"กิตติรัตน์"อัดนักเศรษฐศาสตร์อย่าด้อยค่า"เงินดิจิทัล" ยันไม่ใช่เงินเลว

22 ต.ค. 2566 | 15:13 น.
อัปเดตล่าสุด :22 ต.ค. 2566 | 15:14 น.

"กิตติรัตน์"อัดเศรษฐศาสตร์อย่าด้อยค่า"เงินดิจิทัล" ยันไม่ใช่เงินเลว ชี้ระบุน่าจะลองฟังความให้ถ้วนถี่อีกสักครั้งก่อนจะปักใจไปทางหนึ่งทางใด เผย ตนยินดีไปขอพบรสนาเพื่อปุจฉา วิสัชนา

เงินดิจิทัล 10000 ยังคงเป็นประเด็นที่มีการถกเถียงกันถึงเรื่องความเหมาะสมกับการดำเนินนโยบาย

ล่าสุดนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี​ อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง​ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว (กิตติรัตน์ ณ ระนอง - Kittiratt Na-Ranong) โดยระบุว่า นักเศรษฐศาสตร์การเงิน คนหนึ่งชื่อ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ซึ่งก็รู้จักมักคุ้นกับคุณรสนา โตสิตตระกูล ผ่านความชื่นชอบหลงใหลในศิลปะการดนตรี ได้อ่านความคิดของนักเศรษฐศาสตร์การเงินอีกท่านหนึ่ง ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นใครเพราะคุณรสนา มิได้ระบุนาม และนำความคิด ด้อยค่า เงินดิจิทัลวอลเล็ต (Digital Wallet) ว่าเป็นเงินเลว (Bad Money) มาชี้นำคุณรสนา 

ตนไม่ขอชี้นำอะไรท่าน ขอเพียงตั้งข้อสังเกต และคำถามต่อนักเศรษฐศาสตร์ฯ ท่านนั้น ผ่านคุณรสนา และหวังลึก ๆ ว่าข้อสังเกตและคำถามของตนอาจทำให้คุณรสนา และมิตรสหายของท่านฉุกใจขึ้นมาว่าน่าจะลองฟังความให้ถ้วนถี่อีกสักครั้งก่อนจะปักใจไปทางหนึ่งทางใด
 

  • ท่านทราบไหมว่า คำว่า "เงินเลว (Bad Money)" เป็นคำที่ผู้บริหารการคลังของอังกฤษ คือ Sir Thomas Gresham ใช้มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1558  (พ.ศ.2101) แต่มาโด่งดังจนเป็นรู้จักกันในหมู่นักเศรษฐศาสตร์ว่า Gresham's Law ใน ค.ศ. ที่ 19 ซึ่งหากจะพยายามนำมาใช้กับกรณีนี้ ผมตีความในทางบวกได้ว่า เงินที่ว่าเลวนั้น สามารถทำหน้าที่ของการเป็นตัวกลางของการจับจ่ายใช้สอยที่ดีเมื่อ ลดความน่าเก็บสะสม ซึ่งเราทุกคนย่อมทราบดีว่าในยามที่เราจำเป็นต้องกระตุ้นขับเคลื่อนเศรษฐกิจ การมีเงิน หรือรับเงินไปแล้วถูกใช้จ่ายในกรอบเวลา และใช้จ่ายไปกับสิ่งที่พึงประสงค์ จะกระตุ้นขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ดี "เงินเลว (Bad Money)" จึงเป็นเงินที่ดี ตามภารกิจได้

จึงขอกราบฝากคุณรสนา เรียนถามนักเศรษฐศาสตร์ฯ ท่านนั้นว่า ท่านเข้าใจ Gresham's Law แบบที่ นายกิตติรัตน์ ณ ระนองเขาเข้าใจไหม ?

  • นอกจากการนำคำนิยาม "เงินเลว (Bad Money)" เก่าแก่ในอดีต มาใช้เชิงวาทกรรม แต่ไม่อิงความหมายที่ลึกซึ้งแล้ว ท่านนักเศรษฐศาสตร์ฯ ท่านนั้น ไม่สังเกตเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นใกล้ตัว ในปัจจุบัน คือ ค.ศ. 2023 (พ.ศ.2566) ของเขตเศรษฐกิจสำคัญของเอเชีย ใกล้บ้านเราคือ ฮ่องกง บ้างเลยหรือ

" In 2023, all Hong Kong permanent residents can receive the full payout of HK$5,000. Those who are not permanent residents, but who have come to the city to study or work, will receive HK$2,500, or half of the payout. Domestic workers are exempt from any payout.
 

ประชาชน "ชาวฮ่องกงทุกคน" ได้รับเงิน 5,000 เหรียญฮ่องกง หรือประมาณคนละ 23,000 บาท โดยรับเงินผ่านดิจิทัลวอลเล็ต เมื่อวันที่ 16 เม.ย. 2566 จำนวน 3,000 เหรียญฯ และหากใช้จนหมดภายในวันที่ 30 มิ.ย. ก็ได้รับ อีก 2,000 เหรียญฯ ที่เหลือตามสิทธิ์เมื่อวันที่ 16 ก.ค. 2566

นอกจากนั้น นักเรียน หรือ ผู้มาทำงานระยะยาว ก็ได้รับเงินครึ่งหนึ่งหรือ 2,500 เหรียญฮ่องกงด้วย

นักเศรษฐศาสตร์ฯ ท่านนั้น ไม่ได้ติดตามข่าวสารเศรษฐกิจการเงินในต่างประเทศบ้างเลยหรือ ? 

ท่านคิดไหมว่าการมอบเงินดิจิทัลที่มีเงื่อนไขการใช้จ่ายที่ถูกด้อยค่าว่าเป็น "เงินเลว (Bad Money)" นั้น แท้ที่จริง เป็น "เงินดี (Good Money)" ตามภารกิจกระตุ้นขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ?

ท่านนักเศรษฐศาสตร์ฯ ท่านนั้น บิดเบือนด้อยค่าดิจิทัลวอลเล็ต ให้คุณรสนาเข้าใจผิดจนตกอกตกใจนำไปถ่ายทอดกับมิตรสหายผู้หวังดีกับประเทศชาติทำไม ?

หากคุณรสนา ยังไม่คลายความสงสัย ตนยินดีไปขอพบเพื่อปุจฉา วิสัชนา ทั้งเรื่องเศรษฐกิจการเงิน เรื่องศิลปะการดนตรี หรือเรื่องอื่นใดที่อาจจะเกิดประโยชน์กับประเทศชาติและประชาชนได้อีก ตนจะยินดีเป็นที่สุด