กรณีแอปพลิเคชัน LINE ได้นำข่าวที่สื่อค่ายต่าง ๆ ซึ่งมีข้อกำหนดในการทำสัญญาแบ่งปันรายได้จากค่าโฆษณาจากการนำข่าวไปเผยแพร่ใน LINE TODAY ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มของไลน์ และได้นำข่าวนั้นไปเผยแพร่ในช่องทาง และแพลตฟอร์มอื่น ๆ เช่น Google หรือ Googlenews จนถูกตั้งข้อสังเกตว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำผิดสัญญาหรือไม่นั้น
จากการตรวจสอบสัญญาระหว่าง LINE กับสื่อในเครือเนชั่น พบข้อมูลว่า ไลน์ได้นำข่าวต่าง ๆ ของสื่อในเครือเนชั่น เช่น กรุงเทพธุรกิจ คมชัดลึก ทีนิวส์ และเนชั่นทีวี ไปลงในช่องทางอื่น ๆ จริง ทั้งที่ในสัญญาระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ไม่อนุญาตให้ไปลงในแพลตฟอร์มอื่น ซึ่งกรณีนี้ถือเป็นการทำผิดสัญญาชัดเจน
จากการตรวจสอบสัญญาระหว่างไลน์กับสื่อเครือในเนชั่น ในข้อ Exclusivity หากเลือก Exclusive ระบุว่า ใบรับรองที่ออกให้เป็นเอกสิทธิ์สำหรับ Line เท่านั้น และใช้กับแพลตฟอร์มออนไลน์และดิจิทัลทั้งหมด ไม่ว่าจะใช้ช่องทางหรือวิธีการใดในการส่งข้อมูล และ LINE ขอสงวนสิทธิ์ในการยั้งหรือชะลอการเผยแพร่เนื้อหา (เช่น 7 วัน) นับตั้งแต่วันแรกที่เนื้อหานั้นมีการเผยแพร่บน LINE
หมายความว่า LINE สามารถนำข่าวของสื่อไปเผยแพร่ในช่องทางอื่นๆได้
แต่สื่อเครือเนชั่นเลือก Non-Exclusive(ตามภาพด้านบน) หมายความว่า LINE ไม่สามารถนำข่าวที่สื่อเครือเนชั่นอนุญาตให้ LINE นำไปเผยแพร่ใน Line Today ไปเผยแพร่ผ่านช่องทางอื่น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ฐานเศรษฐกิจสอบถามไปยังบริษัท ไลน์ คอมพานี (ประเทศไทย) จำกัด ได้รับการชี้แจงว่า ขณะนี้ผู้บริหาร LINE กำลังอยู่ระหว่างการประสานชี้แจงกับสำนักข่าวต่าง ๆ กรณีปิดให้บริการไลน์ ไอดอล (LINE Idol)
ขณะเดียวกันทีมงาน LINE TODAY ยังอยู่ระหว่างการหารือ เพื่อหาทางออกกรณีการนำข่าวของสื่อสำนักต่าง ๆ ไปเผยแพร่ในช่องทางอื่น คาดว่าจะมีข้อสรุปในเร็ว ๆ นี้
ข้อมูลการทำธุรกิจของ LINE
LINE ประกอบธุรกิจในไทยภายใต้ชื่อ บริษัท ไลน์ คอมพานี (ประเทศไทย) จำกัด ล่าสุดได้รายงานงบการเงิน ณ วันที่ 31 มีนาคม 2565 พบว่า มีรายได้รวม 6,087.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 627% จากปีก่อน
โดยมีรายได้หลักจากการดำเนินงานเพิ่มสูงขึ้นหลายเท่าตัว อยู่ที่ 5,485.2 ล้านบาท ทั้งที่ในปีก่อนมีรายได้อยู่แค่เพียง 834.5 ล้านบาท เช่นเดียวกับรายได้อื่น เพิ่มขึ้นจาก 2.2 ล้านบาท เมื่อปี 2564 เพิ่มเป็น 602.3 ล้านบาท ในปีนี้
ขณะที่รายจ่ายรวมในปี 2565 อยู่ที่ 6,011 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 716.50% ส่วนใหญ่มาจากต้นทุนขายเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 435.6 ล้านบาท เป็น 4,374.1 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายในการขายและบริการ เพิ่มขึ้นจาก 222 ล้านบาท เพิ่มเป็น 1,561.5 ล้านบาทในปีนี้
ส่งผลให้ผลประกอบการบริษัทมีกำไร 71.9 ล้านบาท ลดลง 27% จากปีก่อนที่มีกำไร 99.5 ล้านบาท