อานิสงส์บาทอ่อน “ส่งออกข้าวไทย”ปี65 ทะลุเป้า7.69ล้านตัน
อานิสงส์บาทอ่อนส่งออกข้าวไทยปี65 ทะลุเป้า7.69ล้านตัน ขึ้นแท่นเบอร์2ของโลก พร้อมตั้งเป้าปี66 ไว้ที่7.5ล้านตัน เร่งหาตลาดใหม่ฟื้นตลาดเก่า ส่วนส่งออกมันสำปะหลังตั้งเป้าไว้ที่9ล้านตัน
นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ (คต.)กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยการส่งออกข้าวไทยปี2565ว่าไทยสามารถส่งออกข้าวได้เกินเป้าที่ตั้งไว้6.5ล้านตัน โดยส่งออกได้ 7.69 ล้านตัน ทั้งนี้เนื่องจากค่าเงินบาทปีก่อนอ่อนค่าเฉลี่ย38บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งปริมาณเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 22.06% คิดเป็นมูลค่าส่งออกรวม 3,971 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว14.67% หรือคิดเป็นมูลค่าเงินบาท 138,452ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้น 26.13 %
ส่วนเป้าหมายการส่งออกปี66กรมฯได้หารือร่วมกับสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย โดยตั้งเป้าทั้งปีไว้ที่ 7.5 ล้านตันเท่ากับปี65 เนื่องจากค่าเงินบาทปีนี้มีแนวโน้มผันผวนมาก โดยแข็งขึ้นจากปีก่อนมาก ล่าสุดเฉลี่ยอยู่ที่ 32.5-33 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ส่วนกลางปีมีแนวโน้มจะอ่อนค่าลงอยู่ที่ 35-40 บาทดอลลาร์สหรัฐ และกลับมาแข็งค่าอีกครั้งช่วงปลายปี ซึ่งกรมฯจะต้องติดตามภาวะค่าเงินบาทอย่างใกล้ชิดต่อไป
สำหรับตลาดส่งออก5 อันดับแรก คือ อิรัก 1.6 ล้านตัน ขยายตัวเพิ่มขึ้น 458% แอฟริกาใต้ 7.75แสนตัน ขยายตัวลดลง 2.26% จีน 7.452 แสนตัน เพิ่มขึ้น 18.81% สหรัฐอเมริกา 6.53 แสนตัน เพิ่มขึ้น 13.21 % และเบนิน 3.2 แสนตัน ลดลง15.38 %
โดยปีนี้ มีแผนการจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อผลักดันการส่งออกข้าวให้เป็นไปตามเป้า ไม่ว่าจะเป็น การจัดงานประชุมข้าวนานาชาติ (Thailand Rice Convention 2023) การจัดคณะผู้แทนการค้าภาครัฐและเอกชนเยือนประเทศคู่ค้าสำคัญต่างๆ เช่น เยอรมนี จีน ยูเออี ออสเตรเลีย และเวียดนาม รวมทั้งจัดประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ข้าวไทยในตลาดต่างประเทศ เป็นต้น
นอกจากนี้เป้าหมายการส่งออกมันสำปะหลังปี กรมฯ ได้คาดการณ์การส่งออกร่วมกับ 4 สมาคม ได้แก่ สมาคมการค้ามันสำปะหลังไทย สมาคมแป้งมันสำปะหลังไทย สมาคมโรงงานผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังไทย และสมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลังภาคตะวันออกเฉียงเหนือง โดยตั้งเป้าทั้งปีไว้ที่ 9 ล้านตัน ปริมาณลดลงเมื่อเทียบกับปี 2565 ที่ผ่านมา ที่ส่งออกได้ 11.18 ล้านตัน สาเหตุที่ทำให้ปริมาณการส่งออกมันฯปีนี้ปรับลดลงเนื่องจากผลผลิตมันสำปะหลังสดปีนี้จะอยู่ที่ 30 ล้านตัน ลดลงจากปีก่อนหน้า จากปัญหาโรคใบด่าง และปัญหาภัยแล้ง
ส่วนแนวโน้มราคาปีนี้จะปรับตัวสูงขึ้น เพราะจีนยังมีความต้องการนำเข้ามันเส้นจำนวนมาก ขณะที่ตลาดโลกมีความต้องการแป้งมันฯมากขึ้น โดยปี2566 มีแผนเจาะตลาดเป้าหมาย ได้แก่ จีน EU ตุรกี นิวซีแลนด์ อินเดีย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และซาอุดิอาระเบีย และมีกำหนดจัดงานมันสำปะหลังโลก (World Tapioca Conference 2023) ประมาณต้นเดือนมี.ค. 2566