ส่องรายได้ "ไทบ้าน สตูดิโอ" เจ้าของหนัง "สัปเหร่อ" อีกนิดเดียวจะแตะ 500 ล้าน
รายงานพิเศษ : เปิดรายได้ บริษัท ไทบ้าน สตูดิโอ จำกัด เจ้าของหนังไทยสุดฮอตเรื่อง "สัปเหร่อ" โกยรายได้ใกล้จะถึง 500 ล้านบาท โดยที่ไม่ต้องใช้ดาราดัง ภายในไม่กี่วัน จากบริษัทที่เปิดมาปีแรกขาดทุน ทำรายได้เพียง 9.5 พันบาท
หนังเรื่อง “สัปเหร่อ” สร้างกระแสฮือฮาปลุกวงการภาพยนต์ไทยในช่วงส่งท้ายปลายปี 2023 ด้วยการเดินหน้าโกยรายได้เกือบ 500 ล้านบาท ที่เปิดเผยโดย "บักเซียงไทบ้าน"
และไม่มีทีท่าว่าจะเพียงเท่านั้น เพราะหนังเพิ่งเปิดฉายเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2566 ในรอบสื่อหรือรอบปฐมทัศน์ และรอบฉายจริงครั้งแรกคือวันที่ 5 ตุลาคม 2566 เท่านั้น
ทำให้สื่อหลายสำนักรายงานข่าวความสำเร็จของหนังสัปเหร่อไปอย่างกว้างขวาง หลากหลายมุม อาทิ เป็นหนังที่ไม่จำเป็นต้องจ้างดาราระดับซุปเปอร์สตาร์ของไทยแม้แต่คนเดียว เป็นหนังที่เข้าใจบริบทวัฒนธรรมคนอีสานโดยแท้ และอีกหลากหลายมุมมองที่น่าสนใจ
หนังเรื่องสัปเหร่อ เป็นหนังที่ผู้กำกับโดย "ต้องเต ธิติ ศรีนวล" ผู้กำกับมากฝีมือหลากหลายผลงาน ที่ได้สร้างผลงานที่น่าประทับใจให้กับวงการหนังมาแล้วหลายเรื่อง และล่าสุดคือเรื่องสัปเหร่อที่ใช้เวลายาวนานนับ 4 ปี เลยทีเดียว
ฐานเศรษฐกิจ นำเสนออีกมุมที่เชื่อมโยงกับ "หนังสัปเหร่อ" โดยเฉพาะในมุมของงบการเงิน รายได้ รายได้ ของ "บริษัท ไทบ้าน สตูดิโอ จำกัด" ซึ่งเป็นบริษัทเจ้าของหนังสัปเหร่อ และหนัง "ไทบ้านเดอะซีรีส์" อีกหลายเรื่อง
ข้อมูลจากเว็บไซต์ ไทบ้านดอทคอม (www.thibaan.com) และแฟนเพจ ไทบ้าน เดอะซีรี่ส์ ได้เปิดเผยข้อมูลย้อนหลังถึงผลงานและรายได้ของภาพยนต์แต่ละเรื่องดังนี้
- 2560 - ไทบ้าน เดอะซีรีส์ รายได้ 37 ล้านบาท
- 2561 - ไทบ้าน เดอะซีรีส์ 2.1 รายได้ 68 ล้านบาท และ ไทบ้าน เดอะซีรีส์ 2.2 รายได้ 97 ล้านบาท
- 2565 - หมอปลาวาฬ รายได้ 14 ล้านบาท
รวม ภาพยนต์ 4 เรื่อง ของไทบ้าน มีรายได้รวม 216 ล้านบาท
และนั่นยังไม่นับรวมถึงผลงานมิวสิควิดีโออื่นๆและงานโปรดักชั่นเบื้องหลังอื่นๆอีกมากมาย
ข้อมูลจาก https://datawarehouse.dbd.go.th/ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ระบุข้อมูล (ณ วันที่ 18 ตุลาคม 2566) ว่า บริษัท ไทบ้าน สตูดิโอ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทเจ้าของหนัง "สัปเหร่อ" และ "ไทบ้านเดอะซีรีส์" เลขทะเบียนนิติบุคคล: 0335562000781 จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อ 15 ก.ค. 2562 ด้วยทุนจดทะเบียน 1,000,000.00 บาท
ที่ตั้งสำนักงานแห่งใหญ่ อยู่ที่ 88/58 หมู่ที่ 10 ต.โพธิ์ อ.เมืองศรีสะเกษ จ.ศรีสะเกษ มีรายชื่อกรรมการ ประกอบด้วย
- นายสุรศักดิ์ ป้องศร
- นายไชยพล นามวงศ์
- ว่าที่ร้อยตรีปกป้อง มกรนันท์
ประเภทธุรกิจที่ส่งงบการเงินปีล่าสุด คือ กิจกรรมการผลิตภาพยนตร์และวีดิทัศน์ วัตถุประสงค์เพื่อ ผลิตภาพยนตร์และสื่อวีดิทัศน์ โดยข้อมูลระบุปีที่ส่งงบการเงินคือ 2562-2565 มีข้อมูลดังนี้
2562
- สินทรัพย์รวม 1,003,557.24 บาท
- หนี้สินรวม 10,000 บาท
- รายได้รวม 9,507.24 บาท
- รายจ่ายรวม 15,950 บาท
- ขาดทุน 6,442.76 บาท
2563
- ทรัพย์สินรวม 3,235,911,74 บาท
- หนี้สินรวม 1,562,889.73 บาท
- รายได้รวม 6,336,401.57 บาท
- รายจ่ายรวม 5,505,866.45 บาท
- กำไร 679,464.77 บาท
2564
- ทรัพย์สินรวม 6,754,789.54 บาท
- หนี้สินรวม 3,910,881.79 บาท
- รายได้รวม 12,033,192.28 บาท
- รายจ่ายรวม 10,692,932.60 บาท
- กำไร 1,170,885.74 บาท
2565
- ทรัพย์สินรวม 13,908,472.39 บาท
- หนี้สินรวม 10,513,472.46 บาท
- รายได้รวม 18,868,830.55 บาท
- รายจ่ายรวม 18,178,157.53 บาท
- กำไร 551,092.18 บาท
ประวัติกรรมการ บริษัท ไทบ้าน สตูดิโอ จำกัด
นายสุรศักดิ์ ป้องศร ชื่อเล่น ศักดิ์ เกิดเมื่อ 30 พฤษภาคม 2534 จบการศึกษาระดับปริญญาตรี ด้วยทุนเรียนฟรี BU Creative ในคณะนิเทศศาสตร์เอกภาพยนตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ
เริ่มเข้าสู่โลกภาพยนตร์ตั้งแต่ ม.2 โดยการเข้าเป็นสมาชิกชมรมศูนย์ข่าวเยาวชนไทย ประจำโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 29 ที่จังหวัดศรีสะเกษ
และได้ฝึกพัฒนาฝีมือ และเข้าร่วมกลุ่มเยาวชนเก้าลำดวน จนเริ่มกำกับหนังสั่นประกวดได้รางวัลมามากมาย อาทิ รับรางวัลชนะเลิศอันดับ 1 ระดับเอเชียในการประกวดหนังสั้นประเภท เยาวชน, จนมีผลงานภาพยนตร์ อาทิ ไทบ้านเดอะซีรีส์ (2017), ไทบ้านเดอะซีรีส์ 2 Part I (2018) และ ไทบ้านเดอะซีรีส์ 2.2 (2018) เป็นต้น
ชัยพล นามวงศ์ ชื่อเล่น "กอล์ฟ" เกิดวันที่ 19 กุมภาพันธุ์ 2534 เป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จในทุก ๆ อย่างของบริษัท ซึ่งในช่วงสถานการณ์โควิดระบาด เคยนำทีมงานผู้สร้างภาพยนตร์ชื่อดังเรื่อง “ไทบ้านเดอะซีรีส์” นำสิ่งของ พร้อมทั้งอุปกณ์ช่วยเหลือทางการแพทย์ และชุด PPE จำนวนกว่า 400 ชุด รวมมูลค่ากว่า 100,000 บาท เดินสายมอบให้กับโรงพยาบาลทุกแห่งในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ทั้ง 22 อำเภอ และอีก 3 อำเภอในพื้นที่จังหวัดใกล้เคียง รวมถึงฮอสพิเทล และโรงพยาบาลสนาม อีกด้วย เพื่อสนับสนุนภารกิจการป้องกันควบคุมโรคโควิด-19
ว่าที่ร้อยตรีปกป้อง มกรนันท์ ชื่อเล่น ป้อง เรียนจบ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม(มมส.) นอกจากเป็นผู้บริหารของไทบ้าน สตูดิโอแล้ว ยังทำหน้าที่เป็น Production Manager ให้กับหนังสัปเหร่ออีกด้วย
ม.มหาสารคาม โพสต์ชื่นชมศิษย์เก่าเบื้องหลัง "สัปเหร่อ"
วันที่ 19 ต.ค. แฟนเพจ "กองกิจการนิสิต มหาวิทยาลัยมหาสารคาม" ได้โพสต์เฟซบุ๊กชื่นชมผลงานศิษย์เก่า MSU สร้างรายได้ทะยานสู่ 300 ล้านบาท
มหาวิทยาลัยมหาสารคามและสมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยมหาสารคาม ขอแสดงความยินดีกับผลงานภาพยนตร์ “สัปเหร่อ” ของศิษย์เก่า มมส
- ต้องเต-ธิติ ศรีนวล กำกับการแสดง : ภาควิชาศิลปะการแสดง คณะศิลปกรรมศาสตร์และวัฒนธรรมศาสตร์
- โอม-อวิรุทธ์ อรรคบุตร อำนวยการสร้าง : ภาควิชานิเทศศาสตร์ คณะวิทยาการสารสนเทศ
- ปริม-ชมภูมาตย์ ผ่องสนาม นักแสดงนำ : ภาควิชานิเทศศาสตร์ คณะวิทยาการสารสนเทศ
- นะโม-ธันวาพร นาสมบัติ นักแสดง : ภาควิชานิเทศศาสตร์ คณะวิทยาการสารสนเทศ
- ป้อง-ว่าที่ร้อยตรีปกป้อง มกรนันท์ Production Manager : คณะนิติศาสตร์
- กี้-ชุติพงศ์ รักหอม ตัดต่อ : ภาควิชานิเทศศาสตร์ คณะวิทยาการสารสนเทศ
- หนึ่ง-อัครรินทร์ อมฤตวรรณ costume : ภาควิชานิเทศศาสตร์ คณะวิทยาการสารสนเทศ
- เอ๋-สุรเดช อนุนิวัฒน์ Make up :คณะนิติศาสตร์
- อารมณ์-อารมณ์ รอดประพันธ์ ออกแบบดนตรีอีสานประกอบภาพยนตร์ : ภาควิชานิเทศศาสตร์ คณะวิทยาการสารสนเทศ
- แหลมสิงห์-ทัตพงศ์ งามปัญญา นักแสดง / คอนเทนท์ครีเอเตอร์ : คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ผังเมืองและนฤมิตศิลป์
- มัส-มรรษมาน แสนวา ออกเเบบเเละหาอุปกรณ์ประกอบฉาก: ภาควิชานิเทศศาสตร์ คณะวิทยาการสารสนเทศ
- สินสอด -ศุภราช ศรีนา ออกเเบบเเละหาอุปกรณ์ประกอบฉาก: ภาควิชานิเทศศาสตร์ คณะวิทยาการสารสนเทศ
- กวาง- กัญวัลลภ์ เวฬุวนารักษ์ บัญชีกองภาพยนตร์ : คณะการบัญชีและการจัดการ สาขาบัญชี
"ต้องเต" โพสต์ขอบคุณผู้มีส่วนร่วมกับ "สัปเหร่อ"
ต้องเตโพสต์ขอบคุณทุกคนอีกครั้งผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัว “ต้องเต ธิติ” ถึงทีมงาน ผู้ร่วมสร้างความสำเร็จในวันนี้ โดยในโพสต์ได้พูดถึงความสำเร็จที่มาได้โดยมีคนในทีมนั้น ทำให้ผลงานในวันนี้ออกมาประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยในโพสต์ระบุว่า
” สั ป เ ห ร่ อ
หนังมันได้เดินทางมาไกลมากๆ แล้วก็พาผมเดินทางมาไกลมากๆ ขอบคุณทุกคนนะครับ
- สัปเหร่อเป็นหนังเรื่องแรกที่ผมกดดันมากๆเเละโคตรเหนื่อยมากๆและเหนื่อยจริงๆเหนื่อยที่สุดๆเหนื่อยที่แบบว่าบอกใครไม่เลยครับ ทั้งเขียนบทคนเดียว มันยากมากที่เล่าเรื่องความตายให้คนเข้าใจ ทั้งกำกับเดี่ยวครั้งแรกต้องมาแบกความคาดหวังของผู้คน ต้องได้ตัดต่อเองซึ่งผมก็ไม่ได้เก่งอะไรเลย ต้องมาทำซาวด์อีสานเอง และด้วยปัญหาหลายๆอย่างที่ต้องเจอตามมาเรื่อยๆ มันก็เป็นงานท้าทายที่ทำให้ผมสนุกและ
ความสุขมากๆเช่นกันครับ
ขอบคุณในความผิดพลาดหลายๆอย่างที่เกิดขึ้นนะครับ ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นยังไง ผมได้ทำอย่างเต็มที่ในช่วงเวลานั้นที่ผมมีโอกาสได้ทำมันแล้วนะครับ
ขอบคุณ MVP พี่ปั้น พี่เอก ที่ให้โอกาสเด็กน้อยคนนี้ เสมอมานะครับ หวังว่าผมคงทำให้พี่ๆไม่ผิดหวังนะครับ
ขอบคุณเฮียโต้ง ที่คอยให้กำลังใจและสนับสนุนพวกผมมาตลอด ถ้าดีเฮียก็ชม ถ้าไม่ดีเฮียก็ด่า รักเฮียมากๆนะครับ
ขอบคุณ พี่แจ้(เดอะแบก) พี่กัส (พี่ปิ่น) พี่สัก พี่ต้น ที่เป็นทั้งที่ปรึกษาเป็นโปรดิวเซอร์และพี่ชายที่ดี ขอบคุณที่ ให้โอกาสผม เชื่อใจผม เชื่อมั่นในตัวผมนะครับ เป็นบุคคลที่อยู่ข้างๆและช่วยผมทุกอย่างจริงๆ
ขอบคุณพี่จ๊อบ ป๋าบอย โน่ พี่เตเต้ พี่แบล็ค พี่แมน เเละขอบคุณเพื่อนรัก ด้งเด้ง ตาต้า บิว สิงโต นาราที่คอยให้คำแนะนำที่ดีเสมอมา และขอบคุณที่คอยซัพพอร์ตผมตลอด อยู่ข้างเมื่อเราต้องการ แทบจะไม่ต้องคุยกันเราก็เข้าใจ
ขอบคุณ พี่นิค ที่ละเอียดกับการสร้างงานภาพที่งดงาม เเละอยู่ข้างๆๆซับพอร์ทผมจนกว่าจะจบงาน พี่ช่วยผมมาตลอดจริงๆ ความแปลกใหม่ที่ทำให้ความเป็นไทบ้านยกระดับโปรดักชั่นขึ้น เพราเลยนะครับ ในชีวิตนึ่งผมยินดีและมีความสุขมากที่ได้รู้จักพี่
ขอบคุณนักแสดงทุกคนมากๆนะครับที่ทุ่มเท เเละเข้าใจผม พวกคุณเก่งมากๆนะครับ ผมรักพวกคุณ และผมรู้ว่าอาจจะมีบางคนที่น้อยใจในเรื่องของบทน้อยบ้างบทไม่เด่นบ้างผมขอโทษด้วยนะครับ ยอมรับเลยว่าเราเหนื่อยมาด้วยกันจริงๆ
ขอบคุณพี่โอม พี่ปกป้อง พี่กอล์ฟ พี่นัท ครอบครับพี่กัส ที่คอยซัพพอร์ต และให้กำลังใจเสมอมา ขอบคุณ
ทีมพรอมต์ชนม์และทีมอีเว้นท์ทุกๆคนครับที่ช่วยจัดอีเว้นท์ที่สวยงาม
ขอบคุณพี่ริท ทิว ทีมซาว์ดที่เป็นครอบครัวที่เข้าใจกันเลยก็ว่าได้ ให้คำแนะนำ ให้กำลังใจ และเขาคือบุคคลที่สร้างเสียงหัวเราะประจำกองถ่ายตลอดเวลา ทำให้กองของเราสนุกและมีรอยยิ้ม พี่ริทเชื่อมั่นว่าคนจะชอบในสิ่งที่ผมทำขึ้นและเชื่อใจ ให้เกียรติผมตลอด นี่แหละครับความสุข
ขอบคุณ พี่บอส พี่พี พี่อารม์ ภานุและทีมกล้องทุกคนที่เป็นส่วนหนึ่งของความสุขในชีวิตของผมครั้งนี้ และสร้างเสียงหัวเราะในกองอยู่เสมอ
ขอบคุณ พี่ยู นนต์ บ๊อบบี้ ที่ช่วยซับพอร์ตทุกๆอย่างและคอยเตือนปัญหาต่างๆให้ พวกเราทำงานกันหนักเเละเหนื่อยมากจริงๆ ด่ากันบ้าง ทะเลาะกันบ้าง แต่ด้วยหน้าที่ของเเต่ละคน ก็ทำให้เราเข้าใจกัน
ขอบคุณ ป๋าตุ้ย ที่เป็นทั้ง กราฟเฟอร์ และพี่ชาย ขอบคุณที่สร้างแสงที่งดงาม ขอบคุณทีมไทยบันเทิง น้าฉ่ำ พี่บิว พี่บอม บอล ปลาย ฟรุ๊ค และคนอื่นๆ ที่ช่วยซับพอร์ตการจัดไฟ
ขอบคุณคุณชมพู่ PM สาวน้อยไฟแรงที่ทำงานทั้งหมดเสร็จและผ่านไปด้วยดี
ขอบคุณ พี่อัง ที่คอยเช็คคอนที่ปวดหัวมากๆ และเป็นน้องสาว ที่คอยซัพพอร์ตทุกเรื่อง ทุกอย่าง น้องผมเก่งมาก
ขอบคุณอาจารย์ปรีชาและพี่ศาลมากๆนะที่มาร้องเพลง ประกอบภาพยนตร์ให้ โคตรเพราะเลยครับ โคตรมีคุณค่า โคตรมีพลัง เพลงอาจจะไม่ค่อยไปนะครับอาจารย์ ผมแค่อยากให้มันมีคุณค่ากับการจากไปให้มากที่สุด การร่วมงานกับอาจารย์ทั้งสอง ผมโคตรกลัวงานมันออกมาไม่ดีตลอด ผมได้ทำเต็มที่แล้วนะครับ
ขอบคุณ เขม ฟลุต มินตรา ออมสิน มัด บูม ที่ทำงานอาตและออกแบบสร้าง ทั้งหมดของเรื่อง และในชีวิตเป็นน้องที่อยู่ข้างๆๆผมมาโดยตลอด ให้กำลังใจทุกอย่างไม่ว่าผมจะทำอะไร รักพวกมึงมากๆๆนะ
ดีใจมากๆที่พวกมึงเติบโต อย่างที่มึงอยากจะเป็น
ขอบคุณ พี่หนึ่ง พี่เอ้ ตาอี้ ที่ออกแบบเสื้อผ้าที่ถูกใจผมมากๆ เราทำงานจนแทบจะไม่ค่อยคุยกัน แต่แค่มองตาก็รู้ใจ
ขอบคุณ พี่นิว โลเคชั่น ที่พยายามหาสิ่งที่ผมต้องการจนได้ เเละขอโทษที่ผมเรื่องมากในบางทีนะครับ
ขอบคุณน้องอ๊อฟสุรพลที่มาทำให้บทสวดมันดูขังและขนลุก
ขอบคุณทีมสวัสดีการทุกๆๆคนนะครับ
มีข้าวที่อร่อยทุกคาบ มีน้ำมีกาแฟ รวมถึงเบียร์ให้ทีมงานได้กินกัน กินจนเมาทำงานไม่ได้ก็มี55
ขอบคุณทีมงานกันตนาทุกๆคนที่ช่วยกันศัลยกรรมหนังเรื่องนี้ และคอยแนะนำเรื่องโพสให้กับผม
ขอโทษที่ผมเรื่องมากในบางทีนะครับ
ขอบคุณน้องนิก จิ๋ว เป็นอีกคนที่ช่วยกันตัดต่อและดูแลไฟลงานเป็น ขอบคุณที่คอยซัพพอร์ตพี่ทุกเรื่องเลยทุกเรื่องจริงๆ
ขอบคุณ พี่แม๊ก น้องอารมณ์ เจ็ท กั้ง หยง บอส ที่ช่วยทำสกอร์อีสานที่งดงามและ ไพเราะ
ขอบคุณ พี่กี้ นิก บ๊อบบี้ ที่ช่วยเรื่องการตัดต่อทุกอย่างในหนัง ช่วยแนะนำเรื่องต่างๆ และให้คำแนะนำเป็นอย่างดี
ขอบคุณ เอ็ม ที่ช่วยทำโปสเตอร์และกราฟฟิกต่างๆของหนัง และน้องทำทุกอย่างได้ดีมาก ใส่ใจทุกสิ่งที่ทำ
ขอบคุณน้องแหลม อ๋อง เป็นน้องที่ดีมากๆคอยซัพพอร์ตอยู่ข้างๆพี่และให้คำแนะนำพี่มาตลอด ใช่คำว่าน้องชายที่ดีที่สุดในชีวิต
ขอบคุณน้องๆทีมงานสถุนโปรดักชั่น ถึงบางคนไม่ได้ทำหนังเรื่องนี้ด้วย แต่ก็ช่วยทุกอย่างขอเเค่บอก
ขอบคุณทีมงานออฟฟิศไทบ้านสตูดิโอ แล้วก็เซิ๊ง มิวสิค
นะครับ
ขอบคุณทีมงานรถตู้ แอ๋นตู้ซิ่ง
ขอบคุณน้องฝึกงานทุกๆคนมากนะครับ
สุดท้ายที่สำคัญและขาดไม่ได้ ขอบคุณครอบครัวแม่ พ่อ ป้า พี่สาว พี่เขียว พี่ขวัญ
พี่ก้อง พี่เบล เสี่ยกร ณิชาแฟนที่น่ารัก ที่คอยอยู่เคียงข้างทุกวินาทีที่เราใช้ชิวิต สอนทุกอย่าง ดีก็ชม ไม่ดีก็ให้กำลังใจ ขอบคุณที่เป็นพลังบวกให้กันและกันมาตลอด ขอบคุณที่รักกันนะครับ ผมรักทุกคนมากๆๆนะครับ
ขอโทษด้วยนะครับถ้าผมขาดตกรายชื่อของใครไปบ้าง ผมขอบคุณจริงๆครับ ผมพิมไม่ค่อยเก่ง ถ้าเจอใครผมจะพูดขอบคุณจากใจจริงนะครับ
ผมไม่แน่ใจว่ามันสำเร็จจะไหม แต่ผมก็คงเข้าใจว่าความสำเร็จมันมักอยู่กับเราเป็นเวลาสั้นๆ และทุกความสำเร็จนั้นจะมีคนยินดี (จริงๆ) กับเราไม่กี่คนหรอก แต่หนึ่งในนั่นมีก็คงเป็นตัวเอง
ตัวหนังอาจทำให้คนผิดหวัง ที่คาดหวังกับหนังเรื่องนี้ใว้เยอะ แต่ผมมันบ้าไปที่อยากทดลองเล่าเรื่องธรรมดาๆด้วยความจริงที่เราพบเห็น ผ่านวิถีชีวิตคนอีสานยุคใหม่ที่ตั้งคำถามกับความเชื่อ พิธีกรรมที่กำลังจะหายไป
ความงดงาม และเล่าเรื่องความตาย ที่เราต้องเจอ
ตอนเขียนบทผมคิดเยอะมาก ระหว่างใส่ตัวตนที่เราเป็นอยู่ หรือเราจะเอาใจกลุ่มแฟนคลับที่ติดตามไทบ้านเป็นหลัก การทำหนังหนึ่งเรื่ององค์ประกอบคงเยอะมาก
เราจะเป็นตัวของตัวเองทั้งหมดเลยก็ไม่ได้ พยายามเอาสิ่งที่คนต้องการใส่ไปในหนังผ่านความต้องการของเราบ้าง อย่างน้อยถึงไม่มีคนชอบก็คงมีเราแหละคนนึ่งที่ชอบมัน หวังว่าทุกคนอาจจะได้อะไรจากหนังเรื่องนี้นะครับ
ผมอาจจะเป็นคนไม่เก่ง และไม่คิดว่าตัวเองเก่งเลยนะครับ แต่ผมอค่อาจจะเป็นคนที่โชคดีมีคนรักและคนให้โอกาสเยอะมาก และผมก็มีเพื่อนๆพี่ๆรอบข้างมีแต่คนเก่งๆมาก ทำให้ต้องเรียนรู้เยอะขึ้น ผมต้องตั้งใจมากขึ้น เข้าใจตัวเองมากขึ้น และผมต้องเป็นมนุษย์มากขึ้น
เรียนรู้ แก้ไข เข้าใจ เติบโต
ขอบคุณทุกคนมากๆนะครับที่คอยให้คำแนะนำให้กำลังใจและคอยซัพพอร์ตตลอดการทำงานของผมนะครับ
ขอบคุณทีมงานและนักแสดงทุกคนมากๆนะครับที่เชื่อมั่นเด็กคนนี้
สุดท้าย ผมไม่รู้ว่าหนังจะเดินทางได้ไกลแค่ไหนอย่างน้อยเราก็ได้เดินทางมาด้วยกันนะครับ
ขอให้ทุกท่านมีความสุขมีรอยยิ้มและเสียงหัวเราะที่พวกเรามอบให้นะครั ผมอบอุ่นหัวใจมากๆนะครับ
นายกฯ นำครม.ดู “สัปเหร่อ” หนุนเป็นซอฟต์พาวเวอร์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2566 เวลา 19.30 น. ณ โรงภาพยนตร์ พารากอน ซีนี เพล็กซ์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน กรุงเทพมหานคร นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นำคณะรัฐมนตรี ประกอบด้วย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และนางสาวศุภมาส อิสระภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ร่วมรับชมภาพยนตร์ไทย “สัปเหร่อ”
โดยนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีบางส่วนได้สวมผ้าไทย ทั้งนี้ ก่อนเข้าชมภาพยนตร์ฯ นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะรัฐมนตรีได้ร่วมถ่ายรูปกับผู้กำกับและนักแสดงภาพยนตร์ไทย เรื่อง “สัปเหร่อ” ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างเป็นกันเอง
สำหรับภาพยนตร์ไทย “สัปเหร่อ” เป็นหนังที่มีเนื้อเรื่องซ่อนซอฟต์พาวเวอร์อยู่ในตัวละคร ผ่านวิถีชาวบ้านแบบอีสาน มีอัตลักษณ์เจาะลึกชัดเจนในเรื่องประเพณีงานศพ สร้างสถิติใหม่ให้กับวงการหนังไทย สร้างรายได้ทั่วประเทศทะยานสู่ 500 ล้านบาท หลังเข้าฉายเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2566 และยังคงได้รับกระแสตอบรับจากแฟน ๆ ภาพยนตร์ ตีตั๋วเข้าชมอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ภาพยนตร์เรื่อง “สัปเหร่อ” ยังขึ้นแท่นหนังไทยที่ทำรายได้สูงสุดในรอบ 8 ปี โดยเรื่องนี้จักรวาลไทบ้าน หวังพาหนังสัปเหร่อ หนังอีสานสู่สากลต่อไป
เรื่องย่อ สัปเหร่อ
ภาพยนตร์เรื่องนี้ เป็นผลงานการกำกับของ "ต้องเต ธิติ ศรีนวล" เรื่องราวเกิดขึ้นในหมู่บ้านโนนคูณ เล่าชีวิตของ "เจิด" (นฤพล ใยอิ้ม) หนุ่มวัย 25 ปีที่เรียนจบกฎหมาย หวังไปสอบเป็นทนายหรือปลัดอำเภอ แต่พ่อ (อัจฉริยะ ศรีทา) ที่ทำอาชีพสัปเหร่อมีอาการป่วย เขาจึงต้องมาช่วยทำงานแทน ทั้งที่กลัวผีมาก
อีกด้านหนึ่ง เล่าชีวิต "เซียง" (ชาติชาย ชินศรี) ชายหนุ่มที่ยังทำใจไม่ได้ เพราะแฟนเก่า "ใบข้าว" (สุธิดา บัวติก) ได้เสียชีวิตไป จึงพยายามหาวิธีด้วยการศึกษาทฤษฎีต่างๆ เพื่อที่จะได้พบเธอในโลกหลังความตาย แต่กลับไปพบพ่อของเจิดที่รอการทำพิธีถอดจิตไปโลกความฝัน ซึ่งพ่อเจิดเป็นเพียงคนเดียวที่สามารถทำพิธีถอดจิต เลยนำมาสู่ข้อแลกเปลี่ยน เซียงต้องมาช่วยเจิดทำอาชีพสัปเหร่อ
เช็กรอบหนังสัปเหร่อ >> majorcineplex.com
ขอบคุณข้อมูลจาก