รับ"ปีเถาะ"เที่ยวน่านไหว้พระธาตุแช่แห้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 17 พ.ย. 2565 ที่บริเวณสนามหญ้าหน้าพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน จังหวัดน่าน  การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และจังหวัดน่าน พร้อมด้วยหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ร่วมจัดกิจกรรม "เปิดฤดูกาลท่องเที่ยวภาคเหนือ ประจำปี 2566" 

ทั้งนี้ ททท.สำนักงานภาคเหนือ  ชูคอนเซปต์ "เสน่ห์วันวานเมืองเหนือ" นำอัตลักษณ์ความงดงามของวัฒนธรรมเมืองเหนือ ซึ่งเป็นทุนทางวัฒนธรรม(Soft Power) ที่สำคัญ มาเป็นแกนหลักในการขับเคลื่อน ภายใต้กลยุทธ์ 4F ได้แก่ Fabric-เครื่องแต่งกาย Food-อาหาร Faith-ความเชื่อ ความศรัทธา และ Festival-เทศกาลประเพณี

รวมทั้งเชื่อมโยงหัตถศิลป์ในพื้นที่ นำมาบอกเล่าเรื่องราวท้องถิ่น ออกแบบเป็นเส้นทางท่องเที่ยวที่หลากหลาย ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวในทุกมิติ คาดจะช่วยผลักดันรายได้จากการท่องเที่ยวให้ถึง 156,000 ล้านบาท ภายในปี 66

นายวิบูรณ์ แววบัณฑิต ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน กล่าวว่า ในปี 2566 นี้ ตรงตามปีนักษัตรปีเถาะ จังหวัดน่านจึงเห็นโอกาส ในการได้ส่งเสริมให้เป็นปีท่องเที่ยวปีเถาะ ตามความเชื่อล้านนาว่า พระธาตุแช่แห้ง จังหวัดน่าน เป็นพระธาตุประจำปีเกิดของชาวนักษัตรปีเถาะ จึงได้จัดงาน "งานประเพณีหกเป็ง นมัสการพระธาตุเจ้าภูเพียงแช่แห้ง ประจำปี 2566" ระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ - 6 มีนาคม 2566 ณ วัดพระธาตุแช่แห้ง พระอารามหลวง อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน 

ประกอบกับปีนี้เวียงภูเพียงแช่แห้ง มีอายุกาลครบ 670 ปี ซึ่งทั่วทั้งเมืองน่าน และถนนสายหลัก จะได้รับการเนรมิต ประดับประดาไปด้วยสัญลักษณ์รูปกระต่าย เพื่อต้อนรับนักษัตรปีเถาะ ทั้งยังมีการประดับตุง โคมแขวนล้านนา เครื่องจักรสาน รวมไปถึงตุ๊กตามาสคอตสัญลักษณ์รูปกระต่าย บริเวณที่พัก โรงแรม โฮมสเตย์ รีสอร์ท และร้านอาหาร 

ผู้ว่าฯจังหวัดน่าน กล่าวอีกว่า ภายในงานนักท่องเที่ยวจะได้เพลิดเพลินไปกับไฮไลท์พิธีเปิดงาน ตื่นตาตื่นใจกับการแสดง แสง สี เสียง มหกรรมประชันกลอง การแสดงศิลปวัฒนธรรม การเดินแฟชั่นชุดพื้นเมือง กาดมั่วคัวฮอม กิจกรรมขัวศิลปะหัตถกรรมละอ่อนน่าน กิจกรรมสาธิตดนตรีร่วมสมัย 

รวมทั้งทางจังหวัดน่าน ได้ร่วมกับหน่วยงานด้านการท่องเที่ยว ทั้งภาครัฐ และเอกชน จัดกิจกรรมโปรโมชั่น มอบสิทธิพิเศษส่วนลดสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยว ให้แก่นักท่องเที่ยวที่เกิดในปีเถาะ ที่เดินทางมาเที่ยวจังหวัดน่าน เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว และส่งเสริมให้เกิดการกระจายรายได้เข้าสู่จังหวัดน่าน