การค้าอาเซียนบูม ใช้สิทธิ FTA สูงสุด 3 ไตรมาส ปี 66 

14 ธ.ค. 2566 | 14:49 น.
อัปเดตล่าสุด :14 ธ.ค. 2566 | 15:24 น.

การค้าอาเซียนบูม กรมการค้าต่างประเทศ รายงาน ใช้สิทธิประโยชน์จากความตกลง FTA มากที่สุดช่วง 3 ไตรมาสแรกของปี 2566 รวม 62,190.47 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามด้วยอาเซียน-จีน , ไทย-ญี่ปุ่น , ไทย-ออสเตรเลีย และอาเซียน-อินเดีย

นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยตัวเลขการใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าสำหรับการส่งออกภายใต้ความตกลงการค้าเสรี (FTA) ในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปี 2566 (มกราคม - กันยายน) มีมูลค่ารวม 62,190.47 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนการใช้สิทธิประโยชน์ 82.89%

โดย FTA ที่ไทยใช้สิทธิฯ ส่งออกสูงสุด ได้แก่ ความตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน (AFTA) มูลค่า 22,471.27 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (36.13% ของมูลค่าการใช้สิทธิ์ทั้งหมด) มีสัดส่วนการใช้สิทธิประโยชน์ส่งออกสูงสุด ได้แก่ 

  • อินโดนีเซีย มูลค่า 5,477.94 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 
  • มาเลเซีย มูลค่า 5,314.03 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
  • เวียดนาม มูลค่า 5,180.35 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
  • ฟิลิปปินส์ มูลค่า 4,055.18 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 

 

สินค้าสำคัญที่มีมูลค่าการใช้สิทธิฯ สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่

  • ยานยนต์สำหรับขนส่งของ 
  • น้ำตาลที่ได้จากอ้อย 
  • น้ำมันปิโตรเลียม และน้ำมันจากแร่บิทูมินัส
  • รถยนต์สำหรับขนส่งบุคคลขนาดเล็ก
  • เครื่องปรับอากาศแบบติดหน้าต่างหรือติดผนัง 

นายรณรงค์ฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากความตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียนแล้วไทยยังมี FTA อื่นที่มีการใช้สิทธิประโยชน์สูงรองลงมา ได้แก่

อันดับ 2 ความตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน-จีน (ACFTA) คิดเป็นมูลค่า 18,762.53 ล้านดอลลาร์สหรัฐและมีสัดส่วนการใช้สิทธิประโยชน์เป็น 94.34% ของมูลค่าการส่งออกของสินค้าที่ได้รับสิทธิ์ โดยสินค้าทุเรียนสดยังคงเป็นสินค้าที่มีมูลค่าการใช้สิทธิประโยชน์สูงที่สุด 

อันดับ 3 เป็นความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น (JTEPA) คิดเป็นมูลค่า มูลค่า 5,193.97 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มีสัดส่วนการใช้สิทธิประโยชน์ 76.93% ของมูลค่าการส่งออกของสินค้าที่ได้รับสิทธิ์ โดยสินค้าสำคัญที่มีมูลค่าการใช้สิทธิประโยชน์สูงที่สุดภายใต้ความตกลงฯ ยังคงเป็นอาหารแปรรูป อาทิ เนื้อไก่และเครื่องในไก่ปรุงแต่ง 

อันดับ 4 ความตกลงการค้าเสรีไทย-ออสเตรเลีย (TAFTA) คิดเป็นมูลค่า 4,642.09 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มีสัดส่วนการใช้สิทธิประโยชน์ 63.04% ของมูลค่าการส่งออกของสินค้าที่ได้รับสิทธิ์ โดยสินค้าสำคัญที่มีมูลค่าการใช้สิทธิประโยชน์สูงอย่างต่อเนื่องคือ รถยนต์และยานยนต์ที่มีเครื่องดีเซลหรือกึ่งดีเซล 

อันดับ 5 คือ ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-อินเดีย (AIFTA) คิดเป็นมูลค่า 4,117.24 ล้านดอลลาร์สหรัฐและมีสัดส่วนการใช้สิทธิประโยชน์ 69.20% ของมูลค่าการส่งออกของสินค้าที่ได้รับสิทธิ์ โดยมีลวดทองแดงเป็นสินค้าสำคัญที่มีมูลค่าการใช้สิทธิประโยชน์สูงที่สุดภายใต้ความตกลงดังกล่าว

กรมการค้าต่างประเทศมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทยได้ติดอาวุธสำหรับการแข่งขันด้วยการสร้างแต้มต่อทางการค้า ผ่านการใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้ FTA โดยกรมการค้าต่างประเทศมีโครงการจัดการสัมมนาเพื่อสร้างความรู้และความเข้าใจให้แก่ผู้ประกอบการไทยเกี่ยวกับการใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้ามาโดยตลอด

ในปีงบประมาณ 2567 มีแผนจัดการสัมมนาภายใต้โครงการส่งเสริม SME ให้แข่งขันได้ในตลาดสากล เรื่องยกระดับการค้าสู่สากลด้วยสิทธิประโยชน์ทางการค้าภายใต้ FTA รวมทั้งสิ้น 4 ครั้ง ตามจังหวัดสำคัญต่าง ๆ ซึ่งการสัมมนาครั้งแรกได้จัดขึ้นไปแล้วเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 ณ โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ สีลม กรุงเทพฯ มีผู้สนใจเข้าร่วมงานมากกว่า 400 คน