สมาคมผู้ค้าฯ ชูสมการกดราคาทุเรียนต่ำ หนุนส่งออกแสนล้าน

20 ส.ค. 2566 | 18:55 น.
อัปเดตล่าสุด :20 ส.ค. 2566 | 18:55 น.

สมาคมผู้ค้าและส่งออกผลไม้ไทย ชูสมการกดราคาทุเรียนต่ำ หนุนส่งออกแสนล้าน ระบุตลาดจีนยังต้องการอยู่มาก แนะปรับตัวรับมือคู่แข่ง รักษาคุณภาพ สร้างความยั่งยืน

นายสัญชัย ปุรณะชัยคีรี นายกสมาคมผู้ค้าและส่งออกผลไม้ไทย แนวโน้มตลาดผลไม้ กล่าวในงานเสวนาหัวข้อ การส่งออกผักผลไม้ไทย "แสนล้าน" สู่ตลาดโลก : เงื่อนไข กฎระเบียบ และแนวโน้มการส่งออก ว่า สมาคมฯ มีการทำการตลาดส่งออกทุเรียนมานานกว่า 30 ปี โดยในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมานี้ พบสิ่งที่เปลี่ยนไปคือตลาดโตขึ้นอย่างนึกไม่ถึง เดิมทุเรียนราคากิโลกรัมละ 25-35 บาท ตอนนี้หลุดโลกไปถึง 100-200 บาท 

นายสัญชัย ปุรณะชัยคีรี นายกสมาคมผู้ค้าและส่งออกผลไม้ไทย

ขณะที่ประเทศไทยมีทุเรียนส่งออก 2 ภาค ได้แก่ ภาคตะวันออก และภาคใต้ อย่างไรก็ตาม ภาคตะวันออกได้เปรียบกว่าภาคใต้ เพราะเป็นทุเรียนต้นปี อยู่ในช่วงที่ผลไม้จีนยังไม่ออก ทำให้ไม่มีคู่แข่งในตลาดผลไม้ ส่วนภาคใต้ ผลผลิตออกช่วงเข้าฤดูร้อน จีนมีผลไม้ในท้องถิ่น

"2 ภาคที่ส่งออกสู่ตลาดจีนได้เปรียบเสียเปรียบต่างกันมาก ฉะนั้น เมื่อช่วงภาคตะวันออก ทุเรียนราคาเริ่มที่กิโลกรัมละ 100 บาท ไปจบที่ 120-130 บาทต่อกิโลกรัม และปัจจุบันค่าเฉลี่ยส่งออกทุเรียนไปจีน 1.5 หมื่นตันต่อวัน สาเหตุที่ยังส่งออกไปจีนได้ เนื่องจากตลาดที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง มีโอกาสที่จะถึงแสนล้านบาท"

อย่างไรก็ดี จะต้องมีตัวสนับสนุน เช่น ความปลอดภัยการผลิตตามพื้นฐาน GIP และ GNP เป็นต้น ขณะเดียวกันประเทศคู่แข่งอย่างเวียดนามประมาทไม่ได้ แต่ขณะนี้ไทยยังไม่ได้รับผลกระทบ แสดงให้เห็นว่าตลาดทุเรียนในจีนยังมีปริมาณความต้องการเยอะอยู่ 

ทั้งนี้ หากคิดสมการราคากิโลกรัมละ 120 บาท ยังสามารถส่งออกได้สูงอยู่ หากทำให้ราคาต่ำลงมาเหลือ 80 บาทอาจจะเพิ่มจำนวนให้ฐานคนจีนกินทุเรียนเพิ่มได้มากขึ้น 30-40% ก็สร้างมูลค่าเพิ่มได้หลายพันล้านบาท 

"สิ่งที่จะโตต่อไปได้คือคุณภาพของสินค้าไทย และความปลอดภัย รวมทั้งการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี เป็นสิ่งที่กังวล เพราะเรามีการส่งของไปจีนต่อวันจำนวนมาก และต้องมีการเตรียมรับมือ กรมวิชาการเกษตรจะต้องปรับตัวรับมือให้ทัน และมองว่าสินค้าทุเรียนส่งออกตลาดยังอีกไกล ต้องแข่งกับคู่แข่งให้ได้ เกษตรกรต้องรักษาคุณภาพทุเรียน เพื่อสร้างความยั่งยืนต่อไป และนำไปสู่การส่งออกแสนล้านบาท"