พาณิชย์ กางแผนดัน SME โต 2.3 ล้านล้าน สั่งจัด OTOP ขายต่างด้าว

13 ธ.ค. 2566 | 17:34 น.
อัปเดตล่าสุด :13 ธ.ค. 2566 | 17:38 น.

กระทรวงพาณิชย์ กางแผนดัน SME ตั้งเป้าหมายเพิ่มมูลค่า 2.3 ล้านล้าน ภายใน 5 ปี เล็งเพิ่มกำลังซื้อในประเทศ จัดแพ็คสินค้าชุมชน OTOP ที่เหมาะกับการยังชีพ ขายกลุ่มแรงงานต่างด้าว 2.5 ล้านคน

วันนี้ (13 ธันวาคม 2566) นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะอนุกรรมการส่งเสริมและยกระดับ SMEs ไทย โดยเชิญผู้แทนหน่วยงานภายในกระทรวงพาณิชย์และภาคเอกชนเข้าร่วมหารือเพื่อกำหนดแนวทางความร่วมมือด้านการส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการเอสเอ็มอีของประเทศ โดยวาระสำคัญได้มีการจัดทำโรดแมป มาตรการส่งเสริมและแก้ปัญหา SMEs เพื่อเพิ่มสัดส่วน GDP SMEs ไทย 

ทั้งนี้ได้ตั้งเป้าหมายเพิ่มมูลค่า SMEs ให้ได้ 3 แสนล้านบาท ภายใน 1 ปีแรก (ปี 2566-2567) และนำไปสู่มูลค่า 5 แสนล้านบาท/ปี ภายในปี 2570 หรือเติบโตขึ้น 40% รวมเป็นมูลค่ากว่า 2.3 ล้านล้านบาท โดยกำหนดทิศทางการทำงานรวม 8 แนวทาง ดังนี้

1. กรมพัฒนาธุรกิจการค้า สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) และกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ร่วมจัดหลักสูตรอบรมให้ความรู้เพิ่มเติมทักษะให้ SMEs 

2. สร้างอาชีพด้วยแฟรนไชส์ โดยเน้นกลุ่มเป้าหมายที่ผู้ว่างงาน ผู้สนใจประกอบธุรกิจ และครอบครัวผู้ประกันตนมาตรา 33 สามารถเลือกซื้อแฟรนไชส์ตามความถนัด โดยแฟรนไชส์เป็นธุรกิจที่มีโอกาสประสบความสำเร็จสูง เพราะเท่ากับซื้อความสำเร็จจากเจ้าของธุรกิจ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงให้แฟรนไชส์ซีและแฟรนไชส์ซอร์ได้สร้างธุรกิจสร้างตัวไปพร้อมกัน 

 

พาณิชย์ กางแผนดัน SME โต 2.3 ล้านล้าน สั่งจัด OTOP ขายต่างด้าว

 

3. เพิ่มกำลังซื้อภายในประเทศด้วยการนำสินค้าชุมชน หรือ SMEs หรือ OTOP มาเสนอขายแก่ผู้บริโภคในกลุ่มแรงงานต่างด้าวที่อยู่ในประเทศไทยกว่า 2.5 ล้านคน โดยจัดแพ็คเกจสินค้าที่เหมาะกับการยังชีพให้สะดวกต่อการเลือกซื้อสินค้า และมีระบบการจัดส่งสินค้าที่รวดเร็ว เพื่อเพิ่มมูลค่าการส่งออก และสามารถสร้างผู้บริโภคเพิ่มขึ้นได้ถึง 15 ล้านคน 

4. เพิ่มมูลค่าสินค้า GI ให้เป็นที่รู้จักทั้งในและนอกประเทศ 

5. การบริหารจัดการสินค้าเกษตรเพื่อรักษาสมดุลราคาทั้งพืชไร่ พืชสวน และปศุสัตว์ เพื่อรองรับผลผลิตประมาณ 75,000 ตัน/ปี 

6. พัฒนาร้านค้าโชห่วยด้วยระบบการค้าสมัยใหม่ นำเทคโนโลยี POS มาช่วยบริหารจัดการร้านค้า พร้อมทั้งปรับภาพลักษณ์ร้านค้าให้สวยงาม เพิ่มช่องทางการขายผ่านออนไลน์ให้เข้าใกล้ลูกค้ามากขึ้น และส่งเสริมการแข่งขันให้เท่าเทียมกัน 

7. ส่งเสริมการเติบโต SMEs ในท้องถิ่น ผ่านระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ (THAI SME-GP) ให้ธุรกิจขนาดเล็กสามารถเข้ามาแข่งขันในตลาดและเป็นคู่ค้ากับภาครัฐได้ 

8. สนับสนุนและสร้างมาตรฐานธุรกิจ E-Commerce โดยส่งเสริมให้จดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ พร้อมรับเครื่องหมาย DBD Registered การันตีความมีตัวตน และเครื่องหมาย DBD Verified รับรองความน่าเชื่อถือให้แก่ธุรกิจ

 

พาณิชย์ กางแผนดัน SME โต 2.3 ล้านล้าน สั่งจัด OTOP ขายต่างด้าว

 

อีกด้านยังเตรียมจัดกิจกรรม “มหกรรมรวมพลัง SMEs ไทย” ซึ่งเป็นภารกิจเร่งด่วนของกระทรวงพาณิชย์ในการสร้างความเข้มแข็งให้ผู้ประกอบการ SMEs ผลลัพธ์สำคัญจะช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชน เกิดการหมุนเวียนเศรษฐกิจในประเทศ และช่วยขยายตลาดให้ผู้ประกอบการ SMEs เบื้องต้น กำหนดจัดกิจกรรมช่วงปลายเดือนมีนาคม 2567 ณ กรุงเทพมหานคร กิจกรรมหลักภายในงานประกอบไปด้วย 

1. การเปิดพื้นที่ให้ SMEs เข้าร่วมแสดงและจำหน่ายสินค้า เช่น ธุรกิจแฟรนไชส์ ธุรกิจอาหาร ผลิตภัณฑ์ชุมชน เป็นต้น จำนวนไม่น้อยกว่า 100 คูหา 

2. การเจรจาจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) ระหว่างคู่ค้าทางธุรกิจ 

3. การสัมมนาหัวข้อที่ SMEs จำเป็นต้องรู้เพื่อใช้ในการประกอบธุรกิจ เช่น กฎระเบียบด้านการค้าระหว่างประเทศ สิทธิประโยชน์ FTA และแนวทางการใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินทางปัญญา เป็นต้น 

4. การให้สินเชื่อจากสถาบันการเงินเพื่อช่วยให้ SMEs เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น ภายใต้กิจกรรม ‘จับคู่กู้เงิน’

5. การให้คำปรึกษาด้านการทำธุรกิจจากผู้เชี่ยวชาญและหน่วยงานต่างๆ ของกระทรวงพาณิชย์ โอกาสนี้ขอเชิญชวนให้ SMEs และประชาชนที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมฯ โปรดติดตามความคืบหน้าของการจัดงานซึ่งจะแจ้งให้ทราบ และระยะที่ 2 จะออนทัวร์จัดกิจกรรมฯ ทั้ง 4 ภูมิภาคเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นและช่วยเหลือผู้ประกอบการชุมชนในการขยายตลาดและฐานลูกค้า