‘พิพัฒน์’ ชงครม. ของบ 8,700 ล้าน ของขวัญปีใหม่ กระตุ้นท่องเที่ยว

15 พ.ย. 2565 | 02:00 น.
อัปเดตล่าสุด :23 พ.ย. 2565 | 04:30 น.
512

‘พิพัฒน์’ ชงครม. ของบ 8,700 ล้านบาท ของขวัญปีใหม่ 2566 กระตุ้นท่องเที่ยว เดินหน้าโครงการ “เราเที่ยวด้วยกันเฟส5” รวมถึงกระตุ้นท่องเที่ยวปี 2566 สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวไม่น้อยกว่า 2.4 ล้านล้านบาท คิดเป็น 80% ของรายได้ก่อนเกิดโควิด-19

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ขณะนี้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) อยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล เพื่อเสนอของบประมาณจากรัฐบาล รวมเป็นมูลค่า 8,700 ล้านบาท ใช้จัดทำของ ขวัญปีใหม่ 2566 ให้กับประชาชน โดยจะนำเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในช่วงสิ้นเดือนนี้ เพื่อให้พ้นการประชุมเอเปค 2022 ไปก่อน

 

พิพัฒน์ รัชกิจประการ

 

ทั้งนี้การของบประมาณสำหรับ ของขวัญปีใหม่ 2566 กระตุ้นการท่องเที่ยว จะแบ่งการใช้งบประมาณออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่

 

1. เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5 ประมาณ 7,200 ล้านบาท 

 

2. โครงการกระตุ้นตลาดท่องเที่ยวในปี2566 วงเงิน 1,500 ล้านบาท แบ่งเป็น ตลาดต่างประเทศ 1,000 ล้านบาท เพื่อให้ได้นักท่องเที่ยวต่างชาติ 20 ล้านคน ตามที่นายกรัฐมนตรีสั่งการ และอีก 500 ล้านบาท จะใช้ส่งเสริมตลาดในประเทศ เพื่อเป้าหมายการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวในปี 2566 ไม่น้อยกว่า 2.4 ล้านล้านบาท คิดเป็น 80% ของรายได้ทางการท่องเที่ยวของไทยในปี 2562 ก่อนเกิดโควิด-19

 

นอกจากนี้กระทรวงการท่องเที่ยวฯจะหารือร่วมกับนายกฯ เพื่อขอให้นายกช่วยเจรจาหารือกับ สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน เพื่อขอให้รัฐบาลจีนผ่อนปรนและปลดล็อกให้พลเมืองเดินทางออกนอกประเทศได้

 

โดยเฉพาะจีนตอนใต้ ในการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวไทย ซึ่งมั่นใจว่าเมื่อนายกฯ ไทยได้พบสี จิ้นผิง จะมีการหยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมาหารือกันแน่นอน

 

เพราะต้องยอมรับว่านักท่องเที่ยวจีนเป็นตลาดลูกค้าหลักของไทย ที่ปี 2562 ก่อนเกิดโควิด-19 เข้ามาถึง 11 คน คิดเป็น 27% ของทั้งปี 2562 ในภาพรวมจำนวนต่างชาติ

สำหรับความไม่แน่นอน อุปสรรคในปี 2566 ที่น่ากังวล ได้แก่ สถานการณ์เศรษฐกิจโลก ราคาพลังงาน การปรับขึ้นดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ อาจทำให้เกิดภาวะค่าเงินผันผวน ส่วนเรื่องในประเทศ เป็นการกลับมาของภาคการท่องเที่ยวที่รวดเร็วมาก จนเราปรับตัวตามไม่ทัน เป็นปัญหาเรื่องซัพพลายไซด์ อาทิ โรงแรมเปิดบริการได้แค่ 70 ห้อง จากจำนวนทั้งหมด 100 ห้อง เนื่องจากพนักงานมีไม่เพียงพอ

 

ทำให้ต้องดูแลปัญหานี้ ที่อาจส่งผลกระทบต่อการส่งมอบสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยว ที่ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวให้ได้ดีที่สุด เพราะเราไม่ได้ต้องการให้นักท่องเที่ยวเข้ามาแค่ 1 ครั้งแล้วหายไป แต่ต้องการให้กลับเข้ามาเที่ยวใหม่อีกครั้งอย่างต่อเนื่อง

 

นอกจากนี้กลุ่มที่จะกระชากการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นได้ เป็นการเข้ามารักษาพยาบาลในไทย หรือการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ เพราะกลุ่มนี้มีค่าใช้จ่ายสูง ทั้งค่ารักษาพยาบาล การพักอาศัยเพื่อพักฟื้น ใช้จ่ายกินอยู่ และการท่องเที่ยวร่วมด้วย ทำให้กลุ่มนี้มีความน่าสนใจ และไม่สามารถปล่อยได้ อย่างการทำฟัน การแปลงเพศ ที่ไทยได้รับความนิยมเข้ามาใช้บริการจากนักท่องเที่ยวต่างชาติสูง

 

ด้านนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า โครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5 จำนวนประมาณ 2 ล้านสิทธิ ใช้งบประมาณอยู่ที่ 7,200 ล้านบาท พิจารณาจากต้นทุนค่าใช้จ่าย ประมาณ 3,600 บาทต่อคน รวมค่ามูลค่าโรงแรมที่อุดหนุนให้ 40% ไม่เกิน 10 ห้องหรือคืนต่อคน และคูปองอิเล็กทรอนิกส์ที่ 600 บาทต่อวัน ในระยะดำเนินการ 6 เดือน หรือหากเริ่มในเดือนมกราคม 2566 ได้ จะสิ้นสุดที่เดือนมิถุนายน 2566

 

ยุทธศักดิ์ สุภสร

 

โดยคาดการณ์ว่าจะทำให้เกิดมูลค่าเศรษฐกิจไม่น้อยกว่า 18,000 ล้านบาท ซึ่งนอกจากจะช่วยกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศแล้ว ยังมีส่วนอย่างยิ่งในการสนับสนุนการฟื้นตัวของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในประเทศด้วย