ปับลิซิส กรุ๊ป พลิกบทบาทจากเอเจนซี่ สู่ Full-Funnel Partner For Brands

ยุคโควิดที่ผ่านมาหนึ่งในอีโคซิสเต็มที่เห็นภาพการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนคือ “การสื่อสารที่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป” เป็นจุดบังคับให้อุตสาหกรรม “มีเดียเอเจนซี่” จำเป็นต้องปรับตัวเพื่อสร้างมูลค่าให้กับลูกค้าผ่านการสื่อสารให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว 

เมื่อไม่นานมานี้ ปับลิซิส กรุ๊ป ประเทศไทย เครือเอเจนซี่ด้านการสื่อสารการตลาดชั้นนำของประเทศไทย ลุกขึ้นประกาศจุดยืนการเป็น “เดอะ เบสท์ ฟูล ฟันเนล คอมเมิร์ซ พาร์ทเนอร์ ฟอร์ แบรนด์ส” (The Best Full-Funnel Commerce Partner For Brands) ภายใต้กลยุทธ์การสื่อสารแบบ Growth Loop เพื่อให้ทันกับโลกในยุคปัจจุบันรวมถึงการเตรียมพร้อมสู่อนาคต โดยนำองค์ความรู้ นวัตกรรม เทคโนโลยีต่างๆมาปรับใช้ ไม่ว่าจะเป็นการอัพสกิล รีสกิลและรีเลิร์น

ซึ่งผู้บริหารอย่าง “ภารุจ ดาวราย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม ปับลิซิส กรุ๊ป ประเทศไทย” เปิดเผยภาพของอุตสาหกรรมมีเดียเอเจนซี่ และจุดยืนใหม่ของ ปับลิซิส กรุ๊ปว่า วงการเอเจนซี่เห็นสัญญาณการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ยุคก่อนโควิด แต่มีอิมแพคที่ชัดขึ้นในช่วงโควิด ทุกอย่างสามารถทำบนมือถือทำให้คนเข้าสู่โหมดไฮบริด ทำให้ผู้เล่นในวงการโฆษณาตระหนักว่า “ทำแบบเดิมไม่ได้และบังคับให้ต้องเปลี่ยน คนที่เปลี่ยนไม่ทันหรือไม่คิดที่จะเปลี่ยนก็พังลงไป” 

ดังนั้นหน้าที่ของเอเจนซี่โฆษณาและปับลิซิส คือ ปรับfuture business basing หนึ่งในนั้นคือการต้องเป็นพาร์ทเนอร์กับลูกค้าในระดับ Full-Funnel  จึงเป็นที่มาของการมุ่งไปสู่ The Best Full-Funnel Commerce Partner For Brands ซึ่ง ปับลิซิสพยายามทำให้ Network ที่มีสามารถทำงานร่วมกันได้ เพราะต้องยอมรับปัจจุบันการซื้อขายเกิดขึ้นได้ทุกที่ ทุกเวลากับทุกคน ดังนั้นหน้าที่AD  Agency หรือ Media Agency  ในยุคปัจจุบันคือนำการสื่อสารมาช่วยสร้างอิทธิพลในการตัดสินใจทุกที่ทุกเวลา เพื่อนำไปสู่การซื้อขายและใช้บริการ ทำให้ขอบเขตการทำงานของเอเจนซี่ขยายกว้างมากขึ้นทั้งการสร้าง Activity หรือ Connection ต่างๆ

“การที่เราจากเปลี่ยนตัวเองให้เป็น Full-Funnel จะต้องมีคนที่ใช่ เพราะฉะนั้นจะต้องมีการเติมคนหรือเติม Talent ที่ถูกต้องเข้ามาและเปลี่ยนวิธีการทำงาน เพราะในการทำงานไม่ได้จบในคนๆเดียว 100%  เราต้องการคอนแล็บกับคนอื่นเพื่อให้เกิดผลลัพธ์เดียวกัน ซึ่งยังอยู่ใน process ที่เราวางไว้ เพื่อสร้างความยั่งยืนของธุรกิจนั่นคือการที่ลูกค้าอยู่กับเราเป็นระยะเวลานานเพื่อสร้างความมั่นคงของการบริหารธุรกิจได้ การขับเคลื่อนแบบ Organic growth  จะเป็นตัวที่บ่งบอกว่าสิ่งที่เราทำเวิร์คหรือไม่เวิร์ค และทำให้เรารู้ว่าเราอยู่ในจุดที่ถูกต้องหรือยัง 

ตอนนี้เราอยู่ในช่วงระหว่างการเติมคนและทรานฟอร์มคนที่เรามีอยู่เพื่อตอบรับกับความคาดหวังของลูกค้าที่มาโดยอัตโนมัติว่าเมื่อจ่ายเงินไปแล้ว Media Agency ควรจะเป็นคนทำทุกอย่าง  ตั้งแต่สร้าง awareness ไปจนถึงดิจิตอลหรือ Touchpoints  เก็บ Data ซึ่งความคาดหวังสูงขึ้นสูงขึ้นและนำไปสู่การเทิร์นโอเวอร์ของ Agency กับลูกค้าสูง”

นางสาวโศรดา ศรประสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม ปับลิซิส กรุ๊ป ประเทศไทย พูดถึงการทรานสฟอร์มองค์กรว่า ในการปรับตัวเองของปับลิซิส กรุ๊ป ให้กลายเป็นFuture-facing network สิ่งที่บริษัทให้ความสำคัญคือ การจัดการองค์กรทั้งในส่วนของ ขุมพลังทางความคิด เสริมด้วยเทคโนโลยีและโมเดลการปฏิบัติการแบบ Power of ONE เริ่มจากการปรับใช้ตำแหน่ง Co-CEO หรือประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม ซึ่งเป็นโมเดลที่สามารถตอบสนองความท้าทายในเรื่องความรวดเร็วและการเปลี่ยนแปลงแบบนี้ได้ดีกว่าการบริหารแบบผู้นำเพียงคนเดียว เนื่องจากผู้บริหารที่มีประสบการณ์ต่างกันจะช่วยทำให้เสริมความสามารถรอบด้านเพื่อให้แข็งแกร่งทั้งในเชิงกลยุทธ์และปฎิบัติการ ให้ครอบคลุมในทุกมิติ 

 ขณะเดียวกันเทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญในการที่จะช่วยพาไปสู่การเป็นThe Best Full-Funnel Commerce Partner For Brands  ปับลิซิส กรุ๊ปมีแพลตฟอร์ม AI ที่ชื่อว่ามาแซล (Marcel)เป็นของตัวเอง เพื่อเชื่อมโยงบุคลากรของปับลิซิส กรุ๊ปทั้งโลกเข้าด้วยกัน และยังมี Publicis GPT ให้บุคลากรได้ใช้งานกันอีกด้วย 

“เนื่องจากเราอยู่ในธุรกิจของการให้คำปรึกษาเราจึงรู้ดีว่าสินทรัพย์ที่มีค่าที่สุดก็คือคน เราจึงได้จัดการให้มีการอัพสกิล (Upskill) รีสกิล (Reskill) และรีเลิร์น (Relearn) เพื่อเพิ่มคุณค่าและพัฒนาคนในองค์กร ให้ได้มีความรู้ในทักษะใหม่ ๆ ของการสื่อสารเสริมความเข้าใจแพลตฟอร์มการสื่อสารหรือเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อให้สามารถให้คำแนะนำกับลูกค้า หรือสามารถนำเทคโนโลยีนั้นไปใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด เพื่อให้ทำงานได้ง่าย สะดวก และแม่นยำ อาทิ Digital Insights, Social Listening หรือ Data Collecting 

นอกจากการจัดฝึกอบรมภายในองค์กรเรายังมีระบบการเรียนรู้บนออนไลน์บน มาแซล เพื่อสนับสนุนและผลักดันให้พนักงานทุกคนมีมาตรฐานในความรู้ต่าง ๆ ในระดับที่ทัดเทียมกันทั่วโลก รวมทั้ง ผลักดันให้บุคลากรในองค์กรทุกคนมีโอกาสที่จะเติบโตหรือมีความก้าวหน้าที่เหมาะสมที่ตนเองต้องการ ผ่านแพลตฟอร์ม Career Conversation”