อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดแผน ปี 2566 ดันยอดส่งออกผลไม้สด-แปรรูปทั่วโลก

02 พ.ย. 2565 | 18:36 น.
อัปเดตล่าสุด :03 พ.ย. 2565 | 01:40 น.
680

อธิบดีกรมวิชาการเกษตร ร่วม “Asia Fruit Logistica “ งานผลไม้ผู้ส่งออกระดับโลก พร้อมกางแผนดันยอดส่งออกผลไม้สด-แปรรูปทั่วโลก เพิ่มไลน์สินค้า ตลาดจีน ซาอุดิอาระเบีย สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย โกยรายได้เข้าประเทศ

อธิบดีกรมวิชาการเกษตร  เปิดแผน ปี 2566 ดันยอดส่งออกผลไม้สด-แปรรูปทั่วโลก

 

วันที่ 2 พฤศจิกายน 2565 นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร ได้เข้าร่วมงาน Asia Fruit Logistica 2022 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC)  ซึ่งจัดงานระหว่างวันที่ 2-4 พฤศจิกายน 2565 โดยงานนี้เป็นงานแสดงสินค้าผักและผลไม้สดอันดับหนึ่งของเอเซีย และในปี 2565 นี้ มีการจัดนิทรรศการอย่างยิ่งใหญ่เพื่อฉลองครบรอบการจัดงาน 15 ปี

 

อธิบดีกรมวิชาการเกษตร  เปิดแผน ปี 2566 ดันยอดส่งออกผลไม้สด-แปรรูปทั่วโลก

การจัดงานครั้งนี้ครอบคลุมห่วงโซ่การแสดงสินค้าและบริษัทในอุตสาหกรรมผลิตผลไม้สดทั้งหมดจนถึงบริษัทที่สนับสนุนด้านบริการ ตลอดจนผลิตภัณฑ์และแนวคิดที่เป็นนวัตกรรม นำเสนอโอกาสพิเศษในการพัฒนาธุรกิจใหม่ รวมถึงเพิ่มองค์ความรู้การผลิตให้เกษตรกรเชื่อมโยงเครือข่ายการค้าระหว่างกัน และรวบรวมข้อมูลตลาดที่สำคัญในทุกแง่มุมของการค้าผลิตผลไม้สดทั่วทั้งภูมิภาคเอเชีย ซึ่งกรมวิชาการเกษตรให้ความสำคัญตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ

 

อธิบดีกรมวิชาการเกษตร  เปิดแผน ปี 2566 ดันยอดส่งออกผลไม้สด-แปรรูปทั่วโลก

ในโอกาสนี้อธิบดีกรมวิชาการเกษตรได้เข้าเยี่ยมชมบูทของราชอาณาจักรสเปน พร้อมพบปะเอกอัครราชทูตสเปนประจำประเทศไทย นายเอมิลิโอ เด มิเกล กาลาเบีย รวมถึงเบี่ยมชมบูท ประเทศสหรัฐอเมริกา และพบปะ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย นายโรเบิร์ต เอฟ. โกเดค โดยมีการแลกเปลี่ยนหารือประเด็นการยื่นขอเปิดตลาดผลไม้ของไทยกับทั้ง 2 ประเทศ รวมถึงการนำเข้าผลไม้สู่ประเทศไทย และประเด็นความร่วมมือด้านการค้าและการเกษตรด้านต่างๆ

อธิบดีกรมวิชาการเกษตร  เปิดแผน ปี 2566 ดันยอดส่งออกผลไม้สด-แปรรูปทั่วโลก

นอกจากนี้ยังเยี่ยมชมบริษัทที่มาจัดแสดงในงานจากประเทศต่างๆ เช่น จีน ออสเตรีเลีย ญี่ปุ่น ซาอุดิอาระเบีย พูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลถึงขั้นตอนการนำเข้าผลไม้สู่ประเทศไทย การบริการด้านการนำเข้า ข้อกฎหมายต่างๆที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการขอเปิดตลาดผลไม้ของประเทศต่างๆ และการส่งออกผลไม้ของไทย ตามนโยบาย Fruit Board ที่มุ่งมั่นเพิ่มปริมาณการส่งออกผลไม้ของไทย รวมถึงการแก้ไขปัญหาผลไม้เศรษฐกิจล่วงหน้าทั้งระบบ และแนวทางการบริหารจัดการผลไม้

 

อนึ่งประเทศไทยมีการส่งออก ผลไม้ ไปยังตลาดต่างประเทศซึ่งอันดับแรกคือ จีน คิดเป็น 84.75 % ของปริมาณการส่งออกทั้งหมด ตามมาด้วย มาเลเซีย อินโดนีเซีย เวียดนาม เกาหลีใต้และ สหรัฐอเมริกา โดยในปี 2565 ที่ผ่านมาประเทศไทยมีปริมาณการส่งออกผลไม้สดทั้งหมด 2.82 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่าการส่งออกผลไม้สูงถึง 1.8 แสนล้านบาท  ซึ่งจากการคาดการณ์การส่งออกผลไม้ในปี 2566 จะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องโดยมี จีน เป็นลูกค้ารายใหญ่มีปริมาณการส่งออกผลไม้สด 2.39 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 1.59 แสนล้านบาท คาดการณ์ว่าการส่งออกจะมีมูลค่าสูงถึง 2 แสนล้านบาท

 

อธิบดีกรมวิชาการเกษตร  เปิดแผน ปี 2566 ดันยอดส่งออกผลไม้สด-แปรรูปทั่วโลก

 

ปี 2565 ต่อเนื่องถึงปี 2566 กรมวิชาการเกษตรได้มีการยื่นขอเปิดตลาดสินค้าผลไม้เพิ่มเติมจากที่ส่งออกเดิมไปยังหลายประเทศ อาทิเช่น จีน (อินทผลัม เสาวรส สละ) ซาอุดิอาระเบีย (ขุยมะพร้าว)  สหรัฐอเมริกา (ลิ้นจี่ ลำไย มะม่วง มังคุด เงาะ สัปปะรด แก้วมังกร ส้มโอ)  ญี่ปุ่น (มะม่วง ส้มโอ มังคุด) และ ออสเตรเลีย (ลิ้นจี่ ลำไย มะม่วง มังคุด  สัปปะรด) ซี่งจะเป็นการขยายโอกาสของผลไม้ไทยสู่ตลาดโลกเพิ่มมากขึ้น

 

อธิบดีกรมวิชาการเกษตร  เปิดแผน ปี 2566 ดันยอดส่งออกผลไม้สด-แปรรูปทั่วโลก

 

นายระพีภัทร์ กล่าว ในตอนท้ายว่า นางสาว มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สั่งการให้อธิบดีกรมวิชาการเกษตร คุมเข้ม คุณภาพ ผลไม้ส่งออกทุกชนิดโดยเฉพาะมาตรฐานทุเรียน ส่งออกไปจีนพร้อมกับสั่งเดินหน้าปรับรหัสสวน GAP รูปแบบใหม่ เพื่อให้ทันการขึ้นทะเบียนส่งออกไปยังประเทศจีนรอบต่อไป ป้องกันการสวมสิทธิ์  เตือนผู้ประกอบการ และโรงคัดบรรจุรายใดส่งทุเรียนด้อยคุณภาพ ซึ่งกระทบต่อภาพลักษณ์และเศรษฐกิจ และผิดเงื่อนไขตามพิธีสารส่งออกผลไม้ไทยจีน ถือเป็นความผิดทางอาญา

 

 

 

ทั้งนี้ในงาน Asia Fruit Logistica กรมวิชาการเกษตรจัดนิทรรศการให้ความรู้ ในเรื่องการบริหารจัดการผลไม้ การใช้มาตรฐาน GAP GMP ในกระบวนการผลิตผลไม้ การนำเสนอขั้นตอนการนำเข้าผลไม้สดสู่ประเทศไทยตาม พรบ.กักพืช การใช้ระบบ E-Phyto ในการบริการการส่งออกให้กับเอกชน พร้อมจัดแสดงตัวอย่าง ทุเรียน มังคุด มะม่วง ลำไย อะโวกาโด เพื่อโชว์ถึงความพร้อมของประเทศไทยในการส่งออกผลไม้ไปอย่างต่างประเทศอย่างมีศักยภาพ สร้างรายได้มหาศาลให้กับประเทศไทย ด้วย