"จุรินทร์" จับมือเอกชนไทยลุยตลาดดูไบ เซ็นสัญญาซื้อขาย 1,330 ล้าน

07 ก.พ. 2566 | 11:31 น.
อัปเดตล่าสุด :07 ก.พ. 2566 | 12:00 น.

"จุรินทร์" จับมือเอกชนไทยลุยตลาดยูเออี เซ็นสัญญาซื้อขาย 1,330 ล้าน พร้อมถกแผนดันสินค้าไทยกระจายสู่กลุ่มประเทศอ่าวอาหรับ 6 ประเทศหรือ GCC

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นำคณะข้าราชการระดับสูงกระทรวงพาณิชย์และภาคเอกชน เดินทางเยือนสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ระหว่างวันที่ 6 - 7 กุมภาพันธ์ 2566 ล่าสุดได้ประชุมร่วมกับภาครัฐและภาคเอกชนไทยในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยมีข้อสรุป ดังนี้

ดันดูไบเป็นฐานนำเข้าสินค้าจากไทย

ภาคเอกชนไทยที่มาประกอบธุรกิจมีทั้งรายใหญ่ กลางเล็ก รวม 15-18 ราย เช่น บริษัท ปตท. สผ. จำกัด (มหาชน) บริษัท SCG International Middle East Trading LLC. บริษัท Vega Intertrade & Exhibition บริษัท Al Rabia Al Daim Food บริษัท Perfect Companion Trading LLC. บริษัท Thai Smile Foodstuff Trading LLC. ร้านอาหารไทย Little Bangkok ร้านอาหารไทย Siam Restaurant ซูเปอร์มาร์เก็ตไทย 4 Mart 

ส่วนใหญ่ใช้ดูไบเป็นฐานนำเข้าสินค้าจากไทยกระจายต่อไปยังกลุ่มประเทศอ่าวอาหรับ 6 ประเทศหรือ GCC ประกอบด้วยซาอุดีอาระเบีย คูเวต โอมาน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กาตาร์ และบาห์เรน ทั้งนี้ดูไบ ถือเป็นเมืองที่มีความสำคัญสำหรับการส่งออกของไทย เพราะจะเป็นประตูสู่ตะวันออกกลางและกลุ่มประเทศอ่าวอาหรับ 6 ประเทศเป็นหลัก 
 

รองนายกฯ เดินทางเยือนสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

 

ลงนามสัญญาซื้อขายรวม 1,330 ล้าน

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานประชุม ว่า ได้มีการลงนามสัญญาซื้อขายจริงรวมยอด 1,330 ล้านบาท มีการจับคู่เซ็นสัญญา 5 คู่ อาหาร 2 คู่ 21 ล้านบาทสุขภัณฑ์ 1 คู่ 630 ล้านบาท ชิ้นส่วนยานยนต์ 1 คู่ 542 ล้านบาทและเมลามีน 140 ล้านบาท ซึ่งจะส่งมอบภายในสิ้นปีนี้

 

รองนายกฯ เดินทางเยือนสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

 

จัดตั้งสภาธุรกิจไทย-ยูเออี

นอกจากนี้จะมีการจัดตั้งสภาธุรกิจไทยกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จะมีความสำคัญอย่างยิ่งต่ออนาคตการค้าการลงทุนไทยกับยูเออี เป็นการนับหนึ่งให้มีการจัดตั้งสภาความร่วมมือทางธุรกิจของ 2 ประเทศที่เป็นทางการและได้รับการรับรองจากรัฐบาล 2 ประเทศ จะสร้างเงินให้ประเทศ สำหรับปี 2566 เพิ่มขึ้นประมาณ 30,000 ล้านบาท

"ยูเออีเป็นตลาดที่มีความสำคัญเป็นลำดับหนึ่งในกลุ่มประเทศตะวันออกกลางสำหรับไทย ปี 2565 ตัวเลขการค้าระหว่างไทยกับยูเออี 7.3 แสนล้านบาท โตถึง 74% ยอดการส่งออกไทยส่งออกมายูเออี 1.18 แสนล้านบาท โตขึ้น 22.19% ถือเป็นตลาดอันดับหนึ่งของไทยในตะวันออกกลาง" 

สินค้าที่ส่งออกมาลำดับต้น เช่น รถยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ เครื่องปรับอากาศและอุปกรณ์ อัญมณี  โทรสาร โทรศัพท์ ไม้ผลิตภัณฑ์จากไม้ ผลิตภัณฑ์ยางโดยเฉพาะยางรถยนต์ที่ผลิตจากยางพารา อาหารทะเลกระป๋องอาหารทะเลแปรรูป เป็นต้น 
 

รองนายกฯ เดินทางเยือนสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

 

เปิดโครงการ Thai Souq

นอกจากนี้ยังได้ เปิดโครงการ Thai Souq (ไทยซุค) ที่ Souk Al Marfa ซึ่งเป็นพื้นที่พัฒนาแห่งใหม่ของรัฐบาลดูไบบนเกาะเดียร่า โครงการ Thai Souq เป็นแหล่งรวมและกระจายสินค้าและบริการของไทยในดูไบ มีเจ้าของเป็นคนไทย  มีร้านค้ามากกว่า 30 ร้าน เช่น ร้านอาหาร เครื่องดื่ม งานฝีมือ ของที่ระลึก แฟชั่น เครื่องประดับ เครื่องสำอาง ซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านนวดแผนไทย 
 

รองนายกฯ เดินทางเยือนสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์


โดยทาง Thai Souq พร้อมจะให้ความร่วมมือและช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย ที่จะส่งออกสินค้าเข้าสู่ตลาดสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และพร้อมที่จะช่วยให้ความรู้และแบ่งปันประสบการณ์เกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจในตลาดสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และตะวันออกกลาง โดยมีคนไทยที่อาศัยและทำงานในดูไบมาให้กำลังใจนายจุรินทร์พร้อมมอบดอกไม้ โดยร้านค้าของคนไทยที่มาขายสินค้าและบริการ กว่า 30 ร้าน ซึ่งมีทั้งอาหารไทย ร้านขายสินค้าไทย ร้านขายอัญมณีและร้านนวดไทยที่ได้รับความนิยมจากคนดูไบเป็นอย่างมาก

รองนายกฯ เดินทางเยือนสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์