“เศรษฐา” สั่งเร่งปราบ “หมูเถื่อน” ด่วน ดึง ธกส. หนุนทุนช่วยรายย่อย

23 ต.ค. 2566 | 19:19 น.
อัปเดตล่าสุด :23 ต.ค. 2566 | 19:27 น.
694

“เศรษฐา ทวีสิน” สั่งกระทรวงเกษตร ละหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งปราบ “หมูเถื่อน” ด่วน ดึง ธกส. หนุนทุนช่วยรายย่อย ด้านศุลกากรวางกฎเข้ม พบทำความผิด ระงับการปฏิบัติพิธีศุลกากรทันที

จากกรณี มีผู้ลักลอบนำเข้าหมูเถื่อน จากต่างประเทศอย่างต่อเนื่องในทุกช่อง ล่าสุด (23 ตุลาคม 2566) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้หารือร่วมกับ เรียก ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานต่าง ๆ ทั้ง กรมปศุสัตว์ กรมศุลกากร และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. เข้ามาหารือถึงการแก้ปัญหาลักลอบนำเข้าหมูเถื่อน 

นายเศรษฐา กล่าวว่า ขณะนี้กรมสอบสวนพิเศษ หรือ ดีเอสไอ กำลังติดตามดำเนินคดี และเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ ล่าสุดมีการจับได้แล้วหลายร้อยตู้คอนเทนเนอร์ และก็มีการจับเพิ่มเติมต่อเนื่อง แต่ที่เรามองข้ามไปนิดคือ หากมีการจับกุมแล้วราคาหมูอาจจะพุ่งสูงขึ้น เพราะเรามีผู้ค้าสุกรเพียงไม่กี่ราย ดังนั้น จึงหารือกับหน่วยงานต่าง ๆ ว่า ทำอย่างไรไม่ให้ราคาพุ่งสูงขึ้น

“จากการพูดคุยกับ ธ.ก.ส.และกรมปศุสัตว์ มีการช่วยให้ทุนกับผู้ค้าสุกรรายกลางและรายย่อย ให้มีโอกาสกลับมาทำธุรกิจใหม่ เพื่อจะได้ส่งเนื้อหมูเข้าสู่ตลาด และไม่ทำให้ราคาหมูสูงขึ้นมาก ขั้นต่อไปคือการฟื้นฟูผู้ค้าสุกรรายกลางและรายย่อย” นายเศรษฐา ระบุ

ด้าน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า กระทรวงเกษตรฯ ได้รายงานความคืบหน้าและติดตามการแก้ปัญหาหมูเถื่อนให้นายกฯ รับทราบ และ นายกฯ ก็มอบหมายให้เร่งแก้ปัญหานี้โดยด่วน ซึ่งปัจจุบันได้ตรวจสอบพบการลักลอบอย่างต่อเนื่อง และขณะนี้ก็มีของกลางที่รอการทำลายอีกประมาณ 200 ตู้

“กระทรวงเกษตรฯ มารายงานความคืบหน้าและติดตามการแก้ปัญหาหมูเถื่อน แต่รัฐบาลก็มีมาตรการปราบปรามสินค้าเถื่อนทุกประเภท ไม่ใช่เฉพาะหมูเถื่อน โดย นายกฯ ได้เน้นย้ำมาว่าให้กระตุ้นลูกน้องมากกว่านี้” 

ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรี ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุมเพื่อหาแนวทางการแก้ไขปัญหาการลักลอบการนำเข้าเนื้อสัตว์ และได้สั่งการให้กรมศุลกากรมีมาตรการในการควบคุมอย่างเคร่งครัดในการเข้มงวด กวดขันการลักลอบ/หลีกเลี่ยง นำเข้าเนื้อสุกร  เนื้อโค เนื้อกระบือ จากต่างประเทศในทุกช่องทาง

พร้อมทั้งให้เร่งรัดติดตามการดำเนินคดี/ยึดทรัพย์ ผู้กระทำความผิดและผู้สนับสนุนการกระทำความผิด และหากมีเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานภาครัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง ให้ดำเนินการทั้งในด้านวินัยและคดีอาญาให้ถึงที่สุด โดยตั้งคณะกรรมการกลางเพื่อเร่งรัด และตรวจสอบการดำเนินการในเรื่องนี้ขึ้นโดยมีปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน

ล่าสุด กรมศุลกากร ได้สั่งการให้ทุกสำนักงาน/ด่านศุลกากร และกองสืบสวนสวนและปราบปราม ให้เข้มงวดและพร้อมเฝ้าระวังการลักลอบนำเข้าสินค้าที่มีความเสี่ยง ซึ่งอาจมีการสำแดงข้อมูลเป็นเท็จ โดยการสำแดงชนิดสินค้าเป็นสินค้าอื่นเพื่อลักลอบ/หลีกเลี่ยง นำสินค้าเข้ามาในราชอาณาจักร

อีกทั้งให้เฝ้าระวังการลักลอบนำเข้าผ่านทางช่องทางธรรมชาติตามแนวชายแดนอีกด้วย ทั้งนี้ได้มีการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ

นอกจากนี้ กรมศุลกากรได้มีมาตรการในการควบคุมการลักลอบ/หลีกเลี่ยง การนำเข้าสินค้าประเภทเนื้อสัตว์จากต่างประเทศ โดยเพิ่มการตรวจสอบข้อมูลการนำเข้าสินค้าล่วงหน้าจากบัญชีสินค้า (Manifest) คือ บัญชีสินค้านำเข้าที่ผู้รับขนส่งยื่นต่อศุลกากรเพื่อแสดงรายละเอียดของที่รับบรรทุก เพื่อป้องกันการสำแดงข้อมูลในใบขนสินค้าไม่ตรงกับความเป็นจริง 

พร้อมทั้งเพิ่มความเข้มข้นในการตรวจปล่อยสินค้าประเภทตู้แช่เย็น สินค้าเกษตร ทุกชนิด ทุกรายการ ทุกใบขนสินค้าโดยให้มีการเปิดตรวจและ/หรือเอกซเรย์ทุกตู้คอนเทนเนอร์ หากพบว่าผู้นำเข้ารายใดมีการลักลอบ/หลีกเลี่ยง นำเข้าเนื้อสุกร เนื้อโค เนื้อกระบือ จากต่างประเทศในทุกช่องทาง จะดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด 

โดยให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรทำการจับกุม และดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษกับพนักงานสอบสวน โดยไม่ยินยอมให้ทำความตกลงระงับคดีในชั้นศุลกากร โดยกรมศุลกากรสนับสนุนการดำเนินการของพนักงานสอบสวนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการร่วมตรวจสอบ หากผู้ประกอบการใดถูกดำเนินคดีฯ ทางกรมศุลกากรจะพิจารณาระงับการปฏิบัติพิธีศุลกากรทันที