“ล้ง-เกษตรกร” ค้าน ปลด “ชลธี” ผวาเปลี่ยนม้ากลางศึก ตลาดทุเรียนจีนแสนล้านพัง

24 ต.ค. 2565 | 13:46 น.
อัปเดตล่าสุด :24 ต.ค. 2565 | 20:46 น.
1.8 k

วันพรุ่งนี้ เปิดไทม์ไลน์ “ล้ง-เกษตรกร” ผนึกสมาคมทุเรียนไทย สมาคมผู้ค้าและผู้ส่งออกผลไม้ไทย ผนึก เครือข่ายเกษตรกรชาวสวนภาคตะวันออก ให้กำลังใจ “ชลธี นิ่มหนู” หลังโดนเด้งฟ้าผ่า ช่วงบ่ายแถลงข่าว เรียกร้องให้ทบทวนคำสั่งใหม่ ผวาเปลี่ยนม้ากลางศึก ตลาดทุเรียนจีนแสนล้านพัง

สืบเนื่องจาก กรมวิชาการเกษตร ได้มีคำสั่งย้ายด่วน นายชลธี นุ่มหนู ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรที่ 6 (สวพ.6) ให้เข้าดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการกองพัฒนาระบบและรับรองมาตรฐานสินค้าพืช กรมวิชาการเกษตร และมีคำสั่งให้ นายพิทวัฒน์ อ่อนทองหลาง ผู้อำนวยการกองพัฒนาระบบและรับรองมาตรฐานสินค้าพืช เข้าดำรงตำแหน่ง ผอ.สวพ.6 นั้น

 

“ล้ง-เกษตรกร”  ค้าน ปลด “ชลธี”  ผวาเปลี่ยนม้ากลางศึก ตลาดทุเรียนจีนแสนล้านพัง

 

นายสัญชัย ปุรณะชัยคีรี” นายกสมาคมผู้ค้าและส่งออกผลไม้ไทย เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ในวันพรุ่งนี้ (25 ต.ค.65) ทางสมาคม และสมาคมทุเรียนไทยและเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนภาคตะวันออกจะชวนพ่อแม่พี่น้องชาวสวนทุเรียนไปร่วมให้กำลังใจ ผอ.ชลธี นุ่มหนู  ณ สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 6 (สวพ.6) และช่วงบ่ายวันเดียวกัน จะตั้งโต๊ะแถลงข่าว ให้มีการทบทวน ระงับ คำสั่งโยกย้ายใหม่ ไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น

 

“สมมติฐานฯ คาดว่า น่าจะเป็นปัญหา GAP คิดจำนวนเป็นไร่ ทาง สวพ.6  ไปรีบออกให้ชาวบ้านทั้งหมดเลย กลัวปีหน้า GAP ไม่มีใช้ แล้วยังไปชี้โพรงอีกไม่อยากเสียเงินตรวจ GAP ของเอกชน ให้ไปรวมตัวเป็นสหกรณ์ให้หมด ซึ่งมองว่าน่าจะไปขัดรายได้ จึงทำให้มีหลายสมาคมและเกษตรกร ผู้ค้า จะแถลงข่าวช่วงบ่ายทั้งหมด ขอคัดค้านคำสั่งโยกย้ายไม่ชอบธรรม”

“ล้ง-เกษตรกร”  ค้าน ปลด “ชลธี”  ผวาเปลี่ยนม้ากลางศึก ตลาดทุเรียนจีนแสนล้านพัง

 

นายวุฒิชัย คุณเจตน์ นายกสมาคมทุเรียนไทย กล่าวว่า ในส่วนของภาคเอกชนไม่เห็นด้วยกับคำสั่งชุดนี้ ก็อยากให้ทางกรมวิชาการเกษตรได้ทบทวนคำสั่งใหม่ จากผลคำสั่งดังกล่าวในการเปลี่ยนม้ากลางศึกกลางคัน ทำให้ได้รับผลกระทบกระเทือนถึงตลาดแสนล้าน อย่างไรบ้าง ในวันพรุ่งนี้แต่ละภาคส่วนจะแถลงข่าวอย่างเป็นทางการในช่วงบ่าย

 

 

“ล้ง-เกษตรกร”  ค้าน ปลด “ชลธี”  ผวาเปลี่ยนม้ากลางศึก ตลาดทุเรียนจีนแสนล้านพัง

 

เช่นเดียวกับ นางบุษบา นาคพิพัฒ นายกสมาพันธ์ชาวสวนทุเรียนไทยภาคตะวันออก กล่าวถึง  นายชลธี นุ่มหนู (ผอ.สวพ.6) ผู้ที่ทำงานต่อสู้เพื่อชาวสวนทุเรียนไทย   ที่ทุ่มเทการทำงานปราบปรามทุเรียนด้อยคุณภาพไม่ให้ส่งออกไปยังประเทศคู่ค้า   เพื่อไม่ให้เสียชื่อเสียงให้กับวงการทุเรียนบ้านเรา  คนที่ทำงานเพื่อประเทศชาติ งานที่เขาทุ่มเทมาตลอดเพื่อเกษตรกรชาวสวนทุเรียนคนทำงานที่ตรงไปตรงมา และอุทิศตนเพื่องานแบบนี้ ทำไมไม่ให้เขาสานต่อตามเจตนารมย์ เพื่อลูกหลานชาวจันทบุรี และ ทุเรียนไทย

 

“ล้ง-เกษตรกร”  ค้าน ปลด “ชลธี”  ผวาเปลี่ยนม้ากลางศึก ตลาดทุเรียนจีนแสนล้านพัง

 

นายภานุศักดิ์ สายพานิช ที่ปรึกษาและอดีตนายกสมาคมทุเรียนไทย กล่าวว่า จะเห็นว่าผลงานที่ผ่านมามีมาก แม้แต่ทูตเกษตรในแต่ละท่าน คนจีน พ่อค้า ลูกค้า และผู้บริโภค ทุเรียนไทยในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ส่งไป 10 ลูก รับประทานได้เกือบหมด ต่างจากก่อนหน้านี้ที่ส่งไป 10 ลูก รับประทานได้ 2 ลูก เพราะฉะนั้นก็ทำให้ราคากลับมาดีขึ้น การตอบรับปลายทางจีนก็ดีขึ้น สูงขึ้น แม้ว่าปริมาณผลผลิตจะเพิ่มขึ้น ก็ต้องยอมรับว่า ผอ.มีส่วนที่ช่วยเป็นจุดเริ่มต้น คราวนี้ที่เป็นห่วงก็คือไม่ได้ปรักปรำคนใหม่ที่จะมา แต่ว่าตอนนี้เรามีศึกกับเวียดนาม สามารถส่งทุเรียนเข้าแล้ว และยังมีประเทศอื่นตามมาอีกหลายประเทศ

 

ถ้าเราเปลี่ยนขุนพลที่สำคัญจะเกิดอะไรขึ้นในการควบคุณภาพ จุดสำคัญอยู่ตรงไหน ก็คือการควบคุมคุณภาพต้นทาง ถ้ากฎหมาย เรื่องทุเรียนอ่อนออกมาจะเบาใจลงแล้ว แต่ว่าตรงนี้ยังไม่มี เพราะฉะนั้นต้องการเจ้าหน้าที่ที่กล้าลุย กล้าเข้าไปรักษาคุณภาพของทุเรียนไทย เพราะฉะนั้นอยากให้ทบทวนคำสั่ง ให้ผอ.ปฏิบัติหน้าที่ต่อเพื่อช่วยทุเรียนไทยก่อน

 

“ล้ง-เกษตรกร”  ค้าน ปลด “ชลธี”  ผวาเปลี่ยนม้ากลางศึก ตลาดทุเรียนจีนแสนล้านพัง

 

ปิดท้ายนายภาณุวัชร์ ไหมแก้ว นายกสมาคมผู้ประกอบการส่งออกทุเรียนมังคุดแห่งประเทศไทย กล่าวอีกมุมมองที่น่าสนใจ ว่า  เข้าใจเป็นระบบของราชการ เป็นเรื่องปกติ การโยกย้ายตำแหน่ง แล้วแต่ผู้บังคับบัญชา มองความคิดเห็นเป็นอย่างไร ไม่กล้าไปก้าวก่าย แต่ก็ยอมรับว่า ผอ.ชลธี มีประสิทธิภาพในการทำงาน มองว่าถ้าโยกย้ายไปแล้ว มีโอกาสขึ้นเป็นรองอธิบดี และ อธิบดี ถัดไป เชื่อว่ามุมมองทุเรียนไทยสามารถจะพัฒนาได้ทั้งประเทศ แต่ถ้าอยู่ในปัจจุบันนี้สามารถพัฒนาได้แค่ภาคตะวันออก แต่ภาคอื่นๆ ไม่สามารถพัฒนาได้ อำนาจจำกัด