โหนกระแส‘บอลโลก’ แบรนด์ดังกระหน่ำโปร

การแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 (FIFA WORLD CUP QATAR 2022) รอบสุดท้ายที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 20 พ.ย. -18 ธ.ค. 2565 ณ ประเทศกาตาร์ หนึ่งในทัวร์นาเมนต์ที่คนทั่วโลกรอคอย แม้ขณะนี้ (15 พ.ย. 2565) ค่อนข้างจะชัดเจนว่า คนไทยจะได้ดูไม่ครบทุกแมตช์ เมื่อการเจรจาต่อรองค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด รวมไปถึงการหาภาคเอกชนมาร่วมสนับสนุนยังไม่ลงตัว แต่กระแสการชมและเชียร์ฟุตบอลโลก เริ่มคึกคักขึ้นในทั่วโลก ทำให้หลายแบรนด์สินค้าเร่งชิงออกแคมเปญเกาะกระแส สร้างยอดขายถ้วนหน้า

 

นายรติ พันธุ์ทวี นายกสมาคมโฆษณาแห่งประเทศไทย เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ถ้ามองในเบื้องต้นหากสถานการณ์ยังไม่ชัดเจน การทำกิจกรรมส่งเสริมการขาย ล้อมรอบบรรยากาศของฟุตบอลโลกปีนี้อาจจะหายไปหรือน้อยลง เมื่อเทียบกับฟุตบอลโลกครั้งที่ผ่านมา ที่มีการถ่ายทอดสดในร้านอาหาร ผับ บาร์ ให้ลูกค้าได้ดู ทำให้บรรยากาศคึกคัก แต่วันนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่าภาพจะออกมาในทิศทางไหน แต่เชื่อว่าน่าจะช่วยปลุกความตื่นเต้นความสนุกสนานให้เกิดขึ้นแต่จะมากหรือน้อยยังไม่สามารถตอบได้

 

“ถ้าหากไทยได้ลิขสิทธิ์ เชื่อว่าจะมีความคึกคัก อย่างน้อยแบรนด์ที่ลงขันกับทางกกท. น่าจะใช้ประโยชน์จากการที่ใส่เงินเข้าไปและหาทางที่ทำกิจกรรมร่วม เพราะโดยหลักการไม่ว่าใครที่ใส่เม็ดเงินสปอนเซอร์ขนาดนั้น อย่างแรกที่เขาได้กลับมาคือ การมองเห็นโฆษณาเขาก็จะได้เวลาออกอากาศโฆษณา และเรามั่นใจว่าผู้เป็นสปอนเซอร์ทั้งหลายถ้าได้มาจริงๆ

เขาจะต้องมีกิจกรรมทางการตลาดที่จะส่งเสริมเรื่องนี้ให้มีความสนุกสนานและมีสีสันมากขึ้น แต่ระยะเวลามากน้อยขนาดไหนยังไม่ทราบ แต่เราก็เอาใจช่วยและเชื่อว่าเจตนาคงอยากให้คนไทยได้ดู เพียงแต่ว่าเวลานี้มีความฝืดเคือง ค่าใช้จ่ายทางการตลาดแต่ละรายก็ไม่ได้หาได้ง่ายๆในช่วงนี้ ดังนั้นสถานการณ์แบบนี้ก็หาสปอนเซอร์ยากเราก็เอาใจช่วย แต่ก็คาดว่าน่าจะครบ”

 

อย่างไรก็ตามแบรนด์สินค้าและบริการทั่วไปสนใจที่จะนำกิจกรรมการแข่งขันมาเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดความน่าตื่นเต้น ความสนุกสนานให้มีสีสันล้อมรอบกระแสบอลโลกอยู่แล้ว โดยเฉพาะสินค้าที่เกี่ยวข้องกับผู้ชายที่เป็นคอบอลอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่มีจำนวนประชากรเยอะมาก

เพราะฉะนั้นลักษณะสินค้าที่จะออกแคมเปญเกาะกระแสฟุตบอลโลกน่าจะเป็นกลุ่มรถยนต์และเครื่องดื่มต่างๆ ส่วนร้านอาหาร ผับ บาร์ เวลานี้ยังไม่เห็นความชัดเจนว่าจะสามารถเปิดถ่ายทอดสดได้หรือไม่ แต่ถ้าสามารถถ่ายทอดสดได้ร้านอาหาร ผับ บาร์ สามารถจ่ายค่าลิขสิทธิ์นำบอลโลกมาฉายก็น่าจะเห็นความคึกคักมากขึ้น

 

ขณะที่ผลสำรวจพฤติกรรมและการใช้จ่ายผลกระทบด้านธุรกิจและสังคมไทยในช่วงฟุตบอลโลก (WORLD CUP 2022) หากมีการจัดถ่ายทอดสด จากศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ม.หอการค้าไทย พบว่า จะมีเงินสะพัด 75,815 ล้านบาท ลดลงจากเทศกาลฟุตบอลโลก 2018 ที่มีเงินสะพัด 76,897 ล้านบาท โดยเป็นวงเงินที่ใช้จ่ายในระบบเศรษฐกิจ 18,561 ล้านบาท และวงเงินนอกระบบเศรษฐกิจ (พนันบอล) 57,253 ล้านบาท

           

อย่างไรก็ตามแม้จะยังไม่มีความชัดเจนเรื่องลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลกออกมาก็ตาม แต่ในบรรยากาศการตลาดเริ่มมีแบรนด์ต่างๆออกแคมเปญเกาะกระแสฟุตบอลโลกให้เห็นกันต่อเนื่อง

 

นายวิเศษ สิงห์สัจจเทศ ประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มธุรกิจ บริษัท ยัสปาล จำกัด กล่าวว่า ยัสปาลเป็นแบรนด์แฟชั่นเพียงหนึ่งเดียวในไทย ที่ได้ลิขสิทธิ์อย่างเป็นทางการ (Official Licensed Products) FIFA WORLD CUP QATAR 2022 โดยบริษัทได้การออกแบบร่วมกับฟีฟ่า นำเสนอสินค้ากว่า 40 รายการ

อาทิ เสื้อผ้า และแอคเซสเซอรี เช่น กระเป๋า ผ้าพันคอ ฯลฯ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญของการใช้กลยุทธ์สปอร์ต มาร์เก็ตติ้ง เพื่อขยายฐานของลูกค้าของแบรนด์ให้เพิ่มมากยิ่งขึ้น จากเดิมที่เน้นกลุ่มลูกค้าที่มีไลฟ์สไตล์แฟชั่น ไปยังกลุ่มที่ชื่นชอบกีฬาฟุตบอลและผู้ที่สนุกสนานกับการส่วนร่วมกับในกระแสฟุตบอลโลกด้วย

“การได้ลิขสิทธิ์เป็นผู้ผลิตสินค้าไลฟ์สไตล์อย่างเป็นทางการในครั้งนี้ ถือเป็นการต่อยอดสู่รีจินอล หลังจากที่บริษัทรุกทำตลาดในหลายประเทศ อาทิ กัมพูชา เวียดนาม และมาเลเซีย ซึ่งหลังเปิดตัวคอลเลคชั่นนี้ ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีของยัสปาล”

           

ขณะที่ร้านค้าปลีกเฉพาะทางหรือสเปเชียลตี้ สโตร์ ในเซ็กเม้นท์กีฬา และเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างออกมาจัดแคมเปญเกาะกระแสบอลโลก เพื่อกระตุ้นยอดขายสินค้ากีฬาและเครื่องใช้ไฟฟ้า โดยเฉพาะทีวี อาทิ ซูเปอร์สปอร์ต กับแคมเปญ LET’S CHEER WORLD SOCCER 2022, สปอร์ต มอลล์ กับแคมเปญ SportsMall Expo : The Real Sports Event, เพาเวอร์บาย กับแคมเปญ เชียร์ติดสนาม คมชัด สมจริงทุกแมทซ์, พาวเวอร์ มอลล์ กับแคมเปญ BIG SCREEN FOR THE PERFECT MATCH เชียร์สนั่น มันส์ทะลุจอ ฯลฯ

             

นางสาววรลักษณ์ ตุลาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า นอกจากเดอะ มอลล์จะจัดแคมเปญ VISA x FIFA WORLD CUP QATAR 2022TM ถือเป็นการร่วมมือครั้งสำคัญระหว่างเดอะมอลล์ กรุ๊ป และ วีซ่า ผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการของ FIFA World Cup เพื่อสร้างสีสันปลุกบรรยาการฟีฟ่าเวิร์ดคัพ 2022 พร้อมจัดโปรโมชั่นครั้งยิ่งใหญ่และพิเศษสุดแล้ว เดอะมอลล์ ยังได้นำสินค้าลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลกมาจำหน่าย

ไม่ว่าจะเป็น “สปอร์ต มอลล์” ซึ่งนำสินค้าคอลเลคชั่นฟุตบอลโลกของ Adidas อาทิ เสื้อฟุตบอลทีมชาติญี่ปุ่น เยอรมนี สเปน เม็กซิโก อาร์เจนตินา ฯลฯ ลูกฟุตบอล รุ่น Alihla , รองเท้าฟุตบอล, เสื้อโปโลโลโก้ FIFA WORLD CUP เป็นต้น นอกจากนี้สปอร์ต มอลล์ ยังจัดแคมเปญ SportsMall Expo : The Real Sports Event นำสินค้าและอุปกรณ์กีฬา มาจำหน่ายในราคาพิเศษ

 

ขณะที่ “พาวเวอร์ มอลล์” จัดแคมเปญ BIG SCREEN FOR THE PERFECT MATCH” เชียร์สนั่น มันส์ทะลุจอ จำหน่ายสินค้าทีวี พร้อมจัดโปรโมชันราคาพิเศษ แบ่งชำระได้ 0% นานสูงสุด 10 เดือน เป็นต้น ซึ่งปัจจุบันพบว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และคาดว่าเมื่อใกล้วันแข่งขัน ยอดขายจะดีขึ้นต่อเนื่อง

           

นายพงษ์เทพ ศิริสกุลเวโรจน์ ผู้จัดการอาวุโส แผนกขายผลิตภัณฑ์ทีวี TVS REGZA Corporation สำนักงานประเทศไทย กล่าวว่า คาดว่าในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ตลาดสมาร์ตทีวีจะโตขึ้นอีกจากกระแสของการแข่งขันฟุตบอลโลก ที่จะเริ่มในปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ บริษัทจึงได้ส่งสินค้าเรือธง “TOSHIBA OLED 4K X9900L Series” ทำตลาดผลิตภัณฑ์ภาพและเสียงเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าสายคอนเทนต์ เกมเมอร์ และเหล่าคอบอล ซึ่งคาดว่าน่าจะได้รับผลตอบรับที่ดี ด้วยคุณภาพเด่นมากมายที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์การรับชมของผู้บริโภคในปัจจุบัน

           

ด้านดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า ไปรษณีย์ไทย ได้ร่วมกับไทยรัฐ จัดแคมเปญ “เชียร์บอลให้มัน เฮลั่นรับโชคทุกที่ทุกเวลา” ร่วมลุ้นรางวัลรวมกว่า 15 ล้านบาท โดยการส่ง “ไปรษณียบัตร” ทายผลการแข่งขันฟุตบอลระดับโลก ซึ่งสามารถหาซื้อได้ที่บุรุษไปรษณีย์ และที่ทำการไปรษณีย์ทุกแห่งทั่วประเทศ

 

รวมถึงจุดประชาสัมพันธ์ที่จัดขึ้นตามแหล่งชุมชน โดยจำหน่ายในราคาฉบับละ 2 บาท และในปีนี้ ไปรษณีย์ไทยได้อำนวยความสะดวกให้การทายผลการแข่งขันสามารถทำได้ทุกที่ทุกเวลา เข้ากับไลฟ์สไตล์ในยุคปัจจุบันด้วย “โปสการ์ดออนไลน์” ผ่านแอปพลิเคชัน Prompt Post เพียงโหลดแอปฯ ยืนยันตัวตน เลือกทีมที่ชอบ และจ่ายเงิน ในราคาฉบับละ 2 บาทเท่าเดิม