“ไทยยูเนี่ยน” รุกปี 66 เข้าลงทุนในสตาร์ทอัพชั้นนำแดนน้ำหอม

11 ม.ค. 2566 | 18:06 น.
อัปเดตล่าสุด :12 ม.ค. 2566 | 01:16 น.

ไทยยูเนี่ยนประเดิมรุกปี 66 เข้าลงทุนใน “อัลกามา”สตาร์ทอัพสัญชาติฝรั่งเศส ผู้นำส่วนประกอบอาหารจากสาหร่ายขนาดเล็ก หนุนการเติบโตธุรกิจโปรตีนทางเลือก

รายงานข่าวจาก บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ทียู เผยว่า บริษัทฯได้ประกาศเข้าร่วมลงทุนร่วมกับผู้ร่วมทุนเชิงกลยุทธ์รายอื่น ๆ ใน บริษัท อัลกามา จากประเทศฝรั่งเศส ในรอบการระดมทุนซีรีย์เอ โดยอัลกามาสามารถระดมทุนได้ทั้งสิ้น 13 ล้านยูโร  ทั้งนี้ ไทยยูเนี่ยนได้ลงทุนผ่านกองทุน Venture Fund ของบริษัท

 

ข้อมูลบริษัท อัลกามา ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2556 ปัจจุบันมีธุรกิจในฝรั่งเศส สหรัฐอเมริกา และเบลเยียม โดยดำเนินธุรกิจนวัตกรรมการผลิตสาหร่ายเพื่อเป็นส่วนประกอบอาหารให้กับบริษัทผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มรายใหญ่ และมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมกันและผลิตในระดับอุตสาหกรรมเพื่อทดแทนโปรตีนจากสัตว์ หรือเพื่อเสริมสารอาหารให้กับผลิตภัณฑ์

นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เผยว่า จากที่ไทยยูเนี่ยนมุ่งเน้นการดูแลสุขภาพให้กับผู้คน ควบคู่กับการดูแลรักษาท้องทะเลให้อุดมสมบูรณ์  ซึ่งสาหร่ายแอลจีนับเป็นแหล่งส่วนประกอบอาหารจากทะเลที่มีความยั่งยืน สอดคล้องไปกับเป้าหมายของบริษัทในด้านความยั่งยืน 

 

ทั้งนี้จากบุคลากรของอัลกามามีความสามารถและประสบการณ์ทั้งในด้านเทคโนโลยีและธุรกิจ ในการที่จะสร้างให้เกิดความเปลี่ยนแปลงที่ดีให้กับอุตสาหกรรมโปรตีนในวงกว้าง ทำให้ไทยยูเนี่ยนมีความยินดีที่จะได้ร่วมงานกับอัลกามาต่อไป

 

“ไทยยูเนี่ยน” รุกปี 66 เข้าลงทุนในสตาร์ทอัพชั้นนำแดนน้ำหอม

 

ขณะที่ นายอัลวิน เซเวอเรียง ประธานเจ้าหน้าที่บริษัทและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท อัลกามา กล่าวว่า มีความยินดีที่ได้ร่วมมือกับไทยยูเนี่ยนในการสร้างสรรค์ส่วนประกอบอาหารจากอาหารทะเลที่มีการจัดหาวัตถุดิบอย่างยั่งยืนและดีต่อสุขภาพ และด้วยการพัฒนาสาหร่ายแอลจีที่สามารถต่อยอดได้อีกมาก จะทำให้สามารถพัฒนาสินค้านวัตกรรมที่ตอบโจทย์ในอนาคตได้

 

“ไทยยูเนี่ยน” รุกปี 66 เข้าลงทุนในสตาร์ทอัพชั้นนำแดนน้ำหอม

 

สำหรับผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นของอัลกามาอยู่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ ในกลุ่มส่วนประกอบอาหาร ใช้แทนไข่ไก่ในการผลิตระดับอุตสาหกรรม โดยเฉพาะสินค้าขนมอบและเบเกอรี่  การระดมทุนในรอบนี้จะช่วยผลักดันการยกระดับนวัตกรรมไปสู่เชิงพาณิชย์  พัฒนาการนำไปใช้ในแบบใหม่ ๆ และสร้างโรงกลั่นชีวภาพขนาด 10,000 ตารางเมตรในเมืองลีช์ ประเทศเบลเยียม

 

นอกจากนี้การลงทุนในอัลกามาและความร่วมมือที่จะเกิดขึ้นในอนาคต จะช่วยสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจโปรตีนทางเลือกของไทยยูเนี่ยนได้ รวมถึงการพัฒนาส่วนประกอบอาหารสำหรับผลิตภัณฑ์จากอาหารทะเล