สงกรานต์ 2567 สาดให้ฉ่ำกับมหกรรม " World Songkran Festival" จัดเต็ม 21 วัน

06 ก.พ. 2567 | 15:44 น.
อัปเดตล่าสุด :06 ก.พ. 2567 | 15:54 น.
2.7 k

สงกรานต์ 2567 สาดให้ฉ่ำรัฐบาลสั่ง จัดเต็ม 21 วัน เตรียมจัดงานมหาสงกรานต์ “World Songkran Festival หมุดหมายนักท่องเที่ยวทั่วโลก” ดำเนินการผ่านเครือข่ายวัฒนธรรม 76 จังหวัดทั่วประเทศ และ 50 เขต

สงกรานต์ 2567 สงกรานต์ปีนี้ไม่ธรรมดาเสียแล้ว เมื่อ UNESCO มอบประกาศนียบัตรรับรอง  ประเพณีสงกรานต์ไทย ขึ้นมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษย์ชาติอย่างเป็นทางการ

สงกรานต์  2567 หลัง UNESCO รัฐบาลได้เดินหน้ายกระดับเทศกาลสงกรานต์ไทย เตรียมจัด “World Songkran Festival” ทั่วประเทศ

 

สงกรานต์ 2567 รัฐบาลกำหนดจัดงาน 21 วัน

World Songkran Festival รัฐบาลได้กำหนดจัดงานสงกรานต์จำนวน 21 วันเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองที่ UNESCO มอบประกาศนียบัตรรับรอง  ประเพณีสงกรานต์ไทย

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า องค์การเพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ได้มอบประกาศนียบัตร (Certificate) รับรองประกาศขึ้นทะเบียน “สงกรานต์ในประเทศไทย” ประเพณีสงกรานต์เป็นมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษย์ชาติอย่างเป็นทางการ ให้แก่ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรมเป็นที่เรียบร้อย 
นายชัย วัชรงค์
 

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลโดยกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมเดินหน้ายกระดับประเพณีสงกรานต์ของไทย โดยคงเนื้อหาในการเผยแพร่สาระคุณค่า สร้างการรับรู้ความเข้าใจ ที่ถูกต้อง และให้ตระหนักถึงความสำคัญตามขนบประเพณีของชุมชนท้องถิ่นต่าง ๆ โดยเตรียมจัดงานมหาสงกรานต์ “World Songkran Festival : ประเพณีสงกรานต์ไทย หมุดหมายนักท่องเที่ยวทั่วโลก” ดำเนินงานผ่านเครือข่ายวัฒนธรรม 76 จังหวัดทั่วประเทศ และ 50 เขตในกรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 1 - 21 เมษายน 2567 นี้ 

ทั้งนี้ ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนไทยร่วมเป็นเจ้าภาพที่ดี ให้การต้อนรับชาวต่างชาติที่จะเดินทางมาร่วมงานสงกรานต์ในช่วงเวลาอีก 2 เดือนต่อจากนี้ และช่วยกันร่วมสืบสาน รักษา ต่อยอดมรดกภูมิปัญญาประเพณีสงกรานต์ อันทรงคุณค่าของไทย ให้เกิดการสืบทอดอย่างยั่งยืน รวมถึงเป็นพลัง Soft Power ในการส่งเสริมการท่องเที่ยว

“นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้ความสำคัญกับการทำงานเพื่อส่งเสริมประเพณีสงกรานต์ของไทย จนได้รับใบประกาศนียบัตร (Certificate) รับรองจาก UNESCO อย่างเป็นทางการแล้ว ถือเป็นข่าวดี เป็นของขวัญที่สร้างความภาคภูมิใจให้เเก่คนไทย โดยรัฐบาลจะสนับสนุนการอนุรักษ์ สืบสาน ปกป้อง คุ้มครองมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าของประเทศ และช่วยสร้างการรับรู้ให้ชาวต่างชาติได้เข้าถึงประเพณี เทศกาลของไทยให้มากขึ้น ซึ่งมั่นใจว่าผลสำเร็จในครั้งนี้จะสามารถต่อยอดไปสู่ภาคเศรษฐกิจ เป็นเม็ดเงิน เป็นรายได้สู่ประชาชนต่อไป” นายชัย กล่าว.