EXIM BANK ชี้ 5 เทรนด์เทคโนโลยีดิจิทัล มาแรงปี 67

16 ม.ค. 2567 | 18:53 น.
อัปเดตล่าสุด :16 ม.ค. 2567 | 18:53 น.

EXIM BANK ชี้ 5 เทรนด์เทคโนโลยีดิจิทัล มาแรงปี 67 ขับเคลื่อนเศรษฐกิจยุคใหม่ แนะภาคธุรกิจปรับตัว ตั้งแต่การผลิต ถึงบริการหลังการขาย

นายรักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย หรือ EXIM BANK เปิดเผยว่า เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นตัวแปรสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจยุคใหม่ โดย World Bank และ Digital Cooperation Organization ประเมินว่า ปัจจุบัน Digital Economy มีสัดส่วนราว 15% ของ GDP โลก และคาดว่าจะแตะ 30% ในปี 2573 

โดยเทคโนโลยีดิจิทัลถูกนำไปต่อยอดหรือประยุกต์ใช้ในหลายวงการ โดยเฉพาะภาคธุรกิจ นับตั้งแต่การผลิตไปจนถึงส่งมอบสินค้าถึงมือลูกค้า รวมถึงบริการหลังการขายอีกด้วย ภายใต้ความสำคัญดังกล่าว 5 เทรนด์เทคโนโลยีดิจิทัลที่คาดว่าจะมาแรงในปี 2567 ประกอบด้วย

1. Social Commerce ช่องทางการค้าใหม่มาแรง

ปัจจุบันการค้าออนไลน์ก้าวขึ้นมาเป็นช่องทางการค้าสำคัญที่เติบโตอย่างรวดเร็ว โดย Oberlo ผู้ให้บริการ E-Commerce ชั้นนำของโลกประเมินว่า ในปี 2568 จำนวนนักชอปปิงออนไลน์ทั่วโลกจะเพิ่มเป็น 2.8 พันล้านคนหรือราว 1 ใน 3 ของประชากรโลก การค้าออนไลน์ผ่าน Social Media Platform เช่น Facebook, Instagram, WeChat และ TikTok เติบโตก้าวกระโดด 

เนื่องจากจุดแข็งที่ไม่เพียงมีผู้ใช้งานจำนวนมาก ทำให้การต่อยอดสู่การขายสินค้าทำได้ง่ายและเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ จากทั่วทุกมุมโลก ยังมี Function ให้ผู้ขายสามารถใช้ทำการตลาดได้หลากหลาย คาดว่ารายได้ของ Social Commerce โลกจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 6.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2573 จาก 0.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2565 หรือขยายตัวเฉลี่ยปีละ 30.8%

2. Generative AI ตัวช่วยสำหรับธุรกิจยุคใหม่

ปัญญาประดิษฐ์หรือ AI เน้นการสร้างสรรค์สิ่งใหม่จากข้อมูลที่มีอยู่ แตกต่างจาก AI แบบเดิมที่เน้นการวิเคราะห์และคาดการณ์เป็นหลัก โดยภาคธุรกิจนิยมนำ Gen AI มาใช้ในหลายด้าน ทั้งการสร้าง Content ใหม่ ๆ การสร้างแคมเปญการตลาดให้โดนใจลูกค้า ตลอดจนการให้คำปรึกษา/แนะนำลูกค้า Bloomberg 

ทั้งนี้ คาดว่า รายได้จากการใช้งาน Gen AI ทั่วโลกจะขยายตัวก้าวกระโดดแตะระดับ 1.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2575 หรือโตเฉลี่ยถึงปีละ 226% Gen AI ที่นิยม เช่น ChatGPT ช่วยสร้างงาน/คอนเทนต์ใหม่ ๆ รวมถึงช่วยคิดสโลแกนสินค้า หรือแคปชันโฆษณาได้ Midjourney ช่วยออกแบบโลโก้ของแบรนด์ง่าย ๆ เพียงใส่คีย์เวิร์ดที่ต้องการ

3. Augmented Reality (AR) เทคโนโลยีจำลองภาพเสมือนจริง AR ช่วยให้ผู้ใช้มองเห็นวัตถุในรูปแบบ 3 มิติในพื้นที่จริง ซึ่งได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นและถูกนำไปใช้ในภาคธุรกิจอย่างกว้างขวาง โดย ARtillery Intelligence บริษัทที่ปรึกษาด้าน AR ของสหรัฐฯ คาดว่า รายได้ของ AR โลกในปี 2567 จะแตะระดับ 21 พันล้านดอลลาร์สหรัฐหรือโตถึง 5.4 เท่า จาก 5 ปีก่อน 

4. Big Data การใช้ข้อมูลขนาดใหญ่ขับเคลื่อนธุรกิจ

ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) เป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจยุคใหม่ ภาคธุรกิจนำ Big Data มาวิเคราะห์เพื่อยกระดับองค์กรในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการจัดการความเสี่ยง การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า และการพัฒนากลยุทธ์การตลาด 

โดย International Data Corporation บริษัทที่ปรึกษาของสหรัฐฯ ประเมินว่า ในช่วงปี 2553-2568 ปริมาณข้อมูลในภาคธุรกิจเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเฉลี่ยปีละ 25% ตัวอย่างบริษัทที่นำ Big Data มาช่วยเพิ่มรายได้แก่บริษัท 

5. Voice Assistant สุดยอดผู้ช่วยด้านเสียง

อีกหนึ่งเครื่องมือสำคัญยุคใหม่ เป็นการพัฒนา AI ให้สามารถสั่งการด้วยเสียง เพื่อนำมาใช้ในด้านต่าง ๆ ทั้งการค้นหาข้อมูล (Voice Search) รวมถึงเป็นตัวช่วยสั่งซื้อสินค้า เช่น 7-Eleven ในสหรัฐฯ ใช้งานระบบ Voice Assistant “7 Voice” สำหรับให้ลูกค้าสั่งซื้อสินค้าและจัดส่งถึงบ้านด้วยเสียง