที่ชลบุรีได้อย่างยั่งยืนอีกด้วย ปัจจุบันเหลืองานวางท่ออีกประมาณ 10% คาดการณ์โครงการจะแล้วเสร็จในปี 2567   
 

นอกจากนี้ ยังมีการลงทุนวางท่อส่งน้ำสายหลักเพิ่มเติมอีก 2 โครงการ ได้แก่

  • โครงการก่อสร้างท่อส่งน้ำดิบคลองหลวง จังหวัดชลบุรี เพื่อเพิ่มศักยภาพในการผันน้ำจากอ่างเก็บน้ำคลองหลวง   รัชชโลทรมายังอ่างเก็บน้ำหนองค้อ แทนการผันน้ำผ่านคลองพานทอง ความคืบหน้าโครงการวางท่อแล้วเสร็จ 42 กิโลเมตร ในส่วนที่เหลืออีก 7 กิโลเมตร อยู่ระหว่างการขออนุญาตเข้าก่อสร้างในพื้นที่ของกรมธนารักษ์เท่านั้น ซึ่ง อีสท์ วอเตอร์พร้อมดำเนินการ
  • โครงการก่อสร้างท่อส่งน้ำดิบมาบตาพุต-สัตหีบ ที่ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จ และทำการจ่ายน้ำให้กับพื้นที่ประปาสัตหีบ และพื้นที่ประปาพัทยาบางส่วน เมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมาแล้ว โดยท่อส่งน้ำสายนี้สามารถเพิ่มศักยภาพในการส่งน้ำให้แก่ภาคอุปโภค บริโภค (กปภ.สัตหีบ กปภ.บ้านฉาง โรงพยาบาลสิริกิติ์ และท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา)