ภาคเกษตร จี้ "ธรรมนัส" สางปัญหา "น้ำนม-ยาง- ประมง-ชาวนา" (คลิป)

วันที่ (2 ก.ย.) เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ พระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ความว่า พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 22 สิงหาคม พุทธศักราช 2566  แล้วนั้น

บัดนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้เลือกสรรผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณา โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งรัฐมนตรี ซึ่งหนึ่งเชื่อว่าเกษตรกรทั้งประเทศให้ความสนใจก็คือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้แก่ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมกับ 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้แก่ นายไชยา พรหมา และนายอนุชา นาคาศัย  ซึ่งองค์กรต่างๆ นั้นมีความคิดเห็นอย่างไร กับ “ครม.เศรษฐา 1”

เริ่มจาก นายนัยฤทธิ์ จำเล ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติและประธานชุมนุมสหกรณ์โคนมแห่งประเทศไทย  เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ผมในฐานะประธานสภาเกษตรกรฯ ซึ่งเป็นผู้แทนเกษตรกร องค์กร 18 ล้านครัวเรือน ขอแสดงความยินดีกับ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมกับ 2 รัฐมนตรีช่วยฯ ได้แก่ นายไชยา พรหมา และนายอนุชา นาคาศัย จะต้องร่วมทำงานกับพวกท่านอีกหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อนทั้งน้ำท่วม ภัยแล้ง  ผลิตมาแล้วไม่มีตลาด รองรับทำให้ประสบปัญหาด้านราคา และอื่นๆอีกมากมาย

“ผมคิดว่าท่านธรรมนัส เคยมีประสบการณ์เป็นรัฐมนตรีช่วยฯว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มาก่อน ผมมั่นใจว่าท่านจะนำพาพี่น้องเกษตรกรไปในทางที่ดีและผมพร้อมที่จะทำงานกับท่าน หลังจากได้รับตำแหน่งแล้วที่จะขอเข้าพบในเร็วๆ นี้ แต่อย่างไรก็ดี ผมในฐานะประธานชุมนุมฯ อยากจะฝากเรื่องที่ติดค้างอยู่การปรับราคาน้ำนมดิบ 2.25 บาท/กก. ซึ่งค้างอยู่ตั้งแต่รัฐบาลที่แล้วและที่สอบถามทางกระทรวงเกษตรฯแล้วเพียงแค่รัฐมนตรีฯลงนาม เข้า ครม.ได้เลย อยากจะขอให้เข้าเป็นสัปดาห์แรกในการประชุมครม.ทันทีเลย เพราะวันนี้เกษตรกรเลิกเลี้ยงโคนมไปเป็นจำนวนมาก อยากให้ท่านช่วยผลักดันเป็นพิเศษ เร่งด่วน”

เช่นเดียวกับนายถนอมเกียรติ ยิ่งฉ้วน ที่ปรึกษาประธานเครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางแห่งประเทศไทย  เผยว่า จากปัญหาราคายางตกต่ำมาอย่างต่อเนื่อง ทางเครือข่ายได้ขอให้แก้ปัญหาราคายางแบบยั่งยืน ได้แก่ 1.ส่งเสริมทำผลิตภัณฑ์ยางใช้ในประเทศมากที่สุด

2.ตลาดซื้อขายยางส่งมอบจริง เพราะในอดีตที่ผ่านมาตลาดซื้อขายส่งมอบจริงไม่มีอยู่ในโลกนี้ราคาซื้อขายยางของไทยจะไปอิงราคาตลาด SICOM TOCOM เป็นหลัก ทั้งที่ตรงนั้นเป็นเสือกระดาษ ไม่ใช่เป็นตลาดส่งมอบจริง ให้ผู้ใช้ทั่วโลกสามารถมาประมูลยาง สามารถส่งมอบโดยตรงไม่ต้องผ่านหลายขั้นตอน ก็อยากให้รัฐบาลผลักดันในเรื่องนี้

3. อยากเห็นการใช้บังคับการใช้ยางพาราเพิ่มการทำถนน แบริเออร์ รวมทั้งกระทรวงสาธารณะสุข มีการใช้หมอน ที่นอน ยางพารา ถูกบรรจุไว้ในโรงพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศ 

4.อยากเห็นศูนย์ยางล้อแห่งชาติเกิดขึ้นทั่วประเทศ ที่สามารถใช้ได้จริงก็คือ ศูนย์หน่วยราชการทั่วประเทศ ประเมินว่าไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้อยางต่อปีที่ใช้ เพราะฉะนั้นหากรัฐบาลเอาจริงเอาจัง แล้วมาซื้อวัตถุดิบจากเกษตรกรโดยตรงจากสถาบันเกษตรกรก็จะช่วยสามารถรักษาราคายางแบบยั่งยืนได้

เช่นเดียวกับ นายมงคล สุขเจริญคณา ประธานสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย  กล่าวว่า ส่วนตัวชื่นชมคุณธรรมนัส มีความรู้ความสามารถที่จะช่วยพลิกโฉมภาคเกษตรไทย มีนโยบายขับเคลื่อนมีความทันสมัย สอดคล้องกับสถานการณ์โลก และการที่ได้มานั่งรัฐมนตรีว่าการฯ ทางสมาคมแฮ้ปปี้ เพราะท่านเคยเป็นรัฐมนตรีช่วยเกษตรฯ มาก่อน สมัยรัฐบาลที่แล้ว ทางสมาคมเคยได้ไปหารือซึ่งท่านเองก็มีนโยบายชัดเจนที่จะแก้ปัญหาให้กับชาวประมง แต่ท่านไม่ได้รับผิดชอบในการกำกับดูแล แต่คราวนี้เป็นนโยบายของรัฐบาล และท่านก็ได้รับปากว่าจะแก้ให้ ซึ่งก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร โดยเฉพาะร่าง พ.รก.การประมงฯ ที่เคยผ่านสภาไปแล้ว ให้กลับนำมาพิจารณาเร่งด่วนก่อนได้ทันที คาดว่าจะใช้ระยะเวลาไม่นาน ไม่ยากอะไร

ปิดท้าย นายปราโมทย์  เจริญศิลป์ นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย  กล่าวว่า ทางสมาคมก็ขอแสดงความยินดี และพร้อมที่จะทำงานร่วมกับรัฐมนตรีว่ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์คนใหม่ ในเร็วๆนี้จะขอเข้าพบและได้นำนโยบายของสมาคมไปให้พิจารณา ฝากไว้ 5 ข้อ เพื่อเป็นของขวัญแก่พี่น้องเกษตรกรชาวนา  ได้แก่ 1. แหล่งน้ำ 2.เมล็ดพันธุ์ข้าว  3.พักหนี้เกษตรกรทั้งต้นและดอก 3-5 ปี 4.ลดต้นทุนการผลิต ปุ๋ย ยา น้ำมัน ราคาสูงให้หาวิธีช่วยเหลือเกษตรกร และ 5.สวัสดิการชาวนา หลังอายุ 60 ปี ขอเดือนละ 3,000 บาท เบี้ยบำนาญอาชีพชาวนาให้หลังเกษียนเหมือนข้าราชการ เพื่อไม่ให้เป็นภาระแก่ลูกหลาน

ชีวิตนอกสภาของ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า