ธนากรผลิตภัณฑ์ฯ ชูนวัตกรรมน้ำมันดอกทานตะวัน รับเทรนด์สุขภาพ

นายเพชร หวั่งหลี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนากรผลิตภัณฑ์น้ำมันพืช จำกัด หนึ่งในธุรกิจหลักของ “กลุ่มพูลผล” ผู้ผลิตและจำหน่าย “น้ำมันพืชกุ๊ก” เปิดเผยว่า เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคด้านสุขภาพ บริษัทได้นำเทคโนโลยีการผลิตต่างๆ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Eco-friendly production) มาใช้ในการผลิต

โดยบริษัทถือเป็นผู้ผลิตน้ำมันพืชรายแรกในเอเชียที่นำระบบ ICS (Ice Condensing Vacuum System) มาใช้ในกระบวนการกลั่น เพื่อให้ได้น้ำมันพืชคุณภาพที่ดีที่สุด ลดการใช้พลังงานความร้อน และระยะเวลาในการกลั่น ทำให้สามารถรักษาคุณภาพน้ำมันได้เป็นอย่างดี ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นชัดเจนคือ การได้รับรางวัล Green Industry ระดับ 5 จากกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งถือเป็นบริษัทเป็นผู้ผลิตน้ำมันพืชรายแรก และรายเดียวที่ได้รับรางวัลนี้

ทั้งนี้กลุ่มพูลผลเป็นผู้รับซื้อสินค้าเกษตรรายใหญ่ที่สุดของประเทศ ทั้งถั่วเหลืองและทานตะวัน ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตน้ำมันพืช โดยเฉพาะทานตะวันที่มีการรับซื้อจากเกษตรกรเฉลี่ย 7,000 ตันต่อปี จากผลผลิตรวมทานตะวัน 8,200 ตันต่อปี คิดเป็นสัดส่วนการรับซื้อถึง 85-90%  โดยบริษัทให้ความสำคัญกับการคัดเลือกวัตถุดิบอย่างพิถีพิถัน

ก่อนนำมาผ่านการกลั่นด้วยกรรมวิธีที่ทันสมัย และมีการแยกไขด้วยกระบวนการ Winterization ทำให้ได้น้ำมันดอกทานตะวัน 100% คุณภาพสูง คงความใส ไม่ตกตะกอนแม้เก็บในที่เย็น อุดมไปด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัวที่สำคัญและจำเป็นต่อร่างกาย มีกรดไขมันอิ่มตัวต่ำกว่า 11% เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมคอเลสเตอรอล นอกจากนี้ยังมีปริมาณวิตามินอีสูงถึง 20% มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ช่วยในการต้านอนุมูลอิสระ ชะลอความแก่ และบำรุงสายตา เป็นต้น

ปัจจุบันบริษัท ธนากรผลิตภัณฑ์น้ำมันพืช จำกัด เป็นโรงงานสกัดน้ำมันพืช และกากพืชน้ำมันที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศ โดยเป็นผู้ผลิตน้ำมันพืชที่มีคุณภาพภายใต้แบรนด์ “กุ๊ก” ได้แก่ น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันทานตะวัน และน้ำมันคาโนลา นอกจากนี้ ได้ผลิตกากพืชน้ำมันเพื่อเป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์ ตลอดจนผลิตภัณฑ์ ที่ทําจากถั่วเหลือง เช่น เลซิทิน distillate และกรคน้ำมันถั่วเหลือง

ขณะเดียวกันบริษัทเดินหน้าเป้าหมายสำคัญ คือ การมุ่งสู่องค์กรที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net-Zero Carbon Emissions) ด้วยการกำหนดยุทธศาสตร์ในการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง (GREEN BUSINESS ROAD MAP) โดยวิธีการประเมินเชิงปริมาณของการใช้ทรัพยากร ปริมาณมลพิษที่เกิดขึ้น และผลกระทบสิ่งแวดล้อมต่อโลก และระบบนิเวศ ตามหลักการLife Cycle Assessment (LCA)

โดยก่อนหน้านี้บริษัทได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MoU) กับบีไอจีในการพัฒนานวัตกรรมจาก Climate Technology ในการตรวจสอบและลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ในการกระบวนการผลิตน้ำมันพืชและกากพืชน้ำมัน เพื่อนำไปสู่การกำหนดแนวทางการบริหารจัดการพลังงานอย่างยั่งยืน               

ซึ่งบริษัท ธนากรผลิตภัณฑ์น้ำมันพืชฯ ได้นำนวัตกรรมรวมถึง Platform ที่เกี่ยวกับการสังเกตและวางแผนการผลิตเพื่อช่วยลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในรูปแบบ Carbon Accounting Platform ที่บีไอจีพัฒนาขึ้น มาใช้ในกระบวนการผลิตน้ำมันพืชและกากพืชน้ำมันที่เป็น Green Industry จะช่วยบริหารจัดการ

ด้านพลังงานอย่างยั่งยืนและช่วยลดการปลดปล่อยคาร์บอนจากกระบวนการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยเร่งผลักดัน ตอบรับกับกลยุทธ์ของน้ำมันพืชกุ๊กที่จะมุ่งสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนในปี 2050 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2065 ด้วย

หน้า 16 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 43 ฉบับที่ 3,951 วันที่ 24 - 27 ธันวาคม พ.ศ. 2566