“สันติธาร” ชี้แนวโน้ม 3 เทรนด์ดิจิทัล พลิกโลกเปลี่ยนถาวร

20 ก.ย. 2566 | 17:32 น.
อัปเดตล่าสุด :20 ก.ย. 2566 | 17:49 น.
665

ดร.สันติธาร เสถียรไทย ชี้แนวโน้ม 3 เทรนด์เทคโนโลยีดิจิทัล ยังคงเติบโตและสามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้อย่างถาวร พร้อมแนะนำแนวทางรับมือความเปลี่ยนแปลง

วันนี้ (20 กันยายน 2566) ดร.สันติธาร เสถียรไทย ที่ปรึกษาอาวุโส Global Counsel และอดีตกรรมการผู้จัดการ บริษัท Sea Ltd (Garena, Shopee, SeaMoney) เปิดเผยในงานสัมมนา Thailand Challenge : ความท้าทายประเทศไทย จัดโดยฐานเศรษฐกิจ ว่า เทคโนโลยีดิจิทัลในอนาคตยังคงเติบโตและสามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้ แต่อาจจะเปลี่ยนรูปแบบไปไม่เหมือนเดิม แม้ว่าในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา คนที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีคงเข้าใจดีว่า เป็นหน้าหนาวของเทคโนโลยีก็ตาม

ทั้งนี้มองว่าในช่วงนับจากนี้ จะเกิด 3 เทรนด์ด้านเทคโนโลยีดิจิทัลจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงโลกอย่างถาวร และจะเติบโตได้อย่างแข็งแรงด้วย ประกอบด้วย

เทรนด์ที่ 1 นั่นคือ Digital Inclusion ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งกับการใช้ชีวิตในแต่ละวัน โดยเทคโนโลยีดิจิทัล จะเปลี่ยนจากไม่มีก็ได้ กลายมาเป็นขาดไม่ได้ หรือเทคโนโลยีดิจิทัล จะกลายเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องมีหลังจากผ่านพ้นช่วงเวลาของการระบาดของไวรัสโควิด-19 มาก่อนหน้านี้ ทั้ง การซื้อขายสินค้าออนไลน์ การประชุมออนไลน์ การเรียนออนไลน์ เป็นต้น

 

“สันติธาร” ชี้แนวโน้ม 3 เทรนด์ดิจิทัล พลิกโลกเปลี่ยนถาวร

สำหรับประเทศไทยเองนั้นปัจจุบันพบว่ามีผู้บริโภคดิจิทัลมากถึง 42 ล้านคน ถือเป็นฐานใหญ่และสามารถต่อยอดไปแก้ปัญหาต่าง ๆ ที่มีในประเทศไทยได้ เช่น สร้างระบบนิเวศของการซื้อขายสินค้าผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือ อี-คอมเมิร์ซ และสามารถขยายต่อไปยังเกษตรกรให้เป็นผู้ขายผ่านอี-คอมเมิร์ซได้ หรือ พัฒนาระบบสาธารณสุขให้เป็นการรักษา วินิจฉัยโรคผ่านออนไลน์ได้ เช่นเดียวกับการสนับสนุนการศึกษาผ่านออนไลน์ โดยเฉพาะระดับผู้ใหญ่

“เมื่อเราสามารถก้าวไปสู่การใช้ดิจิทัลเป็นระดับหนึ่งแล้ว มีโอกาสที่จะต่อยอดไปแก้ปัญหาต่าง ๆ ในประเทศไทยอย่างมหาศาล แต่ความท้าทายก็ยังมีอยู่เหมือนกัน เพราะ Digital Inclusion ให้คนเข้าถึงโอกาสมากขึ้น แต่คนที่ยังเข้าไม่ถึงโอกาสก็ยังมีอยู่มากเช่นเดียวกัน จึงจำเป็นต้องเร่งแก้ไข”

 

“สันติธาร” ชี้แนวโน้ม 3 เทรนด์ดิจิทัล พลิกโลกเปลี่ยนถาวร

เทรนด์ที่ 2 นั่นคือ Hybrid Reality นั่นคือ การเปลี่ยนสิ่งที่เคยแปลกด้านเทคโนโลยีดิจิทัล กลายเป็นเรื่องที่ไม่แปลกอีกต่อไป เพราะปัจจุบันเริ่มเห็นเทรนด์ใหม่ด้านเทคโนโลยีดิจิทัลเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งการซื้อขายสินค้าผ่านออนไลน์ การพบปะผ่านออนไลน์ การสร้างตัวตนเสมือนในโลกออนไลน์กลายเป็นสังคมใหม่

“เทรนด์ใหม่ทั้งหมดที่เกิดขึ้นนั้น ก่อให้เกิดอุตสาหกรรมใหม่ที่ขึ้นมาแรง ตัวอย่างเช่น อุตสาหกรรม Creator Economy โดยอินฟลูเอนเซอร์ต่าง ๆ ทั้งนำเที่ยว ดนตรี เกม มีโอกาสเติบโตและเป็นโอกาสอย่างมหาศาล ปัจจุบันมีมูลค่าตลาด อุตสาหกรรม Creator Economy มีมูลค่ามากกว่า 2.5 แสนล้านบาท”

ดร.สันติธาร กล่าวว่า ปัจจุบันมีการพูดถึงเรื่องการส่งเสริมซอฟต์เพาวเวอร์ในประเทศไทย อุตสาหกรรม Creator Economy ถือเป็นช่องทางการส่งเสริมซอฟต์เพาวเวอร์ที่สำคัญมาก ๆ ที่จะนำซอฟต์เพาวเวอร์ของไทยออกไปสู่ตลาดโลก และยังเป็นโอกาสของธุรกิจต่าง ๆ ในการนำเสนอสินค้าผ่านช่องทางนี้ด้วย

 

“สันติธาร” ชี้แนวโน้ม 3 เทรนด์ดิจิทัล พลิกโลกเปลี่ยนถาวร

 

เทรนด์ที่ 3 นั่นคือ AI Revolution หลังจากมีข้อมูลหลั่งไหลเข้าสู่ออนไลน์มากขึ้น ส่งผลให้เทคโนโลยี AI ฉลาดมากขึ้นตามไปได้ ดังนั้นงานต่าง ๆ ที่จะต้องใช้คนอาจไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป นับเป็นคามท้าทายอย่างยิ่งกับโลกในอนาคตกับแนวโน้มการพัฒนาของเทคโนโลยี AI ที่เปลี่ยนไปจาก AI ธรรมดาในปัจจุบัน ตั้งอย่างเช่น ChatGPT จะเข้ามาทำหน้าที่ด้านการวิเคราะห์ข้อมูลได้ดี ซึ่งจะท้าทายความสามารถของผู้ที่เรียนจบสูง ๆ ด้วย

“การมี OpenAI หรือ ChatGPT รุ่นใหม่ ๆ ที่ออกมาสามารถวิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ ออกมา โดยสามารถทำได้ภายในเวลาไม่ถึง 1 นาที ดังนั้นคนที่อยู่ในอาชีพ Consultant หรือ ที่ปรึกษาทางธุรกิจ จึงน่ากลัวว่าจะถูกแทนที่ได้”

ดร.สันติธาร ยอมรับว่า เทรนด์เทคโนโลยีดิจิทัล ทั้ง 3 ด้านนั้น จะเสริมกันและกัน ยิ่งคนอยู่ในโลกออนไลน์มาก มีข้อมูลเข้าไปมาก AI จะยิ่งเก่ง ยิ่ง AI เก่ง จะยิ่งทำใคนอยากอยู่ในโลกออนไลน์และโลกเสมือนจริงมากขึ้นตามไปด้วย ทั้งหมดนี้เชื่อว่าจะทำให้โลกของเราเปลี่ยนไปอย่างถาวรอย่างแน่นอน