ม.กรุงเทพ แท็กทีม Berkeley SkyDeck Fund ปั้นสตาร์ทอัพไทย

21 มี.ค. 2566 | 10:45 น.
อัปเดตล่าสุด :21 มี.ค. 2566 | 10:46 น.

มหาวิทยาลัยกรุงเทพ จับมือ เบิร์กลีย์ สกายเดก ฟันด์ จัดการแข่งขัน BU X Berkley SkyDeck Fund Mini Hackathon 2023 Food Service Tech Startup เปิดช่องนักศึกษาเสนอแผนธุรกิจสตาร์ทอัพ หวังเปลี่ยน SME เป็นสตาร์ทอัพระดับโลก

มหาวิทยาลัยกรุงเทพ จับมือกับ เบิร์กลีย์ สกายเดก ฟันด์ (Berkeley SkyDeck Fund) หนึ่งในองค์กรให้คำปรึกษาและแหล่งเงินทุนกับสตาร์ทอัพที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก จัดการแข่งขัน BU X Berkley SkyDeck Fund Mini Hackathon 2023 Food Service Tech Startup ให้นักศึกษาเสนอแผนธุรกิจสตาร์ทอัพ ต่อคณะกรรมการที่มีประสบการณ์ในการปลุกปั้นสตาร์ทอัพให้ยูนิคอร์นในซิลิคอนวัลเลย์

ม.กรุงเทพ  แท็กทีม Berkeley SkyDeck Fund ปั้นสตาร์ทอัพไทย
รศ.ดร.ศุภเจตน์ จันทร์สาส์น ผู้ช่วยอธิการบดีสายวิชาการ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เปิดเผยว่า ความร่วมมือในครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้นของมหาวิทยาลัยกรุงเทพในการพัฒนาจากมหาวิทยาลัยที่มีจุดแข็งทางด้านการสร้างผู้ประกอบการในระดับ SME ไปสู่สตาร์ทอัพที่สามารถสร้างธุรกิจใหม่ที่ส่งผลถึงการเปลี่ยนแปลงทางสังคมระดับโลก โดยนำองค์ความรู้ด้านการพัฒนาสตาร์ทอัพระดับโลก มาปรับใช้ในการเรียนการสอนในมหาวิทยาลัยกรุงเทพ

 

สำหรับหัวข้อการแข่งขันในรูปแบบของแฮกกาธอนนี้ คือจุดเด่นของประเทศไทย “Food Service Tech Startup” การนำธุรกิจทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับอาหาร ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เช่น เครื่องใช้ในครัวเรือน ไปจนถึงการขนส่งอาหารทั้งหมด รวมเข้ากับการนำเอาเทคโนโลยีมาใส่ในธุรกิจเพื่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลง สร้างรูปแบบสินค้า และบริการรูปแบบใหม่ให้กับผู้บริโภค

ม.กรุงเทพ  แท็กทีม Berkeley SkyDeck Fund ปั้นสตาร์ทอัพไทย

“การแข่งขันในรูปแบบแฮกกาธอน จะช่วยให้นักศึกษาได้เรียนรู้เรื่องการนำเสนอ และการเสนองานอย่างไรให้นักลงทุนสนใจเข้าร่วมลงทุน ขณะเดียวกันยังทำให้เกิดความร่วมมือระหว่างคณะเพราะที่ผ่านมาคณะต่างๆ ก็มีกิจกรรมการแข่งขันของตัวเอง ต่างคนต่างทำ ต่างแสดงความสามารถลงแข่งขันในด้านที่ตัวเองถนัด แต่พอมีกิจกรรมการแข่งที่จำเป็นต้องดึงนักศึกษาที่มีศักยภาพแตกต่างกัน มาทำงานร่วมกัน ผลการแข่งที่ออกมาเราก็ทำได้ดี เพราะในโลกของการทำธุรกิจ ไม่มีใครเก่งทุกอย่าง ในทีมของเราที่ชนะเลิศ ประกอบไปด้วยเด็กที่เก่งจากคณะบริหารธุรกิจ และคณะไอที มาทำงานร่วมกันซึ่งต่างก็ใช้ความสามารถของตัวเอง ทำให้เกิดจุดแข็งในธุรกิจจนคว้าชัยชนะมาได้

สำคัญที่สุดคือ การแข่งขันในครั้งนี้เป็นการเริ่มต้นที่ดี และจุดประกายให้เราพัฒนาระบบการเรียนการสอน เพื่อนำไปสู่การเป็นสตาร์ทอัพ ในอนาคตเราคงมีความร่วมมือกันอีกในหลายๆ ด้านกับทาง Berkley SkyDeck Fund ทั้งในระดับอาจารย์ผู้สอน ระดับนักศึกษา การจัดการแข่งขัน และความร่วมมือในด้านต่างๆ มากขึ้น เพื่อปูทางให้มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เป็นมหาวิทยาลัยที่บ่มเพราะสร้างสตาร์ทอัพที่ประสบความสำเร็จระดับโลกต่อไปในอนาคต."

 ไบรอัน บอร์ดลีย์ (Brian Bordley

ด้าน ไบรอัน บอร์ดลีย์ (Brian Bordley) เปิดเผยว่า  เบิร์กลีย์ สกายเดก ฟันด์ กับมหาวิทยาลัยชั้นนำต่างๆ เพื่อให้ความรู้และแนวทางการเป็นสตาร์ทอัพ และสร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อความสำเร็จในเส้นทางธุรกิจสตาร์ทอัพ ภายใน 5 ปีที่ผ่านมามีสตาร์ทอัพเข้าร่วมกับบริษัทมากกว่า 200 สตาร์ทอัพ จาก 30 กว่าประเทศทั่วโลก มีการระดมทุนในธุรกิจตั้งแต่ 2 แสนไปจนถึง 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สิ่งที่เราสอนไม่ได้มีแค่การจะทำอย่างไรให้เป็นสตาร์ทอัพที่ดี แต่เรายังมีแหล่งเงินทุน ที่จะช่วยทำให้ธุรกิจของสตาร์ทอัพประสบความสำเร็จได้อีกด้วย

สำหรับความร่วมมือกับทางมหาวิทยาลัยกรุงเทพในครั้งนี้สิ่งที่นักศึกษาจะได้ก็คือการเรียนรู้เรื่องการนำเสนอแผนธุรกิจอย่างไร ให้ประสบความสำเร็จ แผนธุรกิจของสตาร์ทอัพไม่ได้เสนอพูดคุยกันในระดับ 10 ล้านหรือ 100 ล้าน แต่จะสอนให้นักศึกษาเรียนรู้เรื่องการนำเสอนแผนธุรกิจให้กับนักลงทุนระดับพันล้านขึ้นไป ธุรกิจอะไรที่จะสร้างผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการแข่งขันในตลาดโลก แบบพลิกโฉมหน้าเป็นอีกรูปแบบหนึ่ง

จากการพูดคุยกับนักศึกษาที่เข้าร่วมแข่งขันในครั้งนี้ยอมรับว่านักศึกษาไทย มีไอเดียและแผนธุรกิจที่น่าสนใจเทียบเท่ากับนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงในต่างประเทศ ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าสนใจมาก

ม.กรุงเทพ  แท็กทีม Berkeley SkyDeck Fund ปั้นสตาร์ทอัพไทย

อย่างไรก็ตามการสร้างระบบนิเวศของสตาร์ทอัพให้ประสบความสำเร็จไว้ว่า องค์ประกอบอย่างแรกก็คือ ต้องมีผู้ประกอบการที่มีไฟในการทำงานมีพลังงานในการทำธุรกิจเยอะๆ มีความกล้าเสี่ยง ไม่จำเป็นต้องเป็นคนอายุน้อยเท่านั้น นักธุรกิจที่อยู่ในวัยกลางคน แต่ยังมีไฟในการเริ่มต้นธุรกิจก็สามารถทำได้เช่นกัน

องค์ประกอบที่ 2 ก็คือ Mentor หรือคนที่ให้คำแนะนำที่ คอยให้คำปรึกษาด้านต่างๆ ให้กับนักธุรกิจ ซึ่งตัวสตาร์ทอัพเองก็ต้องเป็นคนที่มีใจเปิดกว้างสามารถยอมรับความจริงและพร้อมปรับเปลี่ยนได้ ในขณะเดียวกันที่ปรึกษาก็ต้องเปิดรับไอเดียใหม่ๆ และวิเคราะห์ถึงความเป็นไปได้จากประสบการณ์ เพื่อให้คำแนะนำอย่างถูกต้อง

สุดท้ายคือศูนย์รวมนักลงทุนที่จะเข้ามามองหาไอเดียธุรกิจที่น่าสนใจ และร่วมลงทุนกับสตาร์ทอัพรายนั้น จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมทางเบิร์กลีย์ สกายเดก ฟันด์ ถึงทำงานร่วมกับมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงและมีศักยภาพในการพัฒนา อบรมสตาร์ทอัพรายใหม่ให้ประสบความสำเร็จ ไปพร้อมๆ กับส่วนจัดหานักลงทุนหรือแหล่งลงทุนที่จะเข้ามาทำให้สตาร์ทอัพประสบความสำเร็จต่อไป