ปลุกมวลชน ยื่นจดหมายเปิดผนึก วันที่ 2 พ.ย. เร่งรัด พ.ร.บ.กัญชาฯ ให้ผ่านสภา

31 ต.ค. 2565 | 11:25 น.
อัปเดตล่าสุด :31 ต.ค. 2565 | 18:52 น.

อัพเดท ตลาดกัญชา-กัญชง 5 หมื่นล้านป่วน “ประพัฒน์-องอาจ” ปลุกมวลชน ยื่นจดหมายเปิดผนึก วันที่ 2 พ.ย.นี้ เร่งรัดกฎหมาย พ.ร.บ.กัญชาฯ ให้ผ่านสภา เพื่อผลักดันกัญชาไทย สู่พืชเศรษฐกิจ ชี้อนาคตผวาเปลี่ยนขั้วรัฐบาล กลับไปขึ้นบัญชียาเสพติดใหม่ ธุรกิจเจ๊งระนาว

เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2565  สภาผู้แทนราษฎร จัดการประชุม โดยมีนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1  ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม พิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง  พ.ศ. .. ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญฯ พิจารณาเสร็จแล้ว ในวาระสอง ในวันดังกล่าวที่ประชุมเสียงส่วนใหญ่มีมติให้ถอนร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ออกจากระเบียบวาระการประชุมสภาฯ ด้วยคะแนน 198 ต่อ136 งดออกเสียง 12 ไม่ลงคะแนน 1 เสียง

 

 

ปลุกมวลชน ยื่นจดหมายเปิดผนึก วันที่ 2 พ.ย. เร่งรัด พ.ร.บ.กัญชาฯ ให้ผ่านสภา

ต่อกรณีดังกล่าวนี้ นายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์  กรรมาธิการและที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ กัญชา กัญชง พ.ศ......... และประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า เข้าใจว่าเป็นเรื่องการเมือง แล้วก็อยากให้ กฎหมายฉบับนี้ได้ผ่าน จึงได้เชิญชวนทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องนัดกันในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2565 จะไปยื่น จดหมายเปิดผนึกถึง ประธานรัฐสภา และหัวหน้าพรรคการเมืองที่มีสมาชิกเป็น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เรื่อง ขอความกรุณาเร่งรัด บรรจุวาระการประชุม พิจารณาลงมติ ร่างพระราชบัญญัติ กัญชา กัญชง พ.ศ.......ที่รัฐสภา

 

 

เนื่องจาก สภาผู้แทนราษฎร ได้ประชุมพิจารณา ร่างพระราชบัญญัติกัญชา กัญชง พ.ศ..... และลงมติรับหลักการ ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว รวมถึงให้มี คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ (กมธ.) ซึ่งมี กรรมาธิการ และ ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการ จาก พรรคการเมือง หน่วงงานราชการ ภาคเอกชน และประชาสังคม จนถึงปัจจุบัน คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ (กมธ.) ได้พิจารณาจนเสร็จสิ้นแล้วนั้น

 

"กระผม นายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ในฐานะ กรรมาธิการและที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการ และ กรรมาธิการอีกหลายท่าน เห็นถึงความจำเป็นที่ต้องเร่งรัด ร่างพระราชบัญญัติ กัญชา กัญชง พ.ศ..... เพื่อสร้างความชัดเจน ในการส่งเสริมกิจกรรมทางธุรกิจ สร้างโอกาสทางเศรษฐกิจใหม่ๆ ให้แก่ผู้ประกอบการและเกษตรกรโดยทั่วไป รวมถึงสร้างความมั่นใจ ให้แก่ประชาชนในสังคม ว่า จะไม่มีผลกระทบต่อกลุ่มเปาะบาง โดยเฉพาะกลุ่มเด็กและเยาวชน เพราะรายละเอียดใน ร่างพระราชบัญญัติ กัญชา กัญชง พ.ศ...... ที่ผ่านการพิจารณาจาก คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ มีการบรรจุการควบคุม พืชกัญชา และ พืชกัญชง อย่างรอบคอบ และ รัดกุม"

 

ปลุกมวลชน ยื่นจดหมายเปิดผนึก วันที่ 2 พ.ย. เร่งรัด พ.ร.บ.กัญชาฯ ให้ผ่านสภา

 

รวมถึง ปัจจุบันมีผู้ประกอบการรายกลาง รายใหญ่ และกลุ่มเกษตรกรรจำนวนมาก ที่ได้ประกอบธุรกิจ ตั้งแต่ การเพาะปลูก การแปรรูป และการประกอบอาหาร ที่เกี่ยวข้องกับ พืชกัญชา และ พืชกัญชง เป็นจำนวนหลายแสนราย รวมตลาดคาดว่าจะกระทบมากกว่า 5 หมื่นล้านบาท  จึงขอความอนุเคราะห์ ท่านฯ บรรจุวาระให้มีการพิจารณา ร่างพระราชบัญญัติ กัญชา กัญชง พ.ศ...... วาระที่ 2 และ 3 โดยด่วน เพื่อสร้างความชัดเจน ให้แก่สังคม และ สร้างโอกาสทางเศรษฐกิจใหม่ๆ ให้แก่ประชาชนโดยทั่วไป     

ปลุกมวลชน ยื่นจดหมายเปิดผนึก วันที่ 2 พ.ย. เร่งรัด พ.ร.บ.กัญชาฯ ให้ผ่านสภา

 

เช่นเดียวกับนายองอาจ ปัญญาชาติรักษ์ ผู้บริหารฟาร์มเกษตรอินทรีย์เพชรล้านนา และ ผู้ร่วมก่อตั้งร้าน RG420 cannabis store ข้าวสาร กล่าวว่า  เรื่องของกฎหมายปัจจุบันมีการปลดล็อคเอากัญชาออกจากบัญชียาเสพติดแล้วและมีการใช้กฎหมายอื่นๆ เช่น กฎหมายสมุนไพรเข้ามาควบคุม การจำหน่าย  และพรบ.สาธารณสุข เรื่องการรบกวนผู้อื่น สูบในที่สาธารณะ

 

"มองว่าเป็นการใช้ พรบ.ที่ไม่ตรงกับเรื่องจริง ทำให้การบังคับใช้เกิดความไม่เข้าใจในตัวเจ้าหน้าที่และผู้ประกอบการ ทำให้เกิด 2 เรื่องตามมา ก็คือ 1.เรื่องการบังคับใช้ที่ไม่เต็มประสิทธิภาพ และ 2.ความไม่มั่นใจของผู้ประกอบการ หรือนักธุรกิจ ทำให้เป็นเรื่องของความเสี่ยงของกฎหมายต่างๆ ทำให้ธุรกิจกัญชาไม่สามารถที่จะก้าวไกลข้างหน้าได้ เป็นสาเหตุที่อยากให้มีการบังคับใช้กัญชา กัญชง เจ้าหน้าที่ นักธุรกิจผู้ประกอบการมีความมั่นใจมากขึ้น"

 

ปลุกมวลชน ยื่นจดหมายเปิดผนึก วันที่ 2 พ.ย. เร่งรัด พ.ร.บ.กัญชาฯ ให้ผ่านสภา

 

นายองอาจ กล่าวว่า ตอนนี้ธนาคารต่างๆ ก็ไม่กล้าปล่อยให้สินเชื่อ เพราะไม่มั่นใจเรื่องของกฎหมาย ต้องการความเสี่ยงน้อย แต่ถ้า พรบ.ไม่ออกมาก็ไม่รู้เลยว่าอนาคตเกิดอะไรขึ้น ธนาคารก็ไม่กล้าปล่อย นักธุรกิจก็ไม่กล้าลงทุน ทำให้เกิดผลเสียในธุรกิจไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นล้าน ตั้งแต่เกษตรกร ที่ลงทะเบียนปลูกมากกว่า 1 ล้าน คน รวมไปถึงธุรกิจเกี่ยวเนื่องอื่นๆอีก

 

"ในฐานะนักธุรกิจคนหนึ่ง เอาให้แน่ว่าจะทำอย่างไร เอาให้ชัด จะได้ทำตัวถูก ทุกวันนี้ทำตามกรอบกฎหมายที่มี บังคับควบคุมกฎหมายทีมีอนาคตเป็นอย่างไรก็ตอบไม่เต็มปากว่าไม่รู้ จะมีการเปลี่ยนแปลงหรือบังคับเพิ่ม หรือจะโดนกลับไปเป็นยาเสพติดใหม่อีกครั้งหนึ่งแล้วธุรกิจที่ผู้ประกอบการได้มีการลงทุนกันไปแล้วจะอย่างไร”

 

ปลุกมวลชน ยื่นจดหมายเปิดผนึก วันที่ 2 พ.ย. เร่งรัด พ.ร.บ.กัญชาฯ ให้ผ่านสภา

 

นายองอาจ กล่าวว่า คำถามคือ ร่างมาด้วยกัน แล้วทำไมตอนร่างทำไมไม่ทำให้ดี แล้วทุกครั้งที่ประชุมกรรมาธิมาธิการก็มีการแถลงข่าวทุกครั้ง มีการทำให้รัดกุมมากขึ้นจาก 40 มาตรา เป็น 100 มาตราแล้ว เรื่องไหนหรือที่เป็นกังวล ถามกลับไปก็ไม่มีคำตอบกลับมา ส่วนวาระ 2 ก็มีสิทธิ์ที่จะแปรญัตติอยู่แล้ว ทำไมไม่ทำ รออะไร มีแต่เรื่องการเมือง มองว่าไม่ดีที่เอาอนาคตของประชาชน ประเทศชาติมาเล่นการเมืองกันแบบนี้ โดยส่วนตัวว่าน่ารังเกียจ

 

 

"ราคากัญชาก่อนปลดล็อกเสรี ใบกัญชาแห้ง ขายกิโลกรัมละ 3 หมื่นบาท ตอนนี้กิโลกรัมละ 1,000 บาท ยังไม่มีคนซื้อเลย เราก็ไม่ว่ากันในเมื่อซัพพลายมีมากในตลาดทุกคนสามารถปลูกได้เรายอมรับได้และทุกวันนี้ก็หาตลาดเอง จะเป็นพวกนักท่องเที่ยว สร้างธุรกิจที่ไม่เกี่ยวเนื่องกับคนไทยเพราะทราบทุกบ้านปลูกได้แล้วจะขายคนไทยทำไม ขายได้อย่างไร มุ่งตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติและการส่งออก เพราะกัญชาไทยมีศักยภาพในเรื่องอาหาร สมุนไพร อาหารเสริม แต่ว่าขาดความมั่นใจที่จะทำให้เกิดการพัฒนา"