สินค้าเกษตรไทยที่โลกต้องการ"ธัญพืช พืชน้ำมัน กาแฟ"รีบส่งออกเลย

29 ก.ค. 2566 | 07:30 น.

สนค. ชี้โลกต้องการสินค้ากลุ่มเกษตรโลก พบ พืชน้ำมัน ธัญพืช และกาแฟมาแรง ชี้เป็นโอกาสส่งออกของไทย พบมีมูลค่าสูงถึง 1.76 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ จีนนำเข้ามากสุด ตามด้วยสหรัฐฯ เยอรมนี ญี่ปุ่น และเนเธอร์แลนด์

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า สนค. ได้ใช้แดชบอร์ดวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics Dashboard) ของเว็บไซต์ คิดค้า.com พบว่า ในปี 2565 ทั่วโลกมีการนำเข้าสินค้ากลุ่มเกษตรกรรม (กสิกรรม ปศุสัตว์ และประมง) เป็นมูลค่าสูงถึง 1.07 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น9.08 %จากปีก่อนหน้า

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.)

โดยจีน มีการนำเข้าสูงสุด เป็นมูลค่า 176,936.52 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 9.77% รองลงมา ได้แก่ สหรัฐอเมริกา 107,121.47 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เยอรมนี 60,335.45 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ญี่ปุ่น 55,352.39 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และเนเธอร์แลนด์  45,437.65 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

 

 

 

 

ทั้งนี้ โลกมีการนำเข้าสินค้ากลุ่มเกษตรกรรมจากไทย เป็นมูลค่าสูงถึง 29,433 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น7.35% จากปีก่อนหน้า โดยไทยมีส่วนแบ่งตลาด2.74% ของมูลค่าการนำเข้าสินค้ากลุ่มเกษตรกรรมของทั้งโลก

สินค้าเกษตรไทยที่โลกต้องการ\"ธัญพืช พืชน้ำมัน กาแฟ\"รีบส่งออกเลย

สำหรับประเทศที่ไทยมีส่วนแบ่งตลาดสูง 5 อันดับแรก ได้แก่ มาเลเซีย ซึ่งไทยมีส่วนแบ่งตลาด14.27%ของมูลค่าการนำเข้าสินค้ากลุ่มเกษตรกรรมของมาเลเซีย รองลงมา ได้แก่ แอฟริกาใต้ สาธารณรัฐประชาชนจีน เซเนกัล และสิงคโปร์ มีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 11.78 7.21 7.08 และ 7.07 ตามลำดับ

สำหรับการนำเข้าสินค้ากลุ่มเกษตรกรรมที่สำคัญของโลก เมื่อพิจารณาจากมูลค่าการนำเข้า การเปลี่ยนแปลงมูลค่าการนำเข้า และอัตราการเติบโตเฉลี่ย 3 ปี พบว่า กลุ่มสินค้าศักยภาพที่โลกมีความต้องการนำเข้าสูง และการส่งออกของไทยมีอัตราการเติบโตสูง อันดับ 1 ได้แก่ พืชน้ำมัน รองลงมา คือ ธัญพืช และกาแฟ

สินค้าเกษตรไทยที่โลกต้องการ\"ธัญพืช พืชน้ำมัน กาแฟ\"รีบส่งออกเลย

 

ทั้งนี้ ในปี 2565 ไทยสามารถส่งออกสินค้าในกลุ่มดังกล่าว เพิ่มขึ้น 49.92% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า คิดเป็นส่วนแบ่งตลาดสินค้าพืชน้ำมันในตลาดโลก 0.05% โดยมีมาเลเซีย อินเดีย และเนเธอร์แลนด์ เป็นตลาดส่งออกหลักของไทย ซึ่งยังคงมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องในปี 2566 และแม้ไทยจะไม่ใช่ผู้ส่งออกรายใหญ่ของโลก แต่ก็มีโอกาสขยายการส่งออกจากความต้องการซื้อของประเทศคู่ค้าที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งไทยควรส่งเสริมการลดต้นทุนการผลิตเพื่อให้สามารถแข่งขันด้านราคา

  สินค้าเกษตรไทยที่โลกต้องการ\"ธัญพืช พืชน้ำมัน กาแฟ\"รีบส่งออกเลย

 

“ปัจจัยด้านการแสวงหาความมั่นคงทางอาหาร การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และกระแสอาหารสุขภาพ ประกอบกับศักยภาพของไทยในการเป็นผู้ผลิตอาหารอันดับต้น ๆ ของโลก สามารถทำให้ธัญพืชเป็นสินค้าที่จะสร้างรายได้เข้าประเทศได้อย่างเป็นกอบเป็นกำต่อไปในอนาคต ซึ่งภาครัฐควรมีบทบาทสนับสนุนข้อมูลและอำนวยความสะดวกด้านต่าง ๆ รวมทั้งจัดกิจกรรมส่งเสริมการค้าให้กับผู้ประกอบการ ช่วยเสริมสร้างศักยภาพด้านการวิจัยและพัฒนา ให้การสนับสนุนด้านการเงิน ฝึกอบรมทักษะด้านการตลาด และจับคู่ธุรกิจเพื่อช่วยหาตลาดในต่างประเทศ เพื่อให้สินค้าธัญพืชและสินค้าอาหารสุขภาพของไทยมีความโดดเด่น หลากหลาย และปลอดภัยได้มาตรฐาน ตอบโจทย์ความต้องการจากตลาดโลกได้ต่อไป”