ชาวไร่อ้อยบุกอุตสาหกรรม-พาณิชย์ทวงค่าตัดลดเผาตัวการ"PM 2.5"วันนี้

20 พ.ย. 2566 | 07:46 น.
อัปเดตล่าสุด :20 พ.ย. 2566 | 07:47 น.

ชาวไร่อ้อยบุกอุตสาหกรรม-พาณิชย์ทวงค่าตัดลดเผาตัวการ"PM 2.5"วันนี้ เดินหน้าถามความชัดเจนโครงการช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยตามมติ ครม. ที่จะจัดสรรงบประมาณเพิ่มค่าตัดอ้อยให้ตันละ 120 บาทต่อเนื่อง

นายนราธิป อนันตสุข หัวหน้าสำนักงานสหพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า วันนี้ (20 พ.ย. 66) ตัวแทนจากสมาคมชาวไร่อ้อยทั่วประเทศ 200 คน จะเดินทางเข้าพบนางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมในช่วงเช้า หลังจากนั้นช่วงบ่ายจะขอเข้าพบนายภูมิธรรม เวชยชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ 

ทั้งนี้ เพื่อหารือถึงความชัดเจนเกี่ยวกับโครงการช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยตัดอ้อยสดเพื่อลดฝุ่น PM 2.5 ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่จะจัดสรรงบประมาณเพิ่ม ค่าตัดอ้อยให้ตันละ 120 บาทต่อเนื่อง แต่ฤดูหีบปี 2565/66 ที่ผ่านมา ยังคงไม่ได้รับการพิจารณา 
 

ขณะที่ฤดูหีบปี 2566/67 ในเดือน ธ.ค.นี้ ก็ยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องดังกล่าว เพราะหากมีการเปิดหีบอ้อยแล้วยังไม่ชัดเจน ก็เกรงว่าปัญหาอ้อยไฟไหม้ก็อาจจะไม่ได้ลดลง เพราะต้องยอมรับว่าการตัดอ้อยสดเพื่อส่งเข้าโรงงานยังมีต้นทุนสูง

สำหรับการปรับขึ้นราคาน้ำตาลทรายจากเดิมที่สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) ออกประกาศปรับขึ้นราคาหน้าโรงงาน 4 บาท/กิโลกรัม (กก.) 

โดยแบ่งรายได้ 2 ส่วนคือ ส่วนแรกนำไปคำนวณราคาอ้อยขั้นต้นและผลตอบแทนการผลิตปี 2566/67 

อีก 2 บาท/กก.นำไปไว้ในกองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย (กท.) เพื่อนำไปบริหารเสถียรภาพราคาอ้อย รวมถึงการส่งเสริม การวิจัยพัฒนา และดูแลด้านสิ่งแวดล้อม เช่น ส่งเสริมแนวทางการพัฒนาการตัดอ้อยสด ฯลฯ

แต่เมื่อกระทรวงพาณิชย์กลับนำน้ำตาลกลับไปเป็นสินค้าควบคุม จากที่ปล่อยลอยตัวราคา มาตั้งแต่ปี 2561 ทำให้การขึ้นราคาถูกระงับ และต่อมากระทรวงพาณิชย์จึงอนุมัติให้ปรับขึ้นเพียง 2 บาท/กก. เพราะเห็นว่าอีก 2 บาท/กก. ไม่ควรเป็นภาระของผู้บริโภคนั้น คงต้องหาความชัดเจนในเรื่องนี้ต่อไป เพราะไม่ทราบว่ารัฐบาลกำลังพิจารณาให้โรงงานน้ำตาลมารับภาระในส่วนของ 2 บาท/กก. หรือไม่ ซึ่งเชื่อว่าไม่น่าจะทำได้ง่าย

"การไปดังกล่าวยังเป็นการขอบคุณที่ได้ร่วมกันช่วยเหลือชาวไร่อ้อย โดยเฉพาะการพิจารณาให้มีการปรับเพิ่มขึ้นราคาน้ำตาลทรายหน้าโรงงาน 2บาท/กก."