CRC ทุ่มลงทุน 1.5 แสนล้านใน 5 ปี ขึ้นเบอร์ 1 ค้าปลีก 3 ประเทศ

หลังจากปี 2565 ที่ผ่านมาเซ็นทรัล รีเทล ได้ประกาศยุทธศาสตร์ 5 ปี CRC Retailligence ขยายพอร์ตธุรกิจทั้งในไทย เวียดนาม และอิตาลี ครอบคลุมทุกกลุ่มธุรกิจ ได้แก่ ฟู้ด แฟชั่น ฮาร์ดไลน์ พร็อพเพอร์ตี้ และเฮลธ์แอนด์เวลเนสจนสามารถสร้างรายได้รวมเติบโตมากกว่า 20% เกินเป้าที่ตั้งไว้ ในปีนี้ เซ็นทรัล รีเทล ยังคงใช้เดินตามยุทธศาสตร์ CRC Retailligence อย่างเข้มข้นผ่านการลงทุนด้วยเม็ดเงินกว่า  28,000 ล้านบาท คาดว่าจะสร้างรายได้รวม 270,000 ล้านบาท เติบโตมากกว่า 15% จากปี 2565

นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC เปิดเผยว่า ในปี 2566  ภาคค้าปลีกและบริการในทั้ง 3 ประเทศ เริ่มมองเห็นสัญญาณบวกจากเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวที่กลับมาคึกคัก การเปิดประเทศของจีน รวมถึงกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ฟื้นตัว โดยเซ็นทรัล รีเทล วางลงทุน 28,000 ล้านบาทสำหรับขับเคลื่อนธุรกิจตามยุทธศาสตร์ CRC Retailligence ที่เพิ่มความเข้มข้นยิ่งขึ้น เพื่อปูทางเป็นเบอร์ 1 Next-Gen Omni Retailer ของเอเชีย 

พร้อมกันนี้ยังเตรียมสร้างการเติบโตในประเทศเวียดนามอย่างก้าวกระโดด ด้วยการขยายโมเดลธุรกิจฟู้ดและศูนย์การค้า GO! ที่แข็งแกร่ง ควบคู่กับการดำเนินธุรกิจบนความยั่งยืน เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ในปี 2593 ตามเจตนารมณ์การเป็น Green & Sustainable Retail องค์กรค้าปลีกต้นแบบด้านความยั่งยืนรายแรกในประเทศไทย ผ่านใต้กลยุทธ์ The Next Sustainable Growth ใน 4ส่วนคือ

1. Accelerate Core Leadership – เร่งสร้างการเติบโตของกลุ่มธุรกิจหลักในทั้ง 3 ประเทศ โดยใช้ประโยชน์จากเครือข่ายห้างสรรพสินค้าลักชูรี่ในยุโรปต่อยอดธุรกิจกลุ่มแฟชั่นและรีโนเวทสาขาอย่างต่อเนื่องรวมทั้งเปิดห้างสรรพสินค้าโรบินสัน อีก 2 สาขา ในปีนี้ ,ขยายสาขาใหม่ของไทวัสดุ และไทวัสดุ ไฮบริด ฟอร์แมท 10 สาขา ,ดันแบรนด์ Tops ขึ้นเป็น Food Discovery & Destination และ เบอร์ 1 Food Omni Retailer ด้วยการขยายสาขา Tops รวมอีก 15 สาขาในเวียดนามในปีนี้

ขยายและรีโนเวทศูนย์การค้าโรบินสัน ไลฟ์สไตล์และเปิดเพิ่มอีก 1 สาขาในไทย รวมทั้งก่อสร้างศูนย์การค้า GOในเวียดนาม 6-8 สาขา ในปี 2567  ควบคู่ไปกับการสร้างฐานการเงินบนกลยุทธ์ 3C คือ Cost บริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายให้มีประสิทธิภาพสูงสุด, Capex เน้นการลงทุนให้เกิดประโยชน์สูงสุดใน Strategic Business ขยาย Proven Format และ Cash Flow ขยายขีดความสามารถในการจัดการเงินทุนหมุนเวียน เพิ่มกระแสเงินสด

2. Reinvent Next-Gen Omni Retail - ยกระดับ CRC Ecosystem ให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น โดยใช้เทคโนโลยีและระบบต่างๆ ที่ดีที่สุดจากทั่วโลก มาสร้างการเติบโตแบบ Inclusive Growth บนแพลตฟอร์ม Next-Gen Omni Retail  3. Build New Growth Pillars – เปิดตัวธุรกิจขนาดใหญ่ ในประเทศไทยและเวียดนาม 4. Drive Partnership, Acquisition and Spin Off – ร่วมมือกับพันธมิตรและการทำ M&A พร้อมนำ MEB เบอร์ 1 แพลตฟอร์ม E-Book เข้าตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เสนอขายหุ้น IPO แก่ประชาชนทั่วไป ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2566 นี้

“ทั้ง 4 กลยุทธ์นี้จะทำให้เซ็นทรัล รีเทลสามารถเติบโตสู่ The Next Sustainable Growth และคาดว่าจะสร้างรายได้รวมในปี 2566 ราว 270,000 ล้านบาท เติบโตมากกว่า 15% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา นอกจากนี้เรายังตั้งเป้าเป็น Green & Sustainable Retail ผ่าน 4 กลยุทธ์ ‘ReNEW’ ในปี 2566 นี้จะนำพลังงานสะอาดและพลังงานหมุนเวียนมาใช้ในกลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ให้ได้ 30%, ลดปริมาณขยะสู่หลุมฝังกลบ 10% และลดการใช้น้ำ 10%, เพิ่มการจำหน่ายสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเป็นสัดส่วน 20% ของสินค้าทั้งหมด และเพิ่มพื้นที่สีเขียวจากการปลูกป่าอีก 5,000 ไร่ เพื่อช่วยดูดซับก๊าซเรือนกระจก”