เกษตรฯ ชงคลัง-มหาดไทย ขอลดปลูกยางขั้นตํ่า 25 ต้น/ไร่ ไม่เสียภาษีที่ดิน

09 พ.ย. 2566 | 10:03 น.
อัปเดตล่าสุด :09 พ.ย. 2566 | 10:10 น.

รมว.เกษตรฯ ทำหนังสือถึงกระทรวงการคลัง และกระทรวงมหาดไทยแล้ว ขอให้ช่วยปรับหลักเกณฑ์ภาษีที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ลดปลูกยางขั้นตํ่า 25 ต้น/ไร่ จากเดิม 80 ต้น/ไร่ ไม่เสียภาษีที่ดิน

วันนี้ (9 พฤศจิกายน 2566) น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ทำหนังสือถึงกระทรวงการคลัง และกระทรวงมหาดไทย มหาดไทย เพื่อขอให้พิจารณาปรับอัตราขั้นต่ำต้นยางเป็น 25 ต้น/ไร่

ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับอัตราการจัดเก็บภาษี ตามมาตรา 37 ของ พ.ร.บ. ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ.2562 เพื่อช่วยบรรเทาภาระด้านภาษีให้กับเกษตรกร และ พ.ร.บ. การยางแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2558 มาตรา 4 ที่ได้กำหนดนิยามของคำว่าสวนยาง หมายถึง “ที่ดินปลูกต้นยางเนื้อที่ไม่น้อยกว่า 2 ไร่ แต่ละไร่มีต้นยางปลูกไม่น้อยกว่า 10 ต้น โดยเฉลี่ยไม่น้อยกว่าไร่ละ 25 ต้น”

“รมว.เกษตรฯ ได้ลงนามหนังสือถึง รมว. การคลัง และ รมว. มหาดไทยแล้ว เพื่อขอให้ แก้ไขประกาศกระทรวงการคลังและกระทรวงมหาดไทย เรื่อง หลักเกณฑ์การใช้ประโยชน์ในการประกอบเกษตรกรรม หลังเห็นถึงผลกระทบที่เกษตรกรจะได้รับจากการประกาศใช้หลักเกณฑ์ดังกล่าว ที่ได้กำหนดอัตราขั้นต่ำของการปลูกต้นยางพารา จำนวน 80 ต้น/ไร่ จึงจะเป็นการใช้ประโยชน์ในการประกอบเกษตรกรรม โดยเสียภาษีไม่เกินร้อยละ 0.15 ของฐานภาษี จึงเร่งเสนอปรับหลักเกณฑ์”

น.ส.เกณิกา กล่าวว่า จากการสำรวจปริมาณการผลิตยางพารา พบว่า เกษตรกรส่วนใหญ่ปลูกยางพาราน้อยกว่า 80 ต้น/ไร่ เนื่องจากหันมาทำเกษตรแบบผสมผสานปลูกพืชอื่นแซมยางมากขึ้น สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลและนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ได้สนับสนุนให้เกษตรกรทำสวนยางแบบยั่งยืน เพื่อเพิ่มรายได้และยกระดับความเป็นอยู่ให้กับเกษตรกรชาวสวนยาง

นอกจากนี้ ปัจจัยที่เกิดจากภัยธรรมชาติอื่น ๆ มีผลให้จำนวนต้นยางต่อไร่มีไม่ถึง 80 ต้น ด้วยเช่นกัน ดังนั้น จึงสมควรปรับอัตราต้นยางต่อไร่ให้สอดคล้องกับสภาพจริง เพื่อประโยชน์และความเป็นธรรมต่อเกษตรกร

“กระทรวงเกษตรฯ เข้าใจถึงผลกระทบที่เกษตรกรจะได้รับ พร้อมเร่งเข้าประสานและเสนอแนวทางแก้ไขโดยเร็วที่สุด เพื่อประโยชน์ของเกษตรกรเป็นสำคัญ และคำนึงถึงความเป็นธรรมที่ควรได้รับ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต ยกระดับความเป็นอยู่ของเกษตรกรให้มีรายได้เพิ่มขึ้น” น.ส.เกณิกา กล่าว