อีลิทการ์ดเปิดเกมท่องเที่ยวยั่งยืน ดึงกลุ่มศักยภาพเข้าไทย

14 ต.ค. 2565 | 16:48 น.
อัปเดตล่าสุด :15 ต.ค. 2565 | 00:43 น.

ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด หรือ อีลิทการ์ด ภายผนึก 3 องค์กร เปิดเกมท่องเที่ยวยั่งยืน “The Network of Inclusive Growth and Sustainable Society” เพิ่มนักท่องเที่ยวและนักลงทุนชาวต่างชาติกลุ่มศักยภาพสูงเดินทางเข้าพำนักหรือท่องเที่ยวในประเทศไทย

ประเทศไทยถือเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยว      ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 30 กันยายน 2565 ประเทศไทยมีโอกาสต้อนรับนักท่องเที่ยวแล้วกว่า 5.6 ล้านราย สร้างรายได้กว่า 2 แสนล้านบาทขณะที่องค์การการท่องเที่ยวโลกแห่ง สหประชาชาติ (UNWTO) ได้จัดอันดับการฟื้นตัวทางการท่องเที่ยวทั่วโลกและประเทศไทยได้รับการจัดอันดับที่ 1 ด้านจำนวนการจองห้องพัก และเป็นอันดับ 2 ด้านความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยว จาก 10 อันดับประเทศท่องเที่ยวโลก

 

ททท. เปิดเกมท่องเที่ยวยั่งยืน ดึงกลุ่มศักยภาพเข้าไทย


นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว ททท. รักษาการแทนผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด หรือ อีลิทการ์ด  เปิดเผยว่าในกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศไทยในช่วงที่ผ่านมามีผู้ถือบัตรสมาชิก ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ดรวมอยู่ด้วยโดยปัจจุบันสมาชิกผู้ถือบัตรสมาชิกพิเศษ ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด มีจำนวนกว่า 20,200 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงมีความต้องการพำนักระยะยาว และ กลุ่มนักลงทุน คาดว่าจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

 

บริษัทฯ ได้วางกลยุทธ์ในการพัฒนาบริการควบคู่ไปกับการเติบโตอย่างยั่งยืน ตามแนวคิด ESG พร้อมกับการคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล โดยมีเป้าหมายในการสร้างความแข็งแกร่งให้กับชุมชน เป็นการวางรากฐานให้เกิดการเติบโตอย่างยั่งยืน เป็นไปตาม นโยบายเศรษฐกิจ BCG ของรัฐบาล เพื่อขยายไปยังกลุ่มชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงและกลุ่มที่พำนักระยะยาว

ททท. เปิดเกมท่องเที่ยวยั่งยืน ดึงกลุ่มศักยภาพเข้าไทย

โดยสนับสนุนเงินทุนที่ได้จากกำไรของการขายบัตรสมาชิกที่ผ่านมา ให้กับหน่วยงานที่ดำเนินการพัฒนาด้านการท่องเที่ยวในพื้นที่และการพัฒนาในเชิงสังคม เพื่อก่อให้เกิดการต่อยอดนำสู่การวางรากฐานการเติบโตของชุมชนและสังคม ในประเทศที่เข้มแข็ง ภายใต้แนวคิด “The Network of Inclusive Growth and Sustainable Society: เครือข่ายแห่งการให้สู่สังคมที่ยั่งยืน”

โดยผสานความ ร่วมมือกับ 3 องค์กรพันธมิตรหลัก ได้แก่ 

• มูลนิธิฮักเมืองน่าน จัดกิจกรรมโครงการรณรงค์ปลูกจิตสำนึก โครงการ “กล้าดี” ซึ่งจัดต่อเนื่อง เป็นระยะเวลากว่า 7 ปี เพื่อเป็นการสร้างกระบวนการเรียนรู้และพัฒนาที่เหมาะสม รวมถึงสร้างจิตสำนึกที่ดีแก่เยาวชนให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และระบบนิเวศที่เชื่อมโยงกับวิถีชีวิตท้องถิ่น อันจะก่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนในอนาคต 

• มูลนิธิสร้างรอยยิ้ม (Operation Smile Thailand) สำหรับโครงการหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ให้การผ่าตัดภายในหนึ่งสัปดาห์ (Weeklong Medical Missions) ซึ่งเป็นองค์กรการกุศลที่ไม่แสวงหาผลกำไร มีพันธกิจในการให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยยากไร้ที่มีภาวะปากแหว่งเพดานโหว่ รวมถึงแผลไฟไหม้ และความผิดปกติบนใบหน้าอื่น ๆ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งในปี 2565 มูลนิธิฯ มีแผนการดำเนินงานในการผ่าตัดให้ผู้ป่วยจำนวน 120 ราย ที่โรงพยาบาลแม่สอด จังหวัดตาก ภายใต้ “โครงการหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ให้การผ่าตัดภายในหนึ่งสัปดาห์ (Weeklong Medical Missions)” 

• โครงการพัฒนาโรงเรียนต้นแบบ Dynamic School Thailand มีจุดมุ่งหมายและอุดมการณ์ที่จะพัฒนาด้านการศึกษาให้กับโรงเรียนขนาดเล็กที่มีความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ตลอดจนปัญหา งบประมาณ      ในการพัฒนาโรงเรียน โดยนำเสนอโมเดลต้นแบบโครงการ “หนึ่งโรงเรียนหนึ่งแปลงเกษตรอินทรีย์(One School One Organic Farm)” ซึ่งโมเดลดังกล่าวถือเป็นนวัตกรรมที่เข้ามาช่วยบูรณาการในเรื่องการจัดการพื้นที่ การจัดการการเรียนรู้ และจัดการกลไกธุรกิจ ซึ่งจะเป็นการพัฒนาโรงเรียนขนาดเล็กให้มีความเข้มแข็ง จนสามารถพึ่งพาตนเองได้ 

 

นอกจากนั้น ยังได้ดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอื่น ๆ อาทิ โครงการ TPC Community Care 2022 มุ่งเน้นเรียนรู้วิถีชีวิตชาวสวนตาลของชุมชนถ้ำรงค์ จ.เพชรบุรี โดยร่วมปลูกต้นตาลกับชาวบ้าน เพื่อเพิ่มพื้นที่ป่าให้ชุมชน ทาสีทางเข้าโรงเรียนถ้ำรงค์เพื่อปรับปรุงภูมิทัศน์ร่วมกับนักเรียน ตลอดจนการระดมพลังความคิด พูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้ร่วมกัน เพื่อนำองค์ความรู้ที่ได้ไปพัฒนาต่อยอดการท่องเที่ยวของชุมชนให้ยั่งยืน หรือ โครงการ TPC Impact Day 2022 ณ ชุมชนไทรน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ที่สร้างความแตกต่างจากการทำ CSR ในรูปแบบเดิม โดยการระดมจิตอาสาไปให้ความรู้ สอบถามความต้องการของชาวชุมชนเป็นหลัก และนำมาดัดแปลงเพื่อให้เข้ากับทักษะของคนในชุมชนและต่อยอดเพื่อให้ชุมชนอยู่ได้และเติบโตอย่างยั่งยืน 

 

"การความร่วมมือในครั้งนี้คาดว่าจะนำมาซึ่งการสร้างเครือข่ายแห่งการให้ครั้งยิ่งใหญ่ ส่งต่อแนวคิดการ พัฒนาที่ยั่งยืน เพื่อสร้างสังคมและชุมชนที่เข้มแข็ง รากฐานสำคัญของการพัฒนาเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ของประเทศให้เติบโตขึ้นเป็นผู้นำในระดับภูมิภาค พร้อมยังคงเดินหน้ามอบประสบการณ์และสิทธิสุดพิเศษอย่าง เหนือระดับ สร้างความเชื่อมั่นให้ประเทศไทยเป็น Tourism Destination จุดหมายปลายทางที่อยู่ในหัวใจของ นักท่องเที่ยวต่างชาติได้อย่างแท้จริง"