ตรุษจีน ปีมะเส็งคึกคัก บิ๊กค้าปลีก สาดเงิน ชิงนักช้อปอาตี๋ อาหมวย

18 ม.ค. 2568 | 11:10 น.
อัปเดตล่าสุด :18 ม.ค. 2568 | 11:20 น.

บิ๊กค้าปลีกแห่สาดงบ อัดแคมเปญชิงนักช้อปอาตี๋ อาหมวย รับ “ตรุษจีน” มั่นใจอานิสงส์ Easy E-Receipt 2.0 แรงหนุนดันเม็ดเงินสะพัดพุ่ง 25-30%

เริ่มแล้ว สมรภูมิค้าปลีกเปิดศึกชิงกำลังซื้อไตรมาสแรกปี 2568 สนามแรกเทศกาล ‘ตรุษจีน’ รับปีมะเส็ง ปฏิเสธไม่ได้ว่าช่วงเทศกาลตรุษจีนก็เป็นอีกเทศกาลที่สร้างเม็ดเงินสะพัดให้ไม่น้อย และเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง เหล่าบรรดาบิ๊กเนมค้าปลีก ก็ไม่พลาดจัดอีเวนต์อย่างยิ่งใหญ่เช่นที่เคยทำในปีที่ผ่านๆ

สำหรับตรุษจีนปี 2568 นี้มีแนวโน้มที่การจับจ่ายที่จะคึกคักกว่าปกติด้วยอานิสงส์ Easy E-Receipt 2.0 ที่จะกระตุ้นให้ผู้บริโภคจับจ่ายสินค้าต่าง ๆ มากขึ้นอีก เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทั้งชาวจีนและชาติอื่น ๆ ที่จะเดินทางเข้ามา ที่ปีนี้ ททท. ตั้งเป้าหมายที่จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาสูงถึง 40 ล้านคน โดยหมุดหมายสำคัญหนึ่ง คือการช้อปปิ้งในเมืองไทย

ตรุษจีน ปีมะเส็งคึกคัก บิ๊กค้าปลีก สาดเงิน ชิงนักช้อปอาตี๋ อาหมวย

กลุ่มเซ็นทรัล ทุ่ม 500 ล้านจัดบิ๊กอีเวนต์

นายณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้ที่ตรงกับมาตรการ Easy e-Receipt ซึ่งจะช่วยกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภคกลุ่มกลาง-บน ได้เป็นอย่างดี คาดการณ์ภาพรวมเศรษฐกิจทั้งประเทศเม็ดเงินสะพัดช่วงตรุษจีนเติบโตกว่าปีที่แล้ว 3-4%

“การเติบโตของธุรกิจท่องเที่ยว จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวจีน เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปกติห้างเซ็นทรัลมีนักท่องเที่ยวเป็นสัดส่วน 45% เพิ่มขึ้นจากก่อนโควิดที่มีสัดส่วน 30% โดยเฉพาะในพื้นที่ท่องเที่ยวหลัก เช่น ภูเก็ต และเชียงใหม่จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง”

เซ็นทรัลพัฒนา ปักหมุดสร้างไฮไลต์มหามงคลทั่วประเทศ ฉลองตรุษจีนด้วยธีม “The Red Lantern Festival” เทศกาลโคมไฟสัญลักษณ์ความโชคดีและการเปิดรับชีวิตใหม่ที่เจริญรุ่งเรือง, การแสดงศิลปวัฒนธรรมจีนสุดอลังการหาชมยาก, หนึ่งเดียว แลนด์มาร์กการรวมการขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากที่สุดในไทย

ตรุษจีน ปีมะเส็งคึกคัก บิ๊กค้าปลีก สาดเงิน ชิงนักช้อปอาตี๋ อาหมวย

โดยแคมเปญตรุษจีนดังกล่าว เดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจและท่องเที่ยวไทยไตรมาสแรกของปี ปลุกกำลังซื้อทั่วประเทศ ขานรับโครงการลดหย่อนภาษี Easy E-Receipt 2.0 ของภาครัฐ คาดสร้างเงินสะพัดตลอดแคมเปญกว่า 15,000 ล้านบาททั่วประเทศ และเพิ่ม ทราฟฟิกในศูนย์ฯ ทั่วประเทศกว่า 25-30%

ด้านนางสาวรวิศรา จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการบริหารกลุ่มการตลาด กลุ่มห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า แคมเปญ “The Great Chinese New Year 2025” ในปีนี้ของห้างเซ็นทรัล มาในคอนเซ็ปต์ โอบความสุข รับความมั่งคั่ง รับตรุษจีน เราได้เตรียมความพิเศษมาให้เหมือนทุกปี

“โดยแคมเปญนี้ ห้างเซ็นทรัล มุ่งเน้นคัดสรรสินค้าในกลุ่มความงาม แฟชั่น ของแต่งบ้าน รวมไปถึงสินค้าแม่และเด็ก ซึ่งเป็นกลุ่มที่ลูกค้ามีการจับจ่ายใช้สอยอย่างคึกคักในเทศกาลตรุษจีน นอกจากนี้ ห้างเซ็นทรัลยังร่วมขานรับโครงการลดหย่อนภาษี Easy E-Receipt 2.0 ภาครัฐ ซึ่งเชื่อมั่นว่าเราจะสามารถเพิ่ม traffic ของลูกค้าได้อีก 20% และเพิ่มยอดขายได้ 10% จากแคมเปญปี 67”

ขณะที่นายจักรกฤษณ์ จตุปัญญาโชติกุล รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด ประชาสัมพันธ์ และกิจกรรมเพื่อสังคม บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า โดยในช่วงตรุษจีนจะสังเกตเห็นได้ว่าผู้บริโภคจับจ่ายชื้อสินค้ามากยิ่งขึ้นถึง 40% เฉพาะในกรุงเทพ 43% ที่เน้นความสะดวกและความหลากหลาย สามารถซื้อสินค้าแล้วจบในที่เดียว มีปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้บริโภคใช้จ่ายมากขึนคือ ราคาสินค้าสูงขึ้น มีเรื่องของความเชื่อสำหรับการซื้อสินค้า เช่น การซื้อสินค้าเพื่อไหว้เทพเจ้า ขอโชคลาภ และปัจจัยสำคัญคือมาตรการ Easy E-Receipt ของรัฐบาล

“ในช่วงตรุษจีนเราจะเป็นจุดหมายปลายด้าน Food Desination มากกว่า 1,500 รายการ มีความหลากหลาย มีคุณภาพ และมีความหมายที่ดี มีมงคล Storytelling ต้องมี เพราะความเชื่อเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งท็อปส์ตั้งเป้าไว้ว่าในช่วงเทศกาลตรุษจีนปี 2568 จะสามารถเพิ่มยอดขายให้เติบโตขึ้นกว่า 20%”

ตรุษจีน ปีมะเส็งคึกคัก บิ๊กค้าปลีก สาดเงิน ชิงนักช้อปอาตี๋ อาหมวย

เดอะมอลล์ทุ่ม 200 ล้าน ชิงกำลังซื้อตรุษจีน

นางสาววรลักษณ์ ตุลาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า เดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์จัดแคมเปญ “JOY LUCK LOVE CHINESE NEW YEAR 2025 : ปีมะเส็ง เฮงมาหา” โดยใช้งบประมาณกว่า 200 ล้านบาท จัดอีเว้นต์ พร้อมโปรโมชัน ตั้งแต่วันจ่าย วันไหว้ วันเที่ยว

รวมถึงเทศกาลวาเลนไทน์ เพื่อรองรับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ทั้งในส่วน มาตรการ Easy E-Receipt 2.0 และโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุ หรือเงิน 10,000 เฟส 2 สนับสนุนการบริโภคในประเทศ ซึ่งทั้ง 2 มาตรการ คาดว่าจะสามารถกระตุ้นการใช้จ่ายของลูกค้าได้ต่อเนื่องจากเทศกาลปีใหม่

โดยมีลูกค้าที่มีความต้องการใช้จ่ายเพื่อร่วมมาตรการ Easy E-Receipt 2.0 ในขณะที่การออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุ หรือเงิน 10,000 เฟส 2 ก็น่าจะมีส่วนสนับสนุนให้เกิดเงินสะพัดในช่วงเทศกาลตรุษจีนเชื่อมั่นว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ สามารถช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายให้ธุรกิจในช่วงเดือนแรกของปีเติบโต 10 % และเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ธุรกิจมีตัวเลขเติบโตที่ดีในไตรมาสแรกของปี

 

สยามพิวรรธน์ ทุ่ม 50 ล้าน ดึงทราฟฟิกพุ่ง

นางสรัลธร อัศเวศน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานบริหารธุรกิจศูนย์การค้า บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่า ไตรมาสแรกของปี 2568 นี้ เป็นการเริ่มต้นปีที่ดีสำหรับธุรกิจค้าปลีกและศูนย์การค้า ด้วยปัจจัยสนับสนุนธุรกิจ กระแสการท่องเที่ยวมีความคึกคักต่อเนื่องเทศกาลตรุษจีนเป็นเทศกาลสำคัญที่มีการจับจ่ายสูงในเดือนมกราคม

“สยามพิวรรธน์ต้อนรับนักช้อปชาวไทย ชาวไทยเชื้อสายจีน และนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ได้สร้างปรากฏการณ์ภายใต้แคมเปญ “A Prosperous Chinese New Year 2025” ประกอบด้วยมหกรรมอีเว้นท์ที่จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ โปรโมชั่นสุดคุ้มทั้งจากศูนย์ฯ และร้านค้าแบรนด์ดังที่พร้อมมอบความสุข

ปักหมุดเป็นเดสติเนชั่นสำหรับฉลองเทศกาลตรุษจีน หรือ The Best Destination for Chinese New Year Celebration ทุ่มงบประมาณส่งเสริมการตลาดมอบความสุขให้แก่ลูกค้าในช่วงเทศกาลตรุษจีนกว่า 50 ล้านบาท ตั้งเป้าสร้างทราฟฟิคนักช้อปชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเยือน สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ กว่า 2.5 – 3 แสนคนต่อวัน”

ตรุษจีน ปีมะเส็งคึกคัก บิ๊กค้าปลีก สาดเงิน ชิงนักช้อปอาตี๋ อาหมวย

ขณะที่ ไอคอนสยาม ทุ่มงบ 150 ล้านบาท จัดตรุษจีนปีมะเส็งยิ่งใหญ่ ฉลอง 50 ปีสายสัมพันธ์ไทย-จีน โดยนายสุพจน์ ชัยวัฒน์ศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด กล่าวว่า ปีนี้เป็นปีที่สำคัญมากสำหรับความสัมพันธ์ระหว่างไทยและจีน ฉลองครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูต จัดนิทรรศการแสดงผลงานประติมากรรมระดับครู ภายใต้ชื่อ “Lancang to ChaoPraya” จากแม่น้ำโขงสู่เจ้าพระยา

“ความร่วมมือครั้งแรกระหว่าง ศิลปินแห่งชาติของไทย ศาสตราจารย์เกียรติคุณปรีชา เถาทอง และศิลปินชาวจีนชื่อดัง มร.ซูหวงเฟย รังสรรค์เป็นผลงานที่แสดงถึงความเชื่อมโยงของทั้งสองประเทศให้ใกล้ชิดกันมากขึ้น เป็นการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างจีนและไทยอย่างสมบูรณ์ และฉลองเทศกาลตรุษจีน ซึ่งคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานประมาณ 2 ล้านคน ตลอด 10 วันของการจัดงาน ตั้งเป้าสร้างเงินสะพัดจากการจับจ่ายหมุนเวียนภายในศูนย์การค้าสูงขึ้นเพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบกับปีก่อน”

 

หน้า 15 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 4,063 วันที่ 19 - 22 มกราคม พ.ศ. 2568