นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างร่างกฎหมายพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กู้เงิน 5 แสนล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการเติมเงินดิจิทัล วอลเล็ต 10,000 บาท โดยจะเสนอให้กฤษฎีกาตามขั้นตอนของกฎหมาย และคาดว่าจะแล้วเสร็จ เพื่อเสนอเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ภายในปี 66 นี้
ส่วนหากกรณีพ.ร.บ.กู้เงินไม่ผ่านนั้น ยอมรับว่าขณะนี้ไม่ได้มีแผนสำรอง เนื่องจากเชื่อว่าจะสามารถทำให้ผ่านได้
ทั้งนี้ ยอมรับว่า ก่อนหน้านี้มีแนวคิดที่จะใช้งบประมาณผูกพันไปก่อน แต่ไม่สามารถดำเนินการได้หากยัดวงเงิน 5 แสนล้านบาทลงในงบประมาณแผ่นดิน และจะมีภาระหนี้สูง ส่วนการออกพ.ร.ก. เป็นเรื่องที่ฝ่ายกฎหมายใช้อำนาจออกกฎหมายมา และมีผลบังคับใช้ แล้วจึงไปขออนุมัติ ซึ่งอาจจะมีการวิจารณ์ว่าโครงการดังกล่าวไม่โปร่งใส จึงได้ออกพ.ร.บ.กู้เงินมา ซึ่งต้องผ่านขั้นตอนการรับฟังความคิดเห็นจากรัฐสภา และวุฒิสภา ทั้งนี้ หากมีผู้ยื่นตีความ เช่น ปปช. ก็พร้อมที่จะไปชี้แจง
นายจุลพันธ์ กล่าวว่า การใช้เงินดิจิทัล วอลเล็ต เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งใช้วงเงินครั้งแรก 6 เดือน คาดว่าจะอยู่ในระบบหมุนเวียนของเศรษฐกิจนาน 2-3 ปี และจะให้การขยายตัวของเศรษฐกิจเกิดขึ้น โดยจะมีการสร้างกลไกให้เม็ดเงินหมุนอยู่ในระบบได้นาน
ทั้งนี้ ภาระหนี้รัฐบาลจะเกิดเมื่อมีร้านค้าตัดสินใจไปขึ้นเงินสด ซึ่งจะอยู่หลังจากการกระตุ้นเศรษฐกิจ ฉะนั้น หนี้สาธารณะจะลดลงทันที และไปเกิดหนี้สินหลังจากนั้น มองว่าจะไม่มีความรุนแรง และคาดว่าหนี้สาธารณะจะอยู่ในกรอบไม่เกินสัดส่วนปัจจุบัน
นอกจากนี้ หากพ.ร.บ.กู้เงินผ่านแล้ว จะใช้กลไกการระดมทุนผ่านการออกพันธบัตร เชื่อว่าขณะนี้มีสภาพคล่องเพียงพอ โดยวงเงิน 5 แสนล้านบาทนั้น ยืนยันว่า จะไม่มีการกู้เงินมากองไว้ โดยจะมีการใช้เงินคงคลังออกไปก่อน และจากนั้นจะทำการกู้เงินตามพ.ร.บ.กู้เงิน ตามการบริหารจัดการทั่วไป