ท่องเที่ยวฟื้นตัวหนุนกำไร "ไมเนอร์" ไตรมาส 2 ทะลุ 3 พันล้านบาท

14 ส.ค. 2566 | 13:52 น.
อัปเดตล่าสุด :14 ส.ค. 2566 | 14:42 น.

อานิสงส์ “อุตสาหกรรมท่องเที่ยว” ฟื้นตัวหนุนกลุ่มธุรกิจโรงแรมและร้านอาหารไมเนอร์ เติบโตแข็งแกร่ง ฟาดกำไรไตรมาส 2/2566 สูงถึง 3.0 พันล้านบาท เติบโตกว่าช่วงเดียวกันของปีการระบาดของโรค COVID-19 ถึง 52 %

บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) (“MINT”) เป็นอีกหนึ่งเครือธุรกิจที่ได้รับแรงบวกการอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวหลังโควิดอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งส่งผลต่อเนื่องกลุ่มธุรกิจโรงแรมและร้านอาหารในเครือ ไมเนอร์ ทั่วโลกเติบโตอย่างต่อเนื่องเนื่อง สะท้อนผ่านผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 2 ปี 2566 โดยมีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานจำนวน 3.0 พันล้านบาท ฟื้นตัวจากทั้งช่วงเดียวกันของปีก่อน148 % และช่วงเดียวกันของปีการระบาดของโรค COVID-19 ที่ 52 %

ท่องเที่ยวฟื้นตัวหนุนกำไร "ไมเนอร์" ไตรมาส 2 ทะลุ 3 พันล้านบาท โดยหากย้อนกลับมาดูแต่ละธุรกิจจะพบว่า ไมเนอร์ โฮเทลส์ มีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานเติบโตมากกว่า 2 เท่า จากการฟื้นตัวของความต้องการในการเดินทางในทุกภูมิภาค ส่งผลให้กำไรสุทธิจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นในไตรมาส 2 ปี 2566 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่120% หรือ 2.6 พันล้านบาท โดยมีแรงหนุนคือฤดูการเดินทางในทวีปยุโรป โดยเฉพาะความต้องการเดินทางเพื่อท่องเที่ยวและเพื่อธุรกิจในทุกกลุ่มลูกค้า ส่งผลให้โรงแรมที่บริษัทเป็นเจ้าของในทวีปยุโรปและลาตินอเมริกามีอัตราการเข้าพักเฉลี่ย อยู่ที่ 72% และราคาค่าห้องพักเฉลี่ยที่สูงขึ้นถึง 18% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

ส่วนโรงแรมในภูมิภาคอื่นมีผลประกอบการที่ดีจากการฟื้นตัวของความต้องการการเดินทางเช่นเดียวกัน นำโดยประเทศไทยที่มีอัตราการเติบโตของรายได้เฉลี่ยต่อห้องต่อคืนอยู่ที่ 62% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากปัจจัยหนุนจากการเดินจากการเดินทางทั่วโลกที่เติบโตประกอบกับกลยุทธ์ทางการตลาดและการกำหนดราคาห้องของ MINT ส่งผลให้รายได้เฉลี่ยต่อห้องต่อคืนเติบโตที่  21% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ท่องเที่ยวฟื้นตัวหนุนกำไร "ไมเนอร์" ไตรมาส 2 ทะลุ 3 พันล้านบาท

ขณะที่ กลุ่มไมเนอร์ ฟู้ด มีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น รวมถึงยอดขายรวมทุกสาขาและยอดขายต่อร้านเติบโตกว่า 2 หลักหรือกว่า 427 ล้านบาท ในไตรมาส 2 ปี 2566 โดยความสามารถในการทำยอดขายต่อร้านของร้านอาหารในประเทศไทยเติบโตกว่าอัตรา 12% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากกลยุทธ์การตลาดไวรัลมาร์เก็ตติ้ง และผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่มีอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่การฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญของร้านอาหารในประเทศจีนจากการยกเลิกมาตรการปิดเมืองและสามารถนั่งรับประทานในร้านได้ส่งผลให้ยอดขายต่อร้านในไตรมาส 2 ปี 2566 ในจีนเพิ่มสูงขึ้นถึงอัตรา 40% จากไตรมาส 2 ปี 2565

 

"ผลกำไรสุทธิจากการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของบริษัทในไตรมาส 2 ปี 2566 ไม่เพียงแต่เป็นผลจากการเติบโตของรายได้ในส่วนของโรงแรมที่มากจากราคาค่าห้องพักเฉลี่ยที่สูงขึ้น และจากการเติบโตของยอดขายต่อร้านในส่วนของกลุ่มร้านอาหาร แต่ยังมีเป็นส่วนจากความสำเร็จในการบริหารเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและผลการดำเนินงานในทุกกลุ่มธุรกิจเช่น โรงแรม ร้านอาหาร และส่วนสำนักงาน ส่งผลให้อัตราทำกำไรสุทธิในไตรมาส 2 ปี 2566 เติบโต 7.4 % จาก 3.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน"

 

อย่างไรก็ตาม "ไมเนอร์" ยังคงมีแผนสร้างความแข็งแกร่งให้กับฐานะทางการเงินด้วยเงินสดในมือ2.2 หมื่นล้านบาท และวงเงินสินเชื่อ 3.1 หมื่นล้านบาท ในส่วนของอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิที่ 1.09 เท่า ต่ำกว่าระดับที่ MINT กำหนดเกณฑ์ภายในบริษัทที่ 1.30 เท่า และต่ำกว่าเงื่อนไขของพันธสัญญาหนี้ที่ 1.75 เท่า กลยุทธ์ดังกล่าวจะส่งผลให้ MINT ได้รับประโยชน์สูงสุดจากต้นทุนการเงินรวมถึงเพิ่มความสามารถในการขยายธุรกิจเพื่อความยั่งยืนทางการเงินในอนาคตต่อไป

 นายดิลลิป ราชากาเรีย  ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มของ MINT นายดิลลิป ราชากาเรีย  ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มของ MINT เปิดเผยว่า “ความต้องการของผู้บริโภคยังคงฟื้นตัวยังแข็งแกร่งจะส่งผลให้ในครึ่งปีหลังของปี 2566 รวมถึงปี 2567 ไมเนอร์ยังคงเติบโตได้อย่างดีต่อเนื่อง จากจำนวนเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้นเป็นผลให้การเดินทางไปยังจุดหมายต่างๆ ในยุโรปเพิ่มขึ้นสูงกว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาทวีปยุโรปช่วงก่อนการระบาดของโรค COVID-19

 

โดย ไมเนอร์ โฮเทลส์ ในยุโรปจะได้รับอนิสงค์จากการเดินทางดังกล่าว กลยุทธ์ในการเลือกทำเลของโรงแรมและโปรแกรมความภัคดีที่มอบสิทธิพิเศษให้กับสมาชิกยังสนับสนุนการเติบโตของการเดินทางเพื่อธุรกิจและท่องเที่ยวสำหรับปลายฤดูร้อนและต้นฤดูใบไม้ผลิของทวีปยุโรปอีกด้วย นอกจากนี้ไตรมาส 4 ยังเป็นช่วงฤดูการที่ดีของธุรกิจโรงแรมในทวีปเอเชีย ส่งผลให้มีความต้องการการเดินทางของกลุ่มนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะจาก สหรัฐอเมริกา ยุโรป และกลุ่มลูกค้าตลาดบนจากตะวันออกกลางอีกด้วย”