เตือนคนไทย งดซื้อผลไม้สดเป็นของฝากปีใหม่จาก ต่างประเทศ "ผิดกฎหมาย"

16 ธ.ค. 2566 | 12:20 น.
อัปเดตล่าสุด :16 ธ.ค. 2566 | 12:26 น.
610

เทศกาลปีใหม่ 2567 อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เตือน นักเดินทางเลี่ยงซื้อผลไม้สดกลับเป็นของฝาก ย้ำผิดกฎหมาย นำเข้าประเทศต้องสกัดโรคพืช-แมลง

นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ขณะนี้เป็นช่วงใกล้เทศกาลปีใหม่ และช่วงวันหยุดยาว  พบว่า ประชาชนที่เดินทางกลับจากต่างประเทศโดยเฉพาะเกาหลี ญี่ปุ่น นิยมซื้อสินค้าผลไม้สด (พลับ องุ่น) เข้าประเทศ เป็นจำนวนมาก กรมวิชาการเกษตร จึงขอประชาสัมพันธ์ไปยังนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ให้ทราบว่า การนำเข้าผลไม้สดเข้ามาในราชอาณาจักรไทย

เตือนคนไทย งดซื้อผลไม้สดเป็นของฝากปีใหม่จาก ต่างประเทศ \"ผิดกฎหมาย\"

โดยไม่สำแดงใบรับรองสุขอนามัยพืชผ่านเข้าประเทศไทยในทุกช่องทางเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย ตามพระราชบัญญัติกักพืช พ.ศ.2507 และ แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 8 (2) มาตรา 10 มีโทษทั้งจำทั้งปรับ ดังนั้นขอแจ้งเตือนให้ประชาชนระวังในการกระทำดังกล่าวที่อาจเกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และไม่มีเจตนากระทำผิด ซึ่งหากตรวจพบเจ้าหน้าที่จะดำเนินการตามกฎหมายซึ่งมีโทษทั้งจำ และปรับรวมถึงยึดสินค้าเพื่อนำไปทำลายตามกฎหมายกักพืช ทั้งนี้จะประสานกับทางการท่าอากาศยานให้ประชาสัมพันธ์เรื่องนี้ให้เข้มข้นมากขึ้นเพื่อให้ประชาชนรับทราบทั่วกัน

 

เตือนคนไทย งดซื้อผลไม้สดเป็นของฝากปีใหม่จาก ต่างประเทศ \"ผิดกฎหมาย\"

"จากการตรวจสอบพบว่า ประชาชนที่เดินทางกลับจากต่างประเทศโดยเฉพาะเกาหลี ญี่ปุ่น นิยมซื้อสินค้าผลไม้สด (พลับ องุ่น) เข้าประเทศ เป็นจำนวนมาก โดยไม่มีใบรับรองสุขขอนามัยพืชจากประเทศต้นทาง และไม่มีใบอนุญาตนำเข้า ซึ่งปัจจุบันด่านตรวจพืชท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้ตรวจยึดจากนักท่องเที่ยวที่อาคารผู้โดยสารได้ต่อเนื่อง ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ตักเตือนและปล่อยตัว แต่ต้องยึดสิ่งของไว้"

 

 

เตือนคนไทย งดซื้อผลไม้สดเป็นของฝากปีใหม่จาก ต่างประเทศ \"ผิดกฎหมาย\"

 

"จากการสอบถามพบว่าซื้อตามคำแนะนำของไกด์นำเที่ยว จึงฝากประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนระมัดระวังไม่กระทำการดังกล่าวเพื่อจะได้ไม่ต้องเสียเงินกับสินค้ากลุ่มนี้ เนื่องจากการนำเข้าจะต้องมีการแจ้งนำเข้าเพื่อออกหนังสืออนุญาตตามกฎหมาย ตามพรบ.กักพืช เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคพืชและแมลงในประเทศ ทั้งนี้กรณีฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตาม จะมีความผิดต้องระวางโทษตามมาตรา 21 จําคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกิน สองหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ " อธิบดีกรมวิชาการเกษตรกล่าว