“ภูมิธรรม” รื้อกฎหมายการค้า 4 ฉบับ ชงรัฐสภา ต้นมกราคม 2567
“ภูมิธรรม” ประกาศ พาณิชย์พร้อมรื้อกฎหมายการค้ารวม 4 ฉบับ เตรียมเสนอเข้ารัฐสภาในช่วงมกราคม 2567 นี้ หวังปลดล็อกปัญหาอุปสรรคด้านการค้าของไทยให้เกิดความสะดวกมากขึ้น
วันนี้ (20 ธันวาคม 2566) ที่โรงแรมอีสติน แกรนด์ พญาไท นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ปาฐกถาพิเศษในงานสัมมนา Go Thailand : Green Economy - Landbridge โอกาสทอง หัวข้อ “Exploring the Dynamics : การค้าโลกใหม่” จัดโดยฐานเศรษฐกิจ ว่า กระทรวงพาณิชย์ เตรียมเสนอแก้กฎหมายสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการค้า เข้าสู่ที่ประชุมรัฐสภา 4 ฉบับ เพื่อพิจารณาในช่วงต้นเดือนมกราคม 2567 นี้
“วันนี้รัฐบาลได้พบกับผู้ส่งออก และนำเข้า ปัญหาใหญ่ที่มีคือเอกชนยังติดขัดกฎระเบียบต่าง ๆ มากมาย ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ จะเข้าไปรื้อกฎระเบียบกฎหมายทั้งหมดที่เป็นอุปสรรคต่อภาคธุรกิจ เพราะบางกฎหมายตอนทำขึ้นมามันดีในช่วงที่คิด แต่พอใช้ต่อไปแล้วเป็นอุปสรรคก็ต้องปรับปรุง โดยวันนี้รัฐบาลทำงานครบรอบ 3 เดือนแล้ว และในช่วงต้นเดือนมกราคม 2567 จะยื่นแก้กฎหมาย 4 ฉบับเข้าไปในรัฐสภาได้ และกฎหมายไหนที่เป็นปัญหาจริง ๆ ก็อาจยกเลิก”
ทั้งนี้ที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์ อยู่ระหว่างการเร่งปรับปรุงกฎหมายที่อยู่ในความดูแลทุกฉบับ เพื่อให้ทันสมัย และสอดคล้องกับสถานการณ์การค้าโลก โดยมีการตั้งคณะทำงานศึกษาพบว่า ในช่วงควิกวิน 100 วันแรกของรัฐบาลจะปรับปรุงกฎหมาย พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) รวม 4 ฉบับ จาก 28 ฉบับ ประกอบด้วย
- พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
- พระราชบัญญัติสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือ จีไอ
- พระราชบัญญัติสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย
- พระราชบัญญัติการส่งออกไปนอกและการนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสินค้า พ.ศ.2522
นายภูมิธรรม กล่าวว่า ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ ยังได้มีการตั้งทีมพาณิชย์ โดยแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ จำนวน 9 ชุด ได้แก่ ส่งเสริมและยกระดับ SME ไทย, ส่งเสริมและขับเคลื่อนการค้าและเศรษฐกิจเชิงรุกไทย-จีน-อาเซียน,ขับเคลื่อนการทำงานเพื่อบูรณาการตามยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์
ขับเคลื่อนนโยบายโลจิสติกส์การค้า, พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ Big Data และอินฟลูเอนเซอร์เพื่อการค้า, พัฒนากฎหมายกระทรวงพาณิชย์, พัฒนาการค้าตามระเบียบการค้าโลกใหม่, ส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพเกษตรกรเพื่อการพาณิชย์ แลพสร้างการรับรู้และภาพลักษณ์กระทรวงพาณิชย์
พร้อมกันนี้ทีมพาณิชย์ยังทำงานร่วมกับ “ทีมไทยแลนด์” ของรัฐบาล โดยใช้นโยบายการทูตเศรษฐกิจเชิงรุกกำลังกับภาคเอกชนให้เป็น “ทีมไทยแลนด์พลัส” เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการค้าและการลงทุนให้กับภาคเอกชนทุกระดับอย่างเต็มที่ ซึ่งปัจจุบันตัวแทนของทีมไทยแลนด์ได้ประสานด้วยกันเป็นทิศทางที่รัฐเดินหน้าให้ประสบผลสำเร็จต่อไป