“สุชาดา” อดีตแม่ทัพใหญ่แม็คโคร นั่งประธานคุมธุรกิจใหม่ “เซ็นทรัล”

หลังจากที่บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ซีอาร์ซี ประกาศตั้งบริษัทย่อยใหม่ “บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด โฮลเซลล์ จำกัด” หรือ CFW ขึ้นเพื่อประกอบกิจการค้าส่ง (Wholesale)  โดยเฉพาะ  และมีทุนชำระแล้ว 1 ล้านบาท โครงสร้างการถือหุ้น โดยบริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ถือหุ้น 99.99% (บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด เรีเทล จำกัด ถือหุ้นโดยบริษัทฯ 100%) เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2565  

คณะกรรมการบริษัท ประกอบด้วย

1. นายทศ จิราธิวัฒน์
2. นายปริญญ์ จิราธิวัฒน์
3. นางสาวจริยา จิราธิวัฒน์
4. นายณรงค์ฤทธิ์ จิราธิวัฒน์
5. นางสุกัญญา พร้อมพันธ
6. นางสาวสุกุลยา เอื้อวัฒนะสกุล
7. นายญนน์ โภคทรัพย์
8. นางสุชาดา อิทธิจารุกุล
9. นายปริวัต โสภาษิต

ถือเป็นการประกาศขยายธุรกิจฟอร์มแมทใหม่ เต็มรูปแบบจากปัจจุบันที่มีทั้ง กลุ่มแฟชั่น อาทิ ห้างเซ็นทรัล, ห้างโรบินสัน ฯลฯ กลุ่มฮาร์ดไลน์  อาทิ ไทวัสดุ, เพาเวอร์บาย, บีทูเอส ฯลฯ และกลุ่มฟู้ด ทั้ง Tops, Tops Fine Food, Tops CLUB เป็นต้น

ล่าสุด ในวันที่ 14 กันยายน 2566 นี้ บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) CRC เตรียมเปิดตัว บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด โฮลเซลล์ จำกัด  เพื่อดำเนินธุรกิจค้าส่งอย่างเป็นทางการ นำโดย  3 ผู้บริหารระดับสูง ได้แก่ นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน),

นางสุชาดา อิทธิจารุกุล ที่ก้าวเข้ามารับตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารประจำประเทศไทยและต่างประเทศ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด โฮลเซลล์ จำกัด  ดูแลด้านกลยุทธ์และแผนการดำเนินงาน และนายริคาโด้ โบอารอตโต้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารประจำประเทศไทย บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด โฮลเซลล์ จำกัด                                     

ทั้งนี้ “นางสุชาดา อิทธิจารุกุล” อดีตเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) หญิงคนแรกของ “แม็คโคร” ที่ขับเคลื่อนและสร้างให้แม็คโครและธุรกิจค้าส่งเกิดขึ้นในเมืองไทยเป็นเวลากว่า 26 ปี ด้วยกลยุทธ์การรุกเจาะกลุ่มโฮเรก้า (HoReCa) ทั้งธุรกิจโรงแรม(Hotel)  ร้านอาหาร (Restaurant)  และธุรกิจจัดเลี้ยง (Catering) นอกจากการให้บริการ B2B แบบเต็มรูปแบบ แม็คโครยังขยายสาขาและบริการในกลุ่มลูกค้ารายย่อย โดยจำหน่ายทั้งสินค้าอาหารสด อาหารแห้ง และสินค้าอุปโภค

“สุชาดา” ถือเป็นหนึ่งในผู้อยู่เบื้องหลังดีลการควบรวมธุรกิจระหว่าง “แม็คโคร” และ “โลตัสส์” ด้วยเป้าหมายที่วางไว้คือ “แม็คโคร” เบอร์ 1 ในธุรกิจค้าส่ง และ “โลตัสส์” (ชื่อใหม่หลังการควบรวม) เป็นเบอร์ 1 ในธุรกิจค้าปลีก  

อาณาจักร “แม็คโคร” ขยายตัวครอบคลุมทั้งในไทยและต่างประเทศ โดยมีสาขารวม 2,829 สาขา แบ่งเป็น ไทย 2,760 สาขา ต่างประเทศ 69 สาขา ทั้งในกัมพูชา  อินเดีย (ภายใต้ชื่อ LOTS Wholesale Solutions)  จีนและเมียนมา   โดยในปี 2564  แม็คโครมีรายได้รวม 266,435 ล้านบาท กำไรสุทธิ 13,687 ล้านบาท แต่หลังการปรับโครงสร้าง “แม็คโคร” ใหม่ “สุชาดา” ตัดสินใจวางมือและประกาศลาออกจาก “แม็คโคร” เมื่อวันที่ 1 พ.ค. 2565 ที่ผ่านมา ก่อนที่จะโยกมาอยู่กับเซ็นทรัลในปลายปีเดียวกัน

ชั่วโมงนี้ “สมรภูมิค้าส่ง” เมืองไทยระอุไม่แพ้ “ธุรกิจค้าปลีก” ที่ยังต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิด