ไทย-เอฟตา ถกเข้ม FTA รอบ 6 คืบหน้าดีตามเป้า มั่นใจปิดดีลกลางปี 67

18 ก.ย. 2566 | 14:47 น.
อัปเดตล่าสุด :18 ก.ย. 2566 | 14:52 น.

พาณิชย์ ชี้ FTA ไทย-เอฟตา รอบที่ 6 คืบหน้าตามเป้า นัดประชุมอีก 3 รอบ ตั้งเป้าสรุปผลกลางปี 67 เชื่อจะส่งผลให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวเพิ่ม สินค้าไทยทั้งข้าว ข้าวโพดหวาน อาหารสำเร็จรูป อาหารสุนัขและแมว ผลไม้เมืองร้อน มีโอกาสขยายตลาด ส่วนสาขาบริการได้ประโยชน์เพียบ

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรี (FTA) ระหว่างไทยกับสมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป หรือ เอฟตา (European Free Trade Association: EFTA) รอบที่ 6 ระหว่างวันที่ 12-15 กันยายน ที่ผ่านมา ณ กรุงเทพฯ โดยการเจรจารอบนี้ มีความคืบหน้าด้วยดี ซึ่งทั้งสองฝ่ายตั้งเป้าปิดรอบการเจรจาภายในกลางปี 2567

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ

ทั้งนี้การเจรจารอบนี้ ประกอบด้วย การประชุมระดับหัวหน้าคณะผู้แทน ซึ่งตนเป็นประธานร่วมกับนายมาร์คัส สลาเกนฮอฟ เอกอัครราชทูตผู้แทนสมาพันธรัฐสวิสด้านความตกลงการค้า และหัวหน้าฝ่ายการค้าโลก 

ภายใต้คณะกรรมการกิจการเศรษฐกิจต่างประเทศ หัวหน้าทีมฝ่ายเอฟตา เพื่อติดตามและกำกับความคืบหน้าการเจรจาในภาพรวม และการประชุมกลุ่มย่อยผู้เชี่ยวชาญ 11 คณะ ได้แก่ 1) การค้าสินค้า 2) มาตรการเยียวยาทางการค้า 3) มาตรการสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช 4) การค้าบริการ 5) การลงทุน 6) การจัดซื้อจัดจ้างโดยรัฐ

ไทย-เอฟตา ถกเข้ม FTA รอบ 6  คืบหน้าดีตามเป้า มั่นใจปิดดีลกลางปี 67

7) ทรัพย์สินทางปัญญา 8) การค้าและการพัฒนาที่ยั่งยืน 9) ข้อบททั่วไป ข้อบทสุดท้าย ข้อบทเชิงสถาบัน และการระงับข้อพิพาท 10) ความร่วมมือด้านเทคนิคและการเสริมสร้างศักยภาพ และ 11) วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายวางแผนจะจัดการประชุมอีก 3 ครั้ง ในเดือนพฤศจิกายน 2566 เดือนมกราคมและมีนาคม 2567 เพื่อมุ่งสู่การสรุปผลเจรจาภายในกลางปี 2567

 

ไทย-เอฟตา ถกเข้ม FTA รอบ 6  คืบหน้าดีตามเป้า มั่นใจปิดดีลกลางปี 67

สำหรับผลการศึกษาประโยชน์และผลกระทบจากการจัดทำ FTA ไทย-เอฟตา คาดจะส่งผลให้ GDP ไทยขยายตัวเพิ่มขึ้น 0.20% และการส่งออกเพิ่มขึ้น 3.8% (ประมาณ 142.45 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) สินค้าที่ไทยมีโอกาสขยายตลาดได้มากขึ้น อาทิ ข้าว ข้าวโพดหวาน อาหารสำเร็จรูป อาหารสุนัขและแมว ผลไม้เมืองร้อน ส่วนสาขาบริการที่ได้ประโยชน์ อาทิ การท่องเที่ยว การเงิน โทรคมนาคม การแพทย์/สุขภาพ พลังงานสะอาด และด้านวิชาชีพ

ทั้งนี้ สมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป (เอฟตา) เป็นคู่ค้าอันดับที่ 14 ของไทย โดยในช่วง 7 เดือน (ม.ค.-ก.ค. 2566) การค้าระหว่างไทยและเอฟตา มีมูลค่า 5,337.13 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยไทยส่งออกไปเอฟตา มูลค่า 2,504.37 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และไทยนำเข้าจากเอฟตา มูลค่า 2,832.76 ล้านดอลลาร์สหรัฐ  สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ อัญมณีและเครื่องประดับ นาฬิกาและส่วนประกอบ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ และเครื่องใช้สำหรับเดินทาง และสินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ เครื่องเพชรพลอย อัญมณี เงินแท่งและทองคำ นาฬิกาและส่วนประกอบ และเนื้อสัตว์สำหรับการบริโภค